"เออ" เจ้าขวัญพยักหน้า
"พี่ขวัญมาแต่เมื่อไหร่นี่น่ะ" เรียมถามขึ้นเพราะฉงนที่เจ้าขวัญมักเปนเงาตามตัวเธออยู่แทบทุกฝีก้าวอย่างเงียบเชียบ
"พี่มาคอยอยู่ก่อนแต่เช้า ไม่ได้เอาอ้ายเรียวมาหรอก กลัวหน่อยจะเสือกไปลอยคออยู่ในคลองให้เกิดความอีก พี่คอยเจ้าอยู่นานนักจึงไปนั่งตากผ้าเสียหลังพงอ้อโน้น"
"ทรหดจริงเชียวพี่ขวัญ เมื่อคืนถึงบ้านกี่ทุ่ม"
"ข้าไม่มีในฬิกาดู แต่คะเนว่าพอหลับครู่เดียวก็ไก่ขัน กว่าจะไปถึงหมูหมาโห่กันเกรียวหมด เจ้าล่ะ"
"ฉันน่ะรึ" เรียมว่า "ยืนดูพี่ขวัญจนลับตาแล้วก็กลับไปถึงเจ้ารอดยังไม่ตื่นเลย จนวันนี้เจ้ารอดก็ยังไม่รู้ว่าเราไปนั่งคุยกันที่นั่น"
"ขี้เซายังงี้ ควายมันจะหมดคอก เออนี่เจ้าบนเจ้าพ่อท่านแล้วหรือ"
"เรียบร้อยแล้ว ก็พอดีพี่ขวัญมาถึง" เรียมตอบยิ้มแย้มวิญญาณเธอครั้งโน้นล่องลอยกลับมาอีก แม้เสื้อผ้าที่แต่งกายอยู่ขณะนี้ก็ไม่ผิดเพี้ยนกับเรียมชาวนาคนเก่าเท่าไร นอกจากทรงผม "พี่ขวัญ ฉันมาบางกะปิหนนี้ใจคอมันรู้หวาด ๆ เผลอ ๆ ไปยังไงไม่รู้ คล้าย ๆ กับว่ามีใครไปดลจิตร์หวนมา รู้สึกอยากจะอยู่บางกะปิของเราเสียจริง ๆ ไม่อยากกลับบางกอกเลย เออ ถ้าฉันอยู่บางกะปิแล้วฉันจะตัดผมเสียอย่างเก่าดีไหมจ๊ะพี่ขวัญ"
"ดีซีเจ้า" ขวัญรีบรับคำแล้วยกมือไหว้ไปบนศาล "เจ้าพ่อเปนแน่เทียวเจ้าประคุณ นี่เรียมพี่นึกว่าเพราะเจ้ากับพี่ได้สาบาลกันไว้นั่นและ ทั้งพี่ก็บนบวงเส้นวักอยู่ทุกวันตั้งแต่เจ้าจากพี่ไปอยู่บางกอกแลพี่ก็เคยเปนลูกท่านมาด้วย ท่านจึงดลใจให้เจ้ากลับมาหาพี่อีก เออเรียมเอ๋ย ผลซื่อในความรักของเรานั่นและเจ้าเรียมมันสำคัญกว่าไร ๆ ทั้งหมด พี่ซื่อในคำของพี่เจ้าก็ซื่อในคำของเจ้า เออ เจ้าประคุณ วันนี้ลูกมาพร้อมหน้าแล้วทั้งสองคน ขอเจ้าพ่อศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มเกรงและให้รักของข้าทั้งสองจงสำเร็จเถิด"