หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

แล้วว่ายคลอไปข้าง ๆ เรือ ผ่านตลิ่งเก่าลำน้ำเก่าพงอ้อกอเข้าซึ่งละม้ายเหมือนของเดิมเมื่อสามปีโน้นแล้ว เจ้าขวัญก็เอ่ยชวนขึ้นว่า

"เรียมเอ๋ย เจ้าจำได้ไหมว่า น้ำนี้คือน้ำโน้นที่มันไหลผ่านตลิ่งไปเมื่อสามปีแล้วกลับมาอีก น้ำก็เหมือนเจ้า ตลิ่งก็เหมือนพี่ เมื่อน้ำยังฝั่งก็เย็นเท่านั้นเอง เจ้าจะไม่ลงเล่นน้ำกับพี่มั่งเลยหรือ"

เรียมนั่งฟังอยู่บนเรือ จิตใจเจ้าเคลิบเคลิ้มไปในธรรมชาติที่เจ้าขวัญรำพัน เธอนึกอยากจะลงตามคำวอนของมัน แต่กระดากใจเจ้ารอดมาด้วย แม้มันจะไม่พูด มันก็ยิ้มได้

ผลสุดท้าย เจ้าขวัญก็จัดแจงไล่เจ้ารอดให้ไปดูต้นทางอยู่คุ้งทางโน้นเยี่ยงเดียวกับวันก่อน ส่วนมันกับเจ้าเรียมก็ลงแหวกว่ายดำขึ้นดำล่องตามอารมณ์ตามถิ่นฐานของธรรมชาติซึ่งเคยเปนที่สำราญมาแต่ก่อนทั้งตามน้ำและทวนน้ำ เจ้าขวัญให้เรียมเกาะบ้าง มันอุ้มไปบ้าง โดยไม่เหน็ดเหนื่อยหวั่นไหว แล้วก็พักคุยหยอกเย้ากันตามพุ่มไม้ชายฝั่ง เจ้าขวัญชี้ให้เรียมดูปลาที่ว่ายเคียงผ่านหน้าไปเปนคู่ ๆ แล้วมันก็ร้องเพลงของชนบทขึ้นเห่กล่อมเจ้าเรียมรำพันถึงธรรมชาติที่ต้องมีของคู่กัน เข้าคู่นา ปลาคู่น้ำ แล้วก็ลงด้วยกลอนด้นที่ว่า มันต้องคู่กับเจ้าเรียม เมื่อร้องจบก็สรวลเสเฮฮาสำราญใจ พอเวลาสมควร มันก็ให้เจ้าเรียมขึ้นนั่งเรือ ส่วนตัวมันว่ายคลอคู่ไปส่งกระทั่งถึงหัวคุ้งที่เจ้ารอดนั่งอยู่ มันก็สั่งเสียนัดแนะชวนเจ้าเรียมมาเล่นน้ำสำราญกันในวันสายรุ่งขึ้น และพบกันคืนนี้ที่ลำกระโดง แล้วเจ้าขวัญก็อำลาสาว ล่องน้ำกลับ ทั้งว่ายทั้งดำมาตามสายน้ำ กระทั่งเข้าเขตเนื้อนาโน้นอันเปนของผู้ใหญ่เขียน

วันรุ่งไม่ทันสาย เจ้าขวัญกุลีกุจออยู่กับงานหว่านเพื่อให้ร่วม ๆ เข้าไป มันจะได้แอบไปลงน้ำ ผู้ใหญ่เขียนมองดูลูกชายวันนี้รู้สึกแคลงใจพูดไม่ถูก มันยิ้มแย้มเต็มอกเต็มใจในงานหว่านผิดกว่าทุกวัน หัวร่อร่าพูดเสียงดังผิดเคย แต่ว่าเจ้าขวัญมันหน้าดำเสีย

๗๕