อีกสองคนมาถึงตั้งแต่สามโมงเช้า เพราะคุณนายไม่สบาย จึงให้มารับเธอกลับในเย็นวันนี้ให้ได้ นับว่า เปนข่าวกะทันหันที่ทำให้เรียมใจเสีย ไม่มีเวลากลับตัวเลย ทั้งเวลานัดของเจ้าขวัญก็ใกล้เข้ามา ทางคุณสมชายก็เร่งให้เก็บเข้าของลงกระเป๋าให้เรียบร้อยเสียก่อน เรียมอึก ๆ อัก ๆ มองดูพ่อกับพี่เริญ หมายว่า จะพูดจาทักท้วงขอร้องไว้บ้าง ก็เปล่า มีแต่ช่วยเร่งให้เร็วหนักขึ้น ครั้นหวนนึกถึงบุญคุณของคุณนายทองคำ และความรักใคร่ของสมชาย ความดีหรูหราในชีวิตวันหน้าแล้ว ก็เห็นว่า ควรกลับ เมื่อหวนนึกถึงเจ้าขวัญเข้า เรียมกลับใจหาย ขวัญเอ๋ย เรารักกันอยู่เมื่อวานนี้เอง จะต้องจากกันเสียอีกในชั่ววันนี้
ที่ริมคลองต้นลำกระโดง น้ำกำลังไหลลงเชี่ยว ลดลงจนบางแห่งเห็นท้องลำกระโดงเขินเลน เจ้าขวัญนั่งกอดเข่ามองดูสายน้ำลด ข้างหลังมีกอแขมและโสนขึ้นบังพอได้ร่ม มันเฝ้าคอย คอยด้วยใจร้อนกระวนกระวายไม่เปนสุข เงาแดดที่มันเอามีดขีดไว้เลยไปแล้วสามขีด น้ำก็แห้งลดตลิ่งลงจนเห็นกอเข้าในน้ำ เห็นปลาเล็ก ๆ เปนฝูง ๆ กำลังว่ายหนีลงน้ำลึก
แดดเลื่อนไปอีก ลมโกรกทุ่งมาแต่นาเหนือโน้น กระทบฝักโสนแห้งข้างหลังแกรกกราก แล้วผ่านลงท้องน้ำเปนระลอกเล็กยิบ ๆ นกกาบินโฉบผ่านไปมาร้องเสียงขรมและวนอยู่รอบ ๆ บริเวณใกล้ที่เจ้าขวัญนั่ง เสียงจ๋อม ๆ มาทางด้านหลัง เจ้าขวัญจึงเหลียวดู
"พี่ขวัญ" เจ้ารอดซึ่งพายเรือเลียบตลิ่งใกล้เข้ามาร้องเรียกหน้าตาล่อกแล่ก "เกิดความเสียแล้ว พวกบางกอกเขามาตามตัวพี่เรียมกลับในเย็นนี้แหละ พี่เรียมเก็บเข้าของเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อเพล จะมาก็ไม่ได้ ข้างฉันพ่อแกบังคับให้ช่วยพี่เรียมเก็บของ พอเสร็จว่าจะมา พ่อก็รั้งเอาไว้ให้พวกบางกอกใช้อีก นี่เขาพากันไปเที่ยวทางเหนือลำกระโดงนู้น ฉันก็เลยเลี่ยงมา" เจ้ารอดเล่าเร็วปรื๋อ ชี้มือไปทางลำกระโดง
เจ้าขวัญตัวเบา ใจหวิว ย้อนคิดถึงอกของมันที่ทุกข์ยากเมื่อสามปีก่อน เมื่อสามปีมานี่เอง มันต้องกินน้ำตาแทบ