สมชายตะลึง เรียมยิ่งตะลึงกว่าสมชายอีกหลายส่วน จะใครเสียอีกนอกจากอ้ายเจ้าน้ำเจ้าทุ่งของฉัน เธอถอนใจคิดอยู่คนเดียว ถ้าพี่ขวัญพบกำลังนี้หรือขณะหน้า ก็คงได้วินาศไปตามกัน ก่อนอื่น เธอก็นึกถึงปืน คุณสมชายพกปืนอยู่เสมอเวลามาบางกะปิ แต่เจ้าขวัญตัวคนเดียวมีดเล่มเดียว
เจ้าแฉ่งเปนคนกู่เรียกพวกที่ไปยิงนกให้กลับมาร่วมสมทบกันเปนหกคน แล้วก็ออกเดินอย่างเร่งรีบจนถึงโรงนา เห็นตาเรืองกับเจ้ารอดกำลังนั่งกอดเข่าอยู่ทั้งคู่
สมชายกับเพื่อนเปนเดือดเปนแค้น เมื่อฟังคำจากเจ้าเริญกับเจ้าแฉ่งบอกเล่า ก็สบถสาบานว่า จะต้องฆ่าอ้ายขวัญให้ได้ เพราะข่มเหงกันมากนัก ข้างเรียมก็ใจหวั่น ภาวนาขอให้เจ้าขวัญรีบหลบไปเสีย เธอกำลังตื่นตกใจจนพูดจาอะไรไม่ถูก สมชายจึงชวนเพื่อนอีกสองคน ทั้งเจ้าแฉ่ง เจ้าเริญ เปนห้าคนด้วยกัน ออกเดินเลียบตามฝั่งคลองเพื่อหาคนร้ายตามคำแนะนำของเจ้าเริญ
เรียมกวักมือเจ้ารอดมาสั่งเสียละล่ำละลัก
"รอด เอ็งรีบไปลำกระโดงโน้นเร็วทีเดียว ถ้าพบพี่ขวัญ ให้เขารีบหนีเอาชีวิตรอดเสียเถิด ส่วนข้าจะตามพวกนี้ไป เผื่อจะได้ช่วยห้ามปรามเขาไว้บ้าง"
เจ้ารอดฟังเข้าใจความดีแล้ว ก็ปราดออกหลังโรงนาวิ่งตื๋อตัดทุ่งไปโดยด่วน เรียมก็รีบจ้ำจนทันกับพวกเหล่านั้นที่ชายฝั่งใกล้ต้นลำน้ำจะเข้ากระโดง
เย็นลงทุก ๆ ที ท้องนากำลังแดดร่มลมพัดสบาย น้ำในคลองก็ย้อนไหลขึ้น น้ำกำลังท่วมฟากเต็มฝั่ง ลมทุ่งพัดแรงจัดกว่าทุกวัน กอเข้าที่เพิ่งหว่านขึ้นใหม่ตามริมน้ำชูยอดเขียว บ้างก็น้ำท่วมยอด ทั้งเข้าทั้งแขมเปนรอยถูกย่ำเหยียบแหลกลาญหมด
เจ้าขวัญ เจ้าหนุ่มปลายน้ำ ซึ่งหมอบซุ่มอยู่ในดงโสนด้วยหัวใจพลุ่งพล่านดุร้ายเมื่อมันไปถึงท่าน้ำแล้วไม่เห็นใครอีกเลยนอกจากเรือเครื่องติดท้ายที่จอดคอยจะพรากเจ้าเรียมของมันไป เจ้าขวัญจึงย่องขึ้น