เติมกลดเสลี่ยงงากระบี่อย่างเจ้าต่างกรม ประดับพลอยลงยาราชาวดี ๑ ถือตราศรพระขรรค์ แต่กลดเสลี่ยงงานั้นท่านไม่รับถวายคืน ครั้นสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ถึงแก่พิราลัยแล้ว จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตั้งให้เป็นสมุหพระกลาโหม ได้นามว่า เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมันตพงศพิสุทธิ์ มหาบุรุษรัตโนดม บรมราชตมัคคมหาเสนาธิบดี วรคชสีห์สิงหมุรธาธร จักรรัตนสหจร สุรศรขรรค์พิเศษลัญจธารินทร ทักษิณนครคามรัษฎาธิกิจการ ทวยหาญสมุหมาตยานุพินัย ยุติธรรมมาภิธยาศัยสยามโลกานุปาลนนารถ ปรเมนทรมหาราชวราณาจักโรประการ ปรีชาญาณวรยศธาดา อภัยพิรียบรากรมพาหุ สมุหพระกลาโหม ถือศักดินา ๒๐,๐๐๐ จารึกนามลงในแผ่นสุพรรณบัฏเนื้อเจ็ด ได้พระราชทานมาลาเบี่ยงอย่างเจ้าต่างกรม เสื้อจีบเอวเยียระบับเจียรบาดเข้มขาบผ้านุ่งสังเวียนพื้นทอง ดาบด้ามทองคำฝักทองคำประดับพลอย ไม้เท้าด้ามประดับพลอย กล้องยาแดงไม้ราชวังสันทองคำประดับเพ็ชร์ ตลับยาแดงทองคำหลังประดับเพชร์เป็นเครื่องยศ
จึงยกเอาจมื่นราชามาตย์ (ขำ) บุตรสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ มาเป็นเจ้าพระยาผู้ช่วยราชการในกรมท่า พระราชทานเครื่องยศพานทอง กระโถนทอง เต้าน้ำ กระบี่นากสามเศียร ฝักประดับพลอยลงยาราชาวดี ได้นามว่า เจ้าพระยารวิวงศ์มหาโกษาธิบดี
จึงยกเอาจมื่นศรีสรรักษ์ (เอี่ยม) ซึ่งเป็นราชนิกูลฝ่ายสม