ในพระราชบัญญัติว่า มาในรัชกาลที่ ๖ ได้ทรงสร้างพระราชลัญจกรหงสพิมานประจำชาดนี้สำหรับใช้แทนที่ประทัพระราชลัญจกรพระครุฑพาหองค์กลางซึ่งโปรดให้โอนไปใช้เป็นพระราชลัญจกรประจำแผ่นดิน ในพระราชบัญญัติพระราชลัญจกร รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ มาตรา ๓ กำหนดการใช้พระราชลัญจกรหงสพิมานเป็นทำนองเดียวกับที่เดิมใช้พระราชลัญจกรพระครุฑพาหฉะนั้น พระราชลัญจกรหงสพิมานที่ว่าทรงสร้างในรัชกาลที่ ๖ นั้น สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงเขียนเป็นรูปหงส์มีบุษบกบนหลัง (ดู รูปที่ ๖) พระราชลัญจกรองค์นี้ทรงเขียนขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายและสร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๕ หากมาประกาศในรัชกาลที่ ๖ ตราองค์นี้อยู่ที่กรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ตรัสอธิบายว่า ตราเก่ามีหงสพิมานอยู่องค์หนึ่ง แต่ไม่ทรงเคยเห็นองค์ตรา เห็นแต่เขียนรูปไว้ที่บานแผละพระทวารพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เป็นหงส์สามตัวอยู่ในวิมานสามช่อง เห็นว่า ใช้ไม่ได้ เอาอย่างพระราชลัญจกรไตรสารเศวต (ดู รูปที่ ๑๕) รู้ได้ว่า ไม่มีใครเห็นเสียนานแล้ว รูปเขียนนั้นเขียนในรัชกาลที่ ๒ ซ่อมเขียนในรัชกาลที่ ๓ แต่เดี๋ยวนี้ทาแดงทับเสียแล้ว จึงได้ทรงเดาเขียนถวายดั่งรูปที่แจ้งมาข้างบนนี้ ลาง⟨ที⟩ตราพรหมทรงหงส์ของเก่าซึ่งมีอยู่ ๒ องค์จะเป็นตราหงสพิมานก็เป็นได้