"นี่แหละ ฉันก็ควานหาทิศทางอ้ายคนร้ายอยู่ว่า มันผ่านม้าไปทางไหนบ้าง เจ้าเด็กที่มากับอ้ายกล้ามันก็ว่า ไม่รู้เหรือนกันว่า คนยิงขับม้าหนีไปทิศใด มันมืดเหลือเกิน" ทิดหาญพูด
"ไม่มีใครติดตามบ้างรึ?" ตาถาม
"โอ๊ะ! ใครจะตามล่ะ มืดยังกะเข้าถ้ำ มันไม่ฉลาดเลยถ้าบุ่มบ่ามตามไป ได้ยิงแต่สุ่ม ๆ ไปสองสามนัดเท่านั้น เรายังจับทิศทางที่มันผ่านไม่ได้ เราสงสัยมันหลายพวกด้วยกัน" ทิดหาญว่าแล้วบ้วนน้ำหมากด้วยกิริยางุ่นง่านใจ
"ทางอำเภอว่าไงมั่ง?" ตาถาม
"ก็ยิ่งมืดไปกว่าเราอีกน่ะแหละ" ทิดหาญพูดแล้วสะบัดหน้า
"นี่มาทำไมล่ะที่วัด?" ตาถาม
"มาเยี่ยมศพเจ้ากล้าน่ะซี" ทิดหาญว่า
"ยังไม่คิดจะเผาเรอะ?" ตาถาม
"อ๋อ! ยังหรอก จะเอาไว้จนกว่าจะได้ตัวอ้ายคนร้าย คนอย่างเราน่ะ ถ้าแก้มันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางจับกุมหรือฆ่าแกงกัน มันก็เลิกไม่ได้" ทิดหาญพูดอย่างหน้าเหี้ยม ๆ นัยน์ตาดุขึ้นมาทันที ผมนึกมองเห็นภาพขึ้นมาทันทีตามที่ตาเคยพูดว่า ก๊กนี้เป็นเสือเก่า เดี๋ยวนี้แม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทีท่าและดวงตายังบอกนิสัยเก่า ฉายบอกสัญชาติเดิม
"นี่ฉันมาเซ่นไหว้หลุมอ้ายกล้ามัน น้าแม้น ให้มันเข้าฝันหรือดลใจบอกว่า ใครทำร้ายมัน บอกมาเลย" ทิดหาญพูดน้นเสียง "จะเวียนมาเซ่นมาปลุกจนกว่าจะได้เรื่อง อ้ายกล้าจะตายไม่ได้ มันจะยังไม่ตาย จนกว่าจะแก้แค้นกันให้สาสม" ทิดหาญพูดจบ ทุบหัวเข่าดังปึ้ก
"ฉันก็สืบเสาะหาทิศทางที่ม้าพวกมันผ่าน ต้องควานไป ก็เท่ากับช่วยตำรวจเขาด้วย" ทิดหาญพูดจบแล้วยกมือไหว้ตาเป็นการลงเอยเอาอย่างง่าย ๆ ไม่มีพิธีอะไร "ฉันต้องกราบลาน้าแม้นละ"
ทั้งสองแก้ม้าแล้วโดดขึ้นม้าอย่างว่องไวด้วยกิริยาที่มีแค้น ๆ อยู้ไม่หาย ครู่นั้นเอง ม้าทั้งสองก็ออกพ้นบ้านเรา บ่ายหน้าไปทางอำเภออุทัย
"นี่มันจะก่อกวนปีศาจให้วุ่นวายละ อ้ายพวกนี้" ตาพูดเมื่อเขาไปกันแล้ว ลุงโนดก็ขึ้นมารวมกับพวกเรา