อยู่ตามพื้นนา นอกนั้นไม่มีเสียงอะไร เสียงหมูเสียงหมาพลอยเงียบไปด้วยอย่างประหลาด ตาหิงเป็นผู้มีความศักดิ์สิทธิ์จริงตามที่แกพูด พอเราจะเข้านอน ก็ได้ยินเสียงพระมากองค์สวดมนต์บทไล่ผีดังลอยมา ดูจะเป็นพระทั้งวัดก็ไม่รู้ เสียงดังเหลือเกิน
"พระท่านลงมือร่วมกับอ้ายทิดหิงแน่ ๆ" ตาพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังนั้น
ผมนอนฟังเหตุการณ์ไปจนดึก เสียงพระได้เงียบไปแล้ว รู้สึกว่า สงบจริง ๆ หมาไม่หอน นกแสกไม่ร้อง สงบอย่างน่าชื่นใจ ผมรู้สึกสบายและหลับไปเมื่อไรไม่รู้
แต่พอเช้าขึ้นเท่านั้น ท่านผู้อ่านที่เคารพ เหตุการณ์มันได้เกิดขึ้นอีกราวกับฟ้าผ่าลงมาอย่างกัมปนาท มีเสียงคนโจษกันว่า มีคนตายอยู่บนศาลาป่าช้า ตาผมแลลุงโนดอยู่ไม่ได้ รีบเผ่นไปวัด
ตอนสายหน่อย ลุงโนดกลับมาคนเดียว ร้องบอกพวกเราว่า ตาหิงนอนตายอยู่บนศาลา มีรอยบาดแผลถูกของแข็งและหนักตีตามตัวน่วมไปหมด หน้าตาเละเทะเพราะโดนตี
"โอย! คุณพระช่วย แล้วยังไงกันล่ะนี่" ยายร้อง "อนิจจัง เมื่อคืนวานก็ยังนอนอยู่บ้านเรานี่"
"กำนันและผู้ใหญ่บ้านกำลังพิสูจน์ศพอยู่" ลุงโนดว่า
"ใครมันหามาฆ่าหา?" ยายถามเสียงสั่น
"ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่า พวกที่ฆ่ามีหลายคนรุมกัน" ลุงโนดว่า ผมหนาวสะท้านเลย ดูเถิด เหตุจะสงบลงแล้วมาเป็นไปอย่างนี้ ทั้งน่ากลัวอันตรายและภูตผี กำลังที่เราพูดกัน ก็พอดีตากลับมา พวกเราต่างเซ็งแซ่ถามเรื่องกัน ตาสั่นหัว หน้าตาบอกไม่สบายใจ
"พูดไปมันก็เป็นเรื่องเดาว่ะ" ตาว่า "ข้านึกแล้วว่า อ้ายหิงหาเคราะห์ใส่ตัว มันต้องรับจ้างฝ่ายโน้นมาทำการ อ้ายฝ่ายนี้ไม่พอใจในการกระทำ ก็ฆ่าเอา มันฉลาด ฆ่าไม่ใช้ปืน มันกลัวพระและชาวบ้านจะได้ยินเสียง ศาลาที่อ้ายหิงนั่งเข้าพิธีมันห่างกับพระที่อยู่ในป่าช้า อ้ายพวกนั้นมันก็รุมกันสบายไป กูนึกไปก็เห็นตัวคนร้ายว่ะ แต่พูดไปปากจะเป็นภัยทุกทาง กูสงสัยใจอยู่เมื่อตอนเช้า กูเดินไปวัดกะอ้ายหิง มัน