อยู่ได้เพียงชั่วโมงหนึ่งเป็นอย่างช้า แลข้าราชการก็ร่วงโรยเบาบาง เพราะฆ่ากันมาเสียหลายแผ่นดินแล้ว
แผ่นดินพระเจ้าทรงธรรม ฆ่าขุนนางเก่าครั้งแผ่นดินเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์
แผ่นดินพระเจ้าปราสาททอง ฆ่าขุนนางพวกพระเชษฐา แต่เห็นจะน้อย
แผ่นดินพระนารายน์ ฆ่าขุนนางที่เปนพวกเจ้าฟ้าไชยและพระศรีสุธรรมราชา เห็นจะเกือบหมด เปลี่ยนใหม่ทั้งสำรับ
แผ่นดินพระเพทราชา ฆ่าขุนนางแผ่นดินพระนารายน์หย่อยมาจนถึงไปตีนครราชสิมา เห็นจะเรียกว่าเกือบหมดได้
แผ่นดินขุนหลวงเสือ เห็นจะฆ่ามาก เพราะคนนิยมเจ้าพระขวัญฤๅพวกเจ้าพระพิไชยสุรินทร์จะเปนขุนนางอยู่ไม่ได้
แผ่นดินขุนหลวงท้ายสระ เคราะห์ดีไม่ต้องฆ่าใคร แต่ขุนนางแผ่นดินขุนหลวงเสือเห็นจะมีน้อย เพราะอยู่ในราชสมบัติน้อย ตั้งไม่ทันเต็มที่
แผ่นดินขุนหลวงบรมโกษฐ ชาววังหลวงเห็นจะตายเกือบหมด แต่สมุหนายกยังถอดเปนพระยาราชนายก ซึ่งนับว่าเปนคนออกหน้าค่าชื่ออยู่คนเดียว เพราะฉนั้น ขุนนางตามในจดหมายตำรานี้จึงได้ร่องแร่ง เพราะแรกเสวยราชย์หาคนตั้งไม่ทัน ฤๅตั้งผู้ใดขึ้นก็ไม่รู้ตำราเก่าเลยทั้งสิ้น
คิดดูในระหว่าง ๙๐ ปี ฆ่าเททิ้งกันเสียถึง ๗ ครั้ง เกือบ⟨เ⟩ปน ๑๓ ปีฆ่ากันครั้งหนึ่ง ฤๅถ้ารอดตายก็กลายเปนไพร่หลวงแลตะพุ่นหญ้าช้าง ถ้าจะนับพวกที่ไม่ตาย ก็ต้องว่า ผู้ดีกลายเปนไพร่ ๆ กลายเปนผู้ดีถึง ๗ ครั้งใน ๙๐ ปีนั้น ฯ[1]
- ↑ จากเรื่อง เรื่องสมเด็จพระบรมศพ จดหมายเหตุงานพระเมรุครั้งกรุงเก่า ฉบับพิมพ์ปี ๒๔๕๙ หน้า ๑–๓