อาณาจักร์เขตต์ขอบขัณฑเสมาบรรดาพึ่งพระบารมีบรมโพธิสมภาร ให้รับพระราชทานทำมาหากินอยู่เย็นเป็นสุข เสด็จออกณพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิ์พิมานโดยสถานอุตราพิมุข พร้อมด้วยอรรคมหาเสนาโหราพฤฒาราชมนตรีกระวีมุขมาตย์ประหิตาจารย์ทูลลอองธุลีพระบาทโดยอันดับ จึงทรงพระราชดำริว่า พระปริยัติศาสนา ปัติปัถศาสนา ปัติเวทศาสนา ทั้งสามประการนี้เป็นมูลที่ตั้งแห่งเวไนยสัตว์อันจะสำเร็จไตรพิธสมบัติสามประการ จะยกตนออกจากสงสารทุกข์ได้ และพระพุทธศาสนาจะถาวรวัฒนาการรุ่งเรืองไปก็อาศัยพระราชอาณาจักรช่วยคุ้มครองป้องกันปัจจามิตรมิให้มากระทำย่ำยี ประเพณีพระมหาบรมกษัตราธิราชแต่ก่อนสืบมาจักทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้ให้วัฒนาการจำเริญยืนนาน ก็เป็นต้นเหตุให้ชุบเลี้ยงทแกล้วทหารอันสามารถไปการณรงค์สงครามแลพวกพลโยธาเครื่องสรรพศาสตราวุธ ประกอบด้วยพระราชอาญาเดชานุภาพปกแผ่ไป จึงได้ปราบปัจจามิตรข้าศึกมิได้มากระทำย่ำยีพระบวรพุทธศาสนา ได้เปนเยี่ยงอย่างโบราณราชประเพณีสืบมา และกรุงเทพฯ ทุกวันนี้เป็นแต่อ้ายพะม่าข้าศึกเปนมารพาลประทุษฐร้ายเบียดเบียนเวียนแต่ยกทัพมารบพุ่งนิคมชนบทที่ประจันตประเทศเขตต์ขอบขัณฑเสมาอยู่เนือง ๆ มิได้ขาด จะให้พระพุทธศาสนาพินาศพิบัติจลาจล แลไพร่พลโยธาพวกทแกล้วทหารซึ่งจะเปนกำลังราชการต่อสู้สงครามด้วยพะม่าข้าศึกนั้นก็ฟั่นเฟือนถอยจากจำนวนหางบัญชีทะเบียนหางว่าวเบาบางไป ลูกหมู่สมถ้าจะได้ศักสืบราชการก็ซุกซ่อนรัดพลัดหนีจากหมู่ไปแอบแฝงแบ่งเบาเอาแต่
หน้า:Prachum Kotmai Pracham Sok 04.djvu/14
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒