เลื่องชื่อฦๅนามในสำนักนิพระมหากระษัตรพึง[1] ตั้งตนไว้ให้พระองควางพระไทยต่างพระเนตรพระกรรณ์ ด้วยมีสันดานอันซื่อ แลตั้งอยู่ในศีล ๕ ประการ ศีล ๘ ประการ แลวะจีสัจสุริต คิดกลัวบาปละอายบาป เปนหิริโอตัปธรรมโลกยบาลราศรี มีศรัทธาเชื่อผลศีลผลทานการกุศลแลคุณพระศรีรัตนไตรย ปวตฺตยนฺโต สกโล ปิ นิจฺจํ พึงตั้งเมตตาจิตรเปนบุเรจาริกในสัตวทังปวง แลมีกะตัญุตาสวามีภักดิจงรักษในพรมหากระษัตรซึ่งเปนจ้าวแห่งตน อันทรงบำเพญผลโพทธิญาณ สิกฺเขยฺยมีมํ มหาตา คุเณน เมื่อมีสันดานจิตรคิดถึงพระเดชพระมหากระษัตรดั่งนี้แล้ว พึงอุสาหะศึกสาเล่าเรียนให้รอบรู้ ดูแลเอาใจใส่ในคำภีรพระธรรมสาตร อันอาจให้มีคุณวิเสศ คือเปนพระเนตรแห่งพระมหากระษัตร จะได้ตัดข้อคดีแห่งอนาประชาราษฎรในขอบเขตขันทเสมาพระราชอาณาจักรให้ปราศจากหลักตอเสี้ยนหนาม คือ ความมูลวิวาทแห่งพาลชาติบุทคลอันมีสันดานเปนทุจริต ให้เปนหิตานุหิตประโยชน์สิ้นมูลวิวาททุกข ประกอบศุขสถาพรเกษมสารในกาลทุกเมื่อ
- ↑ ในต้นฉะบับ คำว่า หึง ลบเสีย เพิ่มตาม ก และ ข