วันนั้นพระอุบาฬีเถรแลพระคิริมานนท์ก็นิพพานในที่นั้น แต่ก่อนก็เรียกว่าพนมสมอ บัดนี้ก็เรียกว่าเขาสมอแครง เขาบรรจุพระธาตุเจ้าทั้งสองไว้ในที่นั้น แลครั้นพระสงฆ์องค์ใดเข้ามาอยู่ที่นั้น ก็ย่อมเรียกตามที่นั้นว่าเปนอรัญวาสี จ่านกร้องสร้างข้างตวันตก จ่าการบุรณ์สร้างข้างตวันออกแข่งกัน ทำปีหนึ่งกับเจ็ดเดือนจึงแล้วรอบบ้านพราหมณ์ทั้งหลาย ทั้งคูก็รอบกัน หนทางเด็กเลี้ยงวัวลูกชาวบ้านหริภุญไชยไปมา ปั้นพระนอนเล่นทั้งสองฟากเปนประตูแปดอันตามอันดับกัน เจ้าทั้งสองจะให้ชื่อประตู ก็ถามคนอันเปนผู้เถ้าผู้แก่ทั้งหลาย พราหมณ์ทั้งหลายจึงว่า ทั้งสองสิเปนมหาเสนา การทั้งนี้ตามแต่ปัญญาเจ้าทั้งสองเถิด สร้างเมืองปีหนึ่งกับ ๗ เดือนจึงแล้วดังนี้แล ครั้นจ่านกร้องจ่าการบุรณ์ทำเมืองแล้วทั้งสองฟาก ทั้งทวารบานประตูบริบูรณ์แล้ว จึงสั่งชีพ่อพราหมณ์ให้รักษาเมือง ครั้นได้ฤกษ์ดีจึงนำเอาเกวียนแลคน ๕๐๐ เล่มขึ้นไปสองเดือนจึงถึงเมืองเชียงแสนราชธานี จ่าทั้งสองเข้าไปถวายบังคม จ่าทั้งสองจึงกราบทูลพระกรุณาว่า พระองค์เจ้าใช้ตูเข้าไปถึงที่พระพุทธเจ้าฉันจันหันใต้ต้นสมอ สถานที่นั้นเปนอันสนุกนักหนา ข้าพเจ้าชวนกับชะพ่อพราหมณ์ทั้งหลายสร้างเมืองถวายแก่พระองค์เจ้าแล้ว
๏พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกยินดีนักหนา จึงมีพระราชโองการตรัสสั่งแก่เสนาอำมาตย์ให้ชุมนุมท้าวพระยาทั้งหลาย พระองค์จึงให้จ่าทั้งสองไปก่อนเปนทัพน่า ท้าวพระยาทั้งหลายเปนปีกซ้ายขวา เจ้าไกรสรราช เจ้าชาติสาคร พระราชโอรสทั้งสอง เปนกองรั้งหลังตามเสด็จพระราชบิดาพระราชมารดาออกจากพระนครณวันอาทิตย์ เดือนอ้าย แรม