หน้า:Ratchakan Thi Si (2) 2465.djvu/22

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๓

มาร้องเรียนตราสินเหตุที่เกิดในวัดใกล้บ้านของตัวในกำหนดเดือนหนึ่ง จนมีผู้อื่นนอกที่รางวัดไปเห็นเข้ามาว่ากล่าวขึ้นก็ดี มีผู้ฟ้องร้องกล่าวโทษผู้ร้ายที่ขุดที่ทำลาย จึงให้ข้าหลวงแลกรมการไปสืบได้ความว่ามีผู้ร้ายขุดจริงก็ดี ชาวบ้านในรางวัดถ้าเพิกเฉยเสียไม่เข้าชื่อกันมาตราสินร้องเรียนเสียในเดือนหนึ่งนั้น จะให้มีพินัยเสียค่าปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมสิ่งของในอารามที่ชำรุดลงเพราะเหตุนั้นกว่าจะสำเร็จดังเก่า ถ้าเปนแขกฝรั่งคนนอกพระพุทธศาสนาไม่ยอมศรัทธาทำวัด ก็จะปรับให้เอาตัวมาทำการพระนครให้ถ้วนเดือนหนึ่งบ้าง ๒๒ วันบ้าง ๑๔ วันบ้าง ๗ วันบ้าง ตามที่อยู่ห่างแลชิดอารามนั้น ผู้ที่ได้มาบอกกล่าวนายอำเภอรั้วแขวงกรมการเสียแต่เดือนหนึ่ง แต่วันที่สืบความได้ว่าเปนวันผู้ร้ายขุดทำลายนั้น จะไม่ให้มีพินัยรางวัดเลย.

อนึ่งการซึ่งเปนมาแต่หลัง คือวัดมีผู้ขุดทำลายชำรุดมานานก่อนพระราชบัญญัตินี้นั้น ก็จะไม่ให้มีโทษแก่ผู้อยู่ในรางวัดดอก ซึ่งมีพระราชบัญญัติมาทั้งนี้ เพื่อจะให้ชาวบ้านเอาใจใส่วัดอารามใกล้บ้านของตัว ไม่ปล่อยให้ผู้ร้ายขุดเสียทำลายเสีย เพราะของที่เปนของท่านทำไว้สร้างไว้แต่ก่อนด้วยอิฐปูนศิลาใดๆ ใหญ่ก็ดี เล็กก็ดี ถึงจะคร่ำคร่าชำรุดซุดโซมไปแล้ว ก็ยังเปนเครื่องประดับพระนครอยู่.

สั่งณวันเสาร์ เดือน ๙ แรม ๓ ค่ำ ปีขาลฉศก จุลศักราช ๑๒๑๖