อ่านตรวจดูการต่าง ๆ เหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสยามบ้าง ในต่างประเทศบ้าง ก็จะได้ทราบความชัตในเหตุการต่าง ๆ ทั้งใกล้ทั้งไกลได้สมประสงค์ ผู้ที่ได้รับหนังสือราชกิจจานุเบกษาไปแล้วจงถนอมรักษาไว้ เยบให้เปนเล่มสมุดเหมือนอย่างสมุดจีนสมุดฝรั่ง เวลาเมื่อประสงค์จะทราบเหตุการฤๅราชกิจสิ่งไรที่มีอยู่ในหนังสือราชกิจจานุเบกษา ก็จะได้ตรวจดูให้ทราบชัตในราชกิจแลเหตุการนั้นโดยง่าย ถ้าผู้ใดประสงค์จะซื้อหนังสือราชกิจจานุเบกษาแล้ว ฃอเชิญมาที่โรงพิมพ์หลวงในพระบรมมหาราชวัง ลงชื่อแลบอกบ้านไว้เปนที่สังเกต ถ้าประสงค์ให้ไปส่งถึงบ้าน ต้องเสียเงินอิกกึ่งตำลึง รวมเปนสองตำลึงกึ่ง ๚ะ
๏มีพระบรมราชโองการให้ประกาศแก่คนทั้งปวงบันดาที่ได้นับถือพระพุทธสาศนาแลธรรมเนียมปีเดือนวันคืนอย่างเช่นใช้ในเมืองไทยให้รู้ทั่วกันว่า ในปีจอฉศกนี้ พระอาทิตย์ขึ้นราสีเมศณวันเสาร เดือนห้า แรมสิบค่ำ เวลาสามยามกับสิบสองนาที รุ่นขึ้นวันอาทิตย์ เดือนห้า แรมสิบเอจค่ำ เปนวันมหาสงกรานต์ วันจันทร เดือนห้า แรมสิบสองค่ำ เปนวันเนา วันอังคาร เดือนห้า แรมสิบสามค่ำ เปนวันเถลิงศกขึ้นศักราชใหม่เปนพันสองร้อยสามสิบหก ในเวลารุ่งแล้วสี่สิบห้านาที ในปีนี้การทำบุญแลเล่นนักขัตฤกษสงกรานตเปนสามวันตามอย่างเคย คือ เดือนห้า แรมสิบเอจค่ำ สิบสองค่ำ สิบสามค่ำ เปนแน่แล้ว ตั้งแต่วันพุฒ เดือนห้า ขึ้นค่ำหนึ่ง จนถึงวันจันทร แรมสิบสองค่ำ จดหมายลงชื่อปีในที่ทั้ังปวงให้ว่า ปีจอยังเปนเบญจศก ถ้าจดจุลศักราชให้คงเปนพันสองร้อยสามสิบห้าอยู่ ตั้งแต่วันอังคาร เดือนห้า แรมสิบสามค่ำ ไปจนถึงวันจันทร เดือนสี่ แรมสิบห้าค่ำ วันตรุศสุดปีนั้น ให้จดชื่อว่าปีจอฉศก ลงเลขศักราชว่าพันสองร้อยสามสิบหก เลข ๕ ตามปีแผ่นดินซึ่งเขียนไว้บนศกนั้น เมื่อเปลี่ยนเบญจศกแล้ว จึ่งเขียนเปนเลข ๖ ไว้อย่าง (ศก) ไปกว่าจะเปลี่ยนศกใหม่ ในปีจอฉศกนี้มีอธิกมาศ เดือนแปดเปนสองหน เปนเดือนถ้วนทั้งสองเดือน เมื่อเขียนเลขครุ เดือนแปดก่อน ให้เขียนเลขแปดตัวเดียวแล้วกาหมายไว้ข้างล่าง ดังอย่าง ๘ นี้ ให้รู้ว่าเดือนแปดหลังจะมี ในเดือนแปดหลังนั้นให้เฃียนเลขแปดเปนสองซ้อนกันไว้ท้ายครุ ดังอย่าง ๘๘ นี้ วันศุกร เดือนห้า ขึ้นสามค่ำ ปีจอยังเปนเบญจศกวันหนึ่ง วันพฤหัศบดี เดือนสิบ แรมสิบสามค่ำ ปีจอฉศก วันหนึ่ง สองวันนี้เปนวันกำหน⟨ด⟩ถือน้ำพระพิพัฒสัตยา
๏วันจันทร เดือนวิสาข คือ เดือนหก ขึ้นสิบสองค่ำ ⟨กำห⟩น⟨ดจะ⟩ได้กระทำพระราชพิธีจรดพระนังคัล ห้ามอย่าให้ราษฎรลงมือทำนาก่อนวันนั้น คือ ตั้งแต่วันพฤหัศบดี เดือนหก ขึ้นค่ำหนึ่งไป ฤๅในวันจันทร ขึ้นสิบสองค่ำนั้น ให้ลงมือทำนาภายหลังแต่วันพระราชพิธีไปตลอดพระราชอาณาเขตร ๚ะ
๏อนึ่ง วันวิสาขบูชาซึ่งเปนที่นับถือตามกำหนดในพระคำภีรอรรฐกถาว่าเปนวันประสูตร แลตรัสรู้ แลปรินิพาน ของสมเดจพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ในปีจอฉศกนี้วันวิสาขปุรณีตกในวันสุกร เดือนหก แรมค่ำหนึ่ง ๚ะ
๏พระบาทสมเดจพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามงกุฎ บุรุศยรัตนราชรวิวงษ วรุตมพงษบริพัต วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เปนพระเจ้าแผ่นดินใหญ่ในรัชกาลที่ ๕ ในพระบรมราชวงษซึ่งได้ประดิษฐานแลดำรงรัตนราไชมหัยสวรรยาธิปัตณกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทรมหินทรายุทธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมอุดมราชนิเวศน์มหาสฐาน เสดจออกพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัยมหัยสวริยพิมานโดยสฐานอุตราภิมุข พร้อมด้วยพระบรมวงษานุวงษแลอัคมหาเสนาธิบดีมุขมนตรีกระวีชาติราชปโรหิตาจาริย์ฝ่ายทหารพลเรือนถวายคำนับโดยอันดับเฝ้าเบื้องบาทบงกชมาศพร้อมกัน จึ่งมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทให้ประกาศแก่พระบรมวงษานุวงษข้าทูลอองธุลีพระบาทให้ทราบทั่วกันว่า ตั้งแต่เสดจบรมราชาภิเศกเถลิง