หน้า:Ratchakitcha Ratchakan Thi Ha (1).pdf/56

หน้านี้ได้ตรวจสอบแล้ว
+ ๑๒๓๖
เล่ม ๑ น่า ๕๔
ราชกิจจานุเบกษา

โดยมาก ก็ในประเทศสยามนี้ ธรรมเนียมบ้านเมืองที่เปนการกดขี่แก่กันอันไม่ต้องด้วยยุติธรรมนั้นก็ยังมีอยู่อีกหลายอย่างหลายประการ จะต้องคิดลดหย่อนผ่อนเปลี่ยนเสียบ้าง แต่การที่จะจัดผลัดเปลี่ยนธรรมเนียมจะให้แล้วไปในครั้งเดียวคราวเดียวนั้นไม่ได้ จะต้องค่อยคิดเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาที่ควรแก่กาลที่จะเปลี่ยนแปลงได้ บ้านเมืองจึ่งจะได้มีความเจริญสมบูรณยิ่งขึ้นไป แลธรรมเนียมที่หมอบคลานกราบไหว้ในประเทศสยามนี้ เหนว่าเปนการกดขี่แก่กันแขงแรงนัก ผู้น้อยที่ต้องหมอบคลานนั้นได้ความเหน็จเหนื่อยลำบากเพราะจะให้ยศแก่ท่านผู้ใหญ่ ก็การทำยศที่ให้คนหมอบคลานกราบไหว้นี้ ไม่ทรงเหนว่ามีประโยชน์แก่บ้านเมืองแต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย ผู้น้อยที่ต้องมาหมอบคลานกราบไหว้ให้ยศต่อท่านผู้ที่เปนใหญ่นั้นก็ต้องทนลำบากอยู่ จนสิ้นวาระของตนแล้วจึ่งจะได้ออกมาพ้นท่านผู้ที่เปนใหญ่ ธรรมเนียมอันนี้แล เหนว่าเปนต้นแห่งการที่เปนการกดขี่แก่กันทั้งปวง เพราะฉนั้น จึ่งจะต้องละพระราชประเพณีเดิมที่ถือว่าหมอบคลานเปนการเคารพอย่างยิ่งในประเทศสยามนี้เสีย ด้วยทรงพระมหากรุณาที่จะให้ท่านทั้งหลายได้ความศุข ไม่ต้องทนยากลำบากหมอบคลานเหมือนอย่างแต่ก่อน แลธรรมเนียมที่หมอบคลานนั้นให้เปลี่ยนอิริยาบถเปนยืนเปนเดิน ธรรมเนียมที่ถวายบังคมแลกราบไหว้นั้นให้เปลี่ยนอิริยาบถเปนก้มสีสะ ธรรมเนียมที่ยืน ที่เดิน แลก้มสีสะนี้ไช้ได้เหมือนกับธรรมเนียมที่หมอบคลานถวายบังคมแลกราบไหว้ บางทีท่านผู้ที่มีบันดาศักดิ์ซึ่งชอบธรรมเนียมที่หมอบคลานกราบไหว้ตามเดิมเหนว่าดีนั้น จะมีความสงไสยสนเท่ห์ว่า การที่เปลี่ยนธรรมเนียมหมอบคลานให้ยืนให้เดินจะเปนการเจริญแก่บ้านเมืองด้วยเหตุไร ก็ให้พึงรู้ว่า การที่เปลี่ยนธรรมเนียมใหม่เลิกหมอบคลานให้ยืนให้เดินนั้น เพราะจะให้เหนเปนแน่ว่าจะไม่มีการกดขี่แก่กันในการที่ไม่เปนยุติธรรมอีกต่อไป เมืองใดประเทศใดผู้ที่เปนใหญ่มิได้ทำการกดขี่แก่ผู้น้อย เมืองนั้นประเทศนั้นก็คงมีความเจริญเปนแน่ ตั้งแต่นี้สืบไปพระบรมวงษานุวงษแลข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยซึ่งจะเฝ้าทูลอองธุลีพระบาทในพระที่นั่งแลที่เสดจออกแห่งหนึ่งใด จงประพฤติตามพระราชบัญญัติที่ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดไว้เปนข้อบัญญัติสำรับข้าราชการต่อไปจงทุกข้อทุกประการ จึ่งได้โปรดเกล้าฯ ให้ท่านเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ สมันตพงษพิสุทธ มหาบุรุศย์รัตโนดม ผู้สำเรจราชการแผ่นดิน ตั้งเปนข้อพระราชบัญญัติไว้สำรับแผ่นดินต่อไปดังนี้ ๚ะ

พระราชบัญญัติ์

ข้อว่า พระบรมวงษานุวงษแลข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง เมื่อจะเข้าเฝ้าทูลอองธุลีพระบาทในพระที่นั่งฤๅที่เสดจออกแห่งใด ๆ ก็ดี เมื่อเดินเข้าไปถึงน่าพระที่นั่งแล้ว ให้ก้มสีสะถวายคำนับครั้งหนึ่ง แล้วจึ่งเดินไปยืนที่ตำแหน่งของตนเฝ้า เมื่อไปถึงที่ยืนเฝ้าแล้ว ให้ก้มสีสะถวายคำนับอีกครั้งหนึ่ง แล้วยืนให้เรียบร้อยเปนปรกติ ห้ามมิให้เดินไปเดินมาแลยืนหันหน้าหันหลังในเวลาที่เสดจออก แลมิให้ยืนเอามือไพล่หลัง แลท้าวเอว แลเอามือไปท้าวผนังแลเสาฤๅที่ต่าง ๆ แลสูบบูหรี่ หัวเราะพูดกันเสียงดัง ต่อน่าพระที่นั่ง ให้ยืนให้เรียบร้อยเปนลำดับตามบันดาศักดิ์ผู้ใหญ่ผู้น้อย ถ้ามีกิจราชการที่จะต้องกราบบังคมทูลพระกรุณาแล้ว ให้เดินออกมาจากที่เฝ้า ยืนตรงน่าพระที่นั่ง ก้มสีสะถวายคำนับ แล้วจึ่งกราบบังคมทูลพระกรุณา เมื่อสิ้นข้อความที่กราบบังคมทูลพระกรุณาแล้ว ให้ก้มสีสะลงถวายคำนับ จึ่งให้เดินถอยหลังมาที่ยืนเฝ้าอยู่ตามเดิม ถ้าจะถวายหนังสือฤๅสิ่งของสิ่งหนึ่งสิ่งใดต่อพระหัถสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ให้ถือสองมือเดินตรงเข้าไปถึงหน้าพระที่นั่งภอสมควร ก้มสีสะลงถวายคำนับก่อน จึ่งถวายของนั้นต่อพระหัถ ถ้าถวายของนั้นเสรจแล้ว ให้เดินถอยหลัง ถ้าเปนที่ใกล้ ให้ถอยหลัง ๓ เก้าฤๅ ๕ เก้าพอสมควร ถ้าเปนที่ไกล ให้ถอยหลังออกมา ๗ เก้า จึ่งกลับหน้าเดินไปยืนตามที่ ถ้าจะมีพระบรมราชโองการดำรัสด้วยผู้หนึ่งผู้ใดที่ยืนอยู่ในที่เฝ้านั้น ก็ให้ผู้นั้นยืนคงอยู่ตามที่ ก้มสีสะถวายคำนับ แล้วจึ่งรับพระบรมราชโองการ เมื่อรับพระบรมราชโองการ กราบบังคมทูลสิ้นข้อความแล้ว ก็ให้ก้มสีสะลงถวายคำนับ อนึ่ง พระบรมวงษานุวงษแลข้าทูลอองธุลีพระบาท