ขึ้น ๑๔ ค่ำ ใช้ใบเรือออกจากเมืองสมุทปราการถึงรั้วแขวนเวลาเช้า ๓ โมง เรือศีศะญวนยาว ๔ วา ๒ ศอกแล่นเทียบเข้ามาที่เรือจีนซัว ๆ ไม่สำคัญว่าเปนเรือผู้ร้าย ผู้ร้ายประมาณ ๒๕ คน ๒๖ คน ถือปืนบ้าง ถือดาบบ้าง ถือมีดบ้าง ถือตรีบ้าง ทุกคนภากันตรูขึ้นไปบนเรือจีนซัว จีนลูกเรือกลัวโดดน้ำไปบ้าง อ้ายจีนผู้ร้ายแจวเรือของอ้ายผู้ร้ายไปเที่ยวรับเอาขึ้นมาบนเรือ แล้วอ้ายจีนผู้ร้ายจับพวกจีนซัวทั้ง ๑๐ คนใส่ดาดฟ้าขังไว้ข้างน่าเรือ อ้ายจีนผู้ร้ายถือดาบยืนรักษาประตูอยู่ แล้วอ้ายจีนผู้ร้ายเอาเรือของอ้ายจีนผู้ร้ายผูกกับเรือลำเลียงใช้ใบไปถึงเข้าสามร้อยยอด แล่นออกไปฦก ณวันพุทธ เดือนห้า แรมสองค่ำ เวลาบายโมงหนึ่ง อ้ายจีนผู้ร้ายให้พวกจีนซัวลงเรืออ้ายจีนผู้ร้าย อ้ายจีนผู้ร้ายถอนเสาเก็บเชือกเก็บใบขึ้นเสีย แล้วอ้ายจีนผู้ร้ายไห้แจว ๒ เล่มกับเข้าสารเปนเสบียงถัง ๑ ปล่อยให้มา อ้ายจีนผู้ร้ายแล่นเรือตั้งน่าไปข้างตวันออก พวกจีนซัวแจวเรือเข้ามาวันหนึ่งถึงคลองปราน แวะเข้าที่โรงภาษีฝาง ขอไม้ไผ่ทำเสาเพลาใบ เอาผ้าทำใบ แล่นเข้ามา ๒ วัน ณวันเสาร์ เดือนห้า แรมห้าค่ำ ถึงเมืองสมุทปราการ วันอาทิตย เดือนห้า แรมหกค่ำ มีใบบอกเมืองสมุทปราการขึ้นมาถึงกรุง ความในใบบอกนั้น พระยาพิพัธโกษาได้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา จึ่งมีพระบรมราชโองการดำรัศสั่งเจ้าพระยาศรีสุริยวงษว่าที่สมุหพระกระลาโหมให้จัดแจงเรือกำปั่นเปนเรือรบรีบเร่งออกไปติดตามค้นควาหาเรือที่จีนสลัดตีไปได้นั้นในฝั่งทเลตวันตกตวันออกเร็วให้ทัน ด้วยทรงพระพระราชดำริห์เห็น
หน้า:Ratchakitcha Ratchakan Thi Si 2433.djvu/41
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๙