เขาเฉียวจึงว่าท่านมีสติปัญญามากจะป้องกันแผ่นดินได้อยู่ แต่มิได้สัจซื่อต่อแผ่นดิน จะเปนสัตรูราชสมบัติ โจโฉหัวเราะชอบใจ ครั้นอายุโจโฉได้ยี่สิบปี จึงเข้าไปทำราชการฝ่ายทหารในเมืองลกเอี๋ยง โจโฉจึงให้เอาไม้สำคัญห้าสิบไปปักไว้ทั้งสี่ประตูเมือง ห้ามมิให้คนเดินกลางคืน ถ้าเดินไปมาผิดปลาดให้จับเอาตัวมาทำโทษ ครั้นกลางคืนวันหนึ่งโจโฉไปตระเวรพบคนที่เดินมาผิดเวลา โจโฉให้จับเอาตัวมาตีสิบห้าที แลโจโฉนั้นทำราชการเข้มแขงขึ้นทุกวัน คนทั้งปวงก็ยำเกรงเปนอันมาก พระเจ้าเลนเต้จึงตั้งให้เปนตุนขิวเหลง ครั้นพวกโจรโพกผ้าเหลืองกำเริบจุลาจลขึ้นในเมืองเองฉวน พระเจ้าเลนเต้จึงให้โจโฉเลื่อนที่เปนโตะอุ๋ยให้คุมทหารห้าพันไปช่วยเมืองเองฉวน จึงพบเตียวโป้เตียวเหลียง
กับพวกโจรที่เหลือตายแตกหนีมานั้น โจโฉจึงรบสกัดไว้ ฆ่าพวกโจรเสียประมาณหมื่นเศษ ทหารโจโฉได้ม้าแลเครื่องสาตราวุธเปนอันมาก แต่ตัวเตียวโป้เตียวเหลียงนั้นหนีได้ โจโฉจึงเข้าไปหาฮองฮูสงจูฮีบอกข้อราชการแล้ว โจโฉขอเอาทหารไปตามเตียวโป้เตียวเหลียง
ฝ่ายเล่าปี่กวนอูเตียวหุยยกมาถึงเมืองเองฉวน ได้ยินเสียงรบพุ่งกันแล้วแลเห็นแสงเพลิงสว่าง จึงเร่งทหารรีบไปจะช่วย พอมาถึงเข้าพวกโจรนั้นก็แตกไป เล่าปี่จึงพากวนอูเตียวหุยเข้าไปหาฮองฮูสงจูฮีแล้วบอกว่า โลติดให้ข้าพเจ้ามาช่วยราชการท่าน ฮองฮูสงจูฮีว่าขอบใจนัก แล้วบอกว่าบัดนี้เตียวโป้เตียวเหลียงแลพวกโจรนั้นแตกแล้ว เราเห็นเตียวโป้เตียวเหลียงจะหนีไปหาเตียวก๊กผู้พี่ณเมืองจงก๋ง ถ้าท่านเร่งยก