ที่อาไศรยแห่งเราดีกว่า ภายหลังจึงค่อยคิดการใหญ่สืบไป เล่าปี่ได้ยินกวนอูว่าดังนั้นเห็นชอบด้วย จึงกลับเข้าไปเอาตราสำหรับที่มาผูกคอต๊กอิ้วไว้แล้วจึงว่า ตัวเองเปนข้าหลวงมาทำขี้ฉ้อดังนี้ควรแต่จะตัดศีศะเสีย นี่เราให้ชีวิตร์ตัวไว้ บัดนี้เราไม่พอใจอยู่ทำราชการแล้ว เองจงเอาตรานี้กลับไปเมืองด้วยเถิด เราก็จะไปบ้านเมืองที่อาไศรยแห่งเรา แล้วเล่าปี่ก็พากวนอูเตียวหุยกับพรรคพวกยี่สิบคนนั้นออกจากเมืองอันห้อก้วน
ฝ่ายต๊กอิ้วจึงเอาตราสารที่เล่าปี่ พาพรรคพวกมาถึงเมืองเต๊กจิ๋ว แล้วเอาเนื้อความทั้งปวงบอกแก่เจ้าเมืองเต๊กจิ๋ว ๆ จึงให้มีหนังสือไปทุกหัวเมือง ให้จับเล่าปี่กวนอูเตียวหุยสามคนผู้กระทำผิดส่งเข้ามา ฝ่ายเล่าปี่ครั้นมาถึงกลางทางได้ยินกิติศับท์ซึ่งเจ้าเมืองเต๊กจิ๋วให้มีหนังสือมาให้จับตัวส่งนั้น ครั้นจะไปให้ถึงเมืองตุ้นก๋วนเห็นจะไม่ทันที เล่าปี่รู้ว่าเล่าเก๊งซึ่งเปนเจ้าเมืองใต้จิ๋วนั้นเปนแซ่เดียวกัน จึงคิดว่าอย่าเลยจะเข้าไปอาไศรยเล่าเก๊งเห็นจะพ้นไภย คิดแล้วก็พากวนอูเตียวหุยกับพรรคพวกเข้าไปหาเล่าเก๊งณเมืองใต้จิ๋ว แล้วบอกเอาเนื้อความแต่หลังให้ฟัง เล่าเก๊งนั้นแจ้งในหนังสือเจ้าเมืองเต๊กจิ๋วซึ่งให้มา ครั้นแจ้งคำซึ่งเล่าปี่บอกมาดังนั้นก็คิดสงสารว่าเปนแซ่าเดียวกัน แล้วเปนเชื้อพระวงษ์อยู่ เล่าก๊งจึงเอาเล่าปี่กวนอูเตียวหุยซ่อนไว้ในบ้าน
ฝ่ายขันทีสิบคนั้นพระเจ้าเลนเต้โปรดปรานนัก จะว่ากล่าวสิ่งใดก็สิทธิ์ขาด แลเตียวต๋งเตียวเหยียงสองนายนั้น จึงใช้ทนายสองคนไปว่ากล่าวแก่ขุนนางแลทหารทั้งปวง ซึ่งได้ไปรบกับโจรโพกผ้าเหลืองนั้นว่า