ถ้าพระองค์เมตตาข้าพเจ้าทั้งนี้ ขอให้เชิญโฮจิ๋นเข้ามาตรัสขอชีวิตข้าพเจ้าต่อพระโอษฐ์ ถึงมาทว่าโฮจิ๋นจะไม่เมตตาแล้ว ข้าพเจ้าก็จะตายอยู่ต่อหน้าที่นั่งพระองค์ นางโฮเฮาได้ยินดังนั้นมความกรุณา จึงให้ไปหาโฮจิ๋นเข้ามา ฝ่ายโฮจิ๋นเมื่อจะเข้าไปหานางโฮเฮานั้น ตันหลิมห้ามว่า ซึ่งนางโฮเฮาให้มาเชิญนี้ข้าพเจ้าแคลงอยู่ เข้าไปเห็นจะมีอันตราย โฮจิ๋นจึงตอบว่า นางโฮเฮากับเราเป็นพี่น้องกัน ซึ่งจะคบคิดเปนใจด้วยขันทีนั้นผิดไป อ้วนเสี้ยวจึงว่า การซึ่งคิดไว้นั้นเห็นขันทีสิบคนจะรู้ตระหนัก ซึ่งจักเข้าไปนั้นไม่ได้ โจโฉจึงว่าท่านจะเข้าไปก็ไปเถิด แต่ให้ตัวขันทีสิบคนออกมาเสียจากวังก่อน ท่านจึงจะไม่มีอันตราย โฮจิ๋นได้ยินสามคนว่าดังนั้นก็หัวเราะแล้วตอบว่า เราเปนผู้สำเร็จราชการอยู่ในแผ่นดินหาผู้ใดเสมอมิได้ แลขันทีสิบคนนี้ความคิดความอ่านกล้าหาญเปนกระไรอาจทำร้ายแก่เราได้ อ้วนเสี้ยวจึงว่า ท่านจะขืนเข้าไปก็ตามเถิด แต่ข้าพเจ้าจะขอเข้าไปด้วย อ้วนเสี้ยวจึงให้อ้วนสุดผู้น้องคุมทหารห้าร้อย เข้าไปอยู่ที่ประตูวังข้างหน้า อ้วนเสี้ยวกับโจโฉแต่งตัวใส่เกราะถือกระบี่เข้าไปกับโฮจิ๋นถึงประตูข้างใน โปอี้นายประตูจึงห้ามอ้วนเสี้ยวกับโจโฉไว้แต่ภายนอก โฮจิ๋นจึงเดิรเข้าไปแต่ผู้เดียว ครั้นถึงซุ้มประตูภายในเตียวเหยียงต๋วนกุยเห็นโฮจิ๋นเข้ามา จึงเดิรขวางหน้าออกไปพยักให้พวกห้าสิบคนล้อมโฮจิ๋นเข้าไว้ แล้วเตียวเหยียงร้องว่าตัวแต่ก่อนนั้นก็เปนผู้น้อยอยู่ เราได้ช่วยทำนุบำรุงว่ากล่าวพิททูล ตัวจึงได้เปนผู้ใหญ่ขึ้นถึงเพียงนี้ แลตัวกำเริบให้คนไปลอบฆ่านางตังไทฮอ
หน้า:Sam Kok 1928 (1).djvu/66
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
45
ตอนที่ ๒