อาฏานาฏิยสูตร
วิปัสสิสสะ นะมัตถุ จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต
( ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมีแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ผู้ทรงมีพระปัญญาจักษุ ผู้ทรงไว้ซึ่งพระสิริ )
สิขิสสะปิ นะมัตถุ สัพพะภู ตานุกัมปิโน
( ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมีแด่พระสิขีพุทธเจ้า ผู้ทรงมีพระทัยอนุเคราะห์ ต่อสัตว์ทั้งปวง )
เวสสะภุสสะ นะมัตถุ นหาตะกัสสะ ตะปัสสิโน
( ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมีแด่พระเวสสภูพุทธเจ้า ผู้ทรงมีกิเลสอันชำระแล้วผู้ทรงมีตบะธรรม )
นะมัตถุ กะกุสันธัสสะ มาระเสนัปปะมัททิโน
( ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมีแด่พระกกุสันธพุทธเจ้า ผู้ทรงย่ำยีเสียซึ่งมารและเหล่าเสนาทั้งหลาย )
โกนาคะมะนัสสะ นะมัตถุ พราหมะณัสสะวุสีมะโต
( ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมีแด่พระโกนาคมนพุทธเจ้า ผู้ทรงลอยบาปเสียแล้ว ผู้ทรงมีพรหมจรรย์อันอยู่จบแล้ว )
กัสสะปัสสะ นะมัตถุ วิปปะมุตตัสสะ สัพพะธิ
( ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมีแด่พระกัสสปพุทธเจ้า ผู้ทรงพ้นแล้วจากกิเลสทั้งปวง )
อังคีระสัสสะ นะมัตถุ สักยะปุตตัสสะ สิรีมะโต
( ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้า จงมีแด่พระอังคีรสพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นโอรสแห่งศากยราช ผู้ทรงไว้ซึ่งพระสิริ )
โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง
( พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ได้ทรงแสดงแล้วซึ่งธรรมนี้ อันเป็นเครื่องบรรเทาเสียซึ่งทุกข์ทั้งปวง )
เย จาปิ นิพพุตาโลเก ยะถาภูตัง วิปัสสิสุง
( อนึ่ง แม้ชนเหล่าใดก็ดี ที่ดับกิเลสได้แล้วในโลก เห็นแจ้งตามความเป็นจริง )
เต ชะนา อะปิสุณา มะหันตา วีตะสาระทา
( ชนเหล่านั้นเป็นผู้ไม่มีความส่อเสียด เป็นผู้ทรงความเป็นใหญ่ ปราศจากความครั่นคร้ามแล้ว )
หิตัง เทวะมะนุสสานัง ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง
( เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พากันนอบน้อมอยู่ ซึ่งพระพุทธเจ้าพระองค์ใด
ผู้ทรงเป็นโคตมโคตร ผู้ทรงเกื้อกูลแก่มนษย์และเทวดาทั้งหลาย )
วิชชาจะระณะสัมปันนัง มะหันตัง วีตะสาระทัง
( ผู้ทรงถึงพร้อมแล้ว ด้วยวิชชาและจรณะ ผู้ทรงความเป็นใหญ่เป็นผู้ปรศจากความครั่นคร้ามแล้ว )
วิชชาจะระณะสัมปันนัง วันทามะ โคตะมันติ
( ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอนมัสการพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงเป็นโคตมโคตรผู้ทรงถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะ )