กฎหมายไทยฯ/เล่ม 1/เรื่อง 23
ปรีวีเคาน์ซิล คือ ที่ปฤกษาในพระองค์
พระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดิน จะทรงจัดสันพระบรมวงษานุวงษ แลข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยตามแต่จะทรงเหนควรขึ้นไว้เปนปรีวีเคาน์ซิลลอร์สำหรับปฤกษาราชการในพระองค์ แลจำนวรที่ปฤกษาในพระองค์นั้น มากน้อยเท่าใดไม่มีกำหนดตามแต่พระราชประสงค์ ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดได้เปนที่ปฤกษาในพระองค์ แล้วต้องรับตำแหน่งที่อยู่จนสิ้นแผ่นดินแล้วมีกำหนดอยู่ได้อีก ๖ เดือน จึงต้องขาดจากที่ปฤกษาในพระองค์หมด ถ้าพระเจ้าแผ่นดินที่ได้สืบราชอิศริยยศใหม่นั้น จะโปรดให้เปนที่ปฤกษาในพระองค์ต่อไปก็ต้องตั้งใหม่
ถ้าพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดิน จะโปรดตั้งผู้ใดให้เปนปรีวีเคาน์ซิลลอร์ที่ปฤกษาในพระองค์ ต้องพระราชทานสัญญาบัตรประทับพระราชลัญจกรมีกำหนดศักดินา เพิ่มขึ้นในยศเดิมเปนสำคัญ แลผู้ที่ได้รับตำแหน่งที่ปฤกษา ในพระองค์นั้นมียศวิเสศ แลต้องเดินน่าข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งศักดินาเสมอกันซึ่งมิได้อยู่ในตำแหน่งที่ปฤกษาในพระองค์
ผู้ที่ได้รับตำแหน่งที่ปฤกษาในพระองค์ แม้จะได้สัญญาบัตรแล้ว ถ้ายังไม่ได้ถือน้ำพระพิพัฒน์ถวายสัตยานุสัตยตามข้อสาบาลสำรับที่ปฤกษาในพระองค์ก่อน ก็ยังนับว่าเปนที่ปฤกษาไม่ได้ ต่อได้ถือน้ำพระพิพัฒน์ทำสัตยานุสัตยสาบาลตัวถวายในพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดินแล้ว จึงนับว่าผู้นั้นเปนที่ปฤกษาได้
ให้เคลิกออฟเคาน์ซิลลอร์ มีบาญชีจดหมายรายชื่อจำนวรที่ปฤกษาราชการในพระองค์ ถ้าที่ปฤกษาผู้ใดจะมีที่ไปสักเจ็ดวัน ฤากึ่งเดือน ฤาเดือนหนึ่งก็ดี ต้องบอกเคลิกออฟเคาน์ซิลก่อนจึงไปได้ ถ้าจะไปเกินกำหนดเดือนหนึ่งต้องทูลลา เมื่อเวลากลับมาก็ต้องบอกเคลิกออฟเคาน์ซิลให้รู้ด้วย ถ้าที่ปฤกษาผู้ใดผู้หนึ่งลอบหนีไปไม่ลา ฤาลาไปเกินกำหนดที่ตัวได้บอกไว้ เมื่อมีราชการจะเชิญมาปฤกษาไม่ได้ตัว ที่ปฤกษานั้นมีความผิดควรจะต้องถอดเสียจากที่ ฤาจะต้องรับโทษประการใด สุดแล้วแต่พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัวจะทรงตัดสินโทษ
ถ้าที่ปฤกษาอยู่ในกรุงตามปกติ ไม่มีที่ไปที่อื่น ถ้าเคลิกออฟเคาน์ซิล ได้มีจดหมายเชิญกำหนดนัดเวลาแลที่ประชุมปรีวีเคาน์ซิลที่ปฤกษาในพระองค์ ได้รับจดหมายเชิญแล้วต้องให้มาในที่ประชุมตามจดหมายเชิญ อย่าให้คลาดเวลาได้
ถ้าพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดิน จะดำรัศสั่งที่ปฤกษานายหนึ่งสองนายฤามากด้วยกัน ให้เปนกอมมิศสิอน คือข้าหลวงไปสืบราชการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ปรีวีเคาน์ซิลที่ปฤกษาในพระองค์ ซึ่งเปนผู้รับสั่ง ต้องไปสืบราชการในเรื่องนั้นจนสำเรจแล้ว ให้มีจดหมายข้อราชการทูลเกล้าฯ ถวายในพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยื่นจดหมายข้อราชการต่อที่ปฤกษาราชการแผ่นดิน ฤาผู้หนึ่งผู้ใดจึงให้ยื่นจดหมายข้อราชการตามรับสั่ง
ที่ปฤกษานั้นถ้าไม่ได้รับจดหมายเชิญแล้ว ห้ามไม่ให้เข้ามาในที่ประชุมปฤกษาเปนอันขาด เว้นไว้แต่มีเหตุใหญ่เหตุสำคัญ เกิดขึ้นในแผ่นดินเปนกาลปัตยุบัน ที่ปฤกษาทุกๆ นายต้องรีบเข้ามาเตรียมในที่ประชุมให้พร้อมกันโดยเรว เมื่อพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดินฤาไวซ์เปรสิเดน แลผู้ว่าการแทนไวซ์เปรสิเดน ของเคาน์ซิลออฟสเตด มีราชการสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะได้เชิญมาปฤกษา แลจะได้งเปนกอมมิศสิอน ใช้ไปทำการโดยเรว
ปรีวีเคาน์ซิลลอร์ที่ปฤกษานั้น ไม่มีเงินเดือน ถ้าได้รับตำแหน่งราชการในที่ปฤกษาตลอด ๑๐ ปี โดยเรียบร้อยภักดีต่อราชการ หมั่นเอาใจใส่สืบคิดราชการอยู่แล้ว ได้เงินเบี้ยหวัดแลเงินเดือนยังไม่ถึงปีละยี่สิบชั่ง พระบาทสมเดจพระเจ้าอยู่หัว จะทรงโปรดให้ได้รับพระราชทานเงินเบี้ยเลี้ยง จนตลอดชีวิตรในปีหนึ่ง รวมทั้งเบี้ยเลี้ยงแลเงินอื่นๆ ไม่ให้ต่ำกว่ายี่สิบชั่งลงมา ถ้าที่ปฤกษาได้รับราชการตำแหน่งอื่นอยู่ด้วยได้เบี้ยหวัดถึงปีละยี่สิบชั่งขึ้นไปแล้ว พระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดินจะโปรดพระราชทานเบี้ยเลี้ยงเพิ่มให้ด้วยก็ได้ รายเงินเบี้ยเลี้ยงนี้ เปนเงินส่วนทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสำหรับรักษาเกียรติยศ ตำแหน่งที่ปรีวีเคาน์ซิล ที่มีความภักดีต่อราชการ จนตลอดอายุ
ถ้าที่ปฤกษาผู้หนึ่งผู้ใด ทำความผิดความชั่วหยาบช้าไม่สมควรแก่ยศศักดิ์ พระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดิน จะถอดผู้นั้นเสียจากที่ตำแหน่งยศ แลจะไม่พระราชทานเงินเบี้ยเลี้ยงรักษายศต่อไป
ถ้าที่ปฤกษาผู้ใดได้รับจดหมายเชิญมาในที่ประชุมปฤกษาเคาน์ซิลลอร์ออฟสเตด ฤาจะประชุมแต่ปรีวีเคาน์ซิลก็ดี ต้องประพฤติธรรมเนียมให้ถูกต้องตามกฎหมายข้อพระราชบัญญัติสำหรับเคาน์ซิลลอร์ออฟสเตด คือที่ปฤกษาราชการแผ่นดินทุกข้อ
ถ้าคราวใดพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดินดำรัสให้ที่ปฤกษาราชการในพระองค์มากน้อยเท่าใด ประชุมกันเปนกอมมิตตี ปฤกษาสืบสวนข้อราชการ แลชำระความเรื่องหนึ่งเรื่องใดก็ดี ให้ผู้ที่ต้องประชุมนั้นจับฉลาก เลือกในทางเดียวกันนั้น ยกขึ้นเปนแชร์แมนคือหัวน่านายหนึ่ง แล้วประชุมปฤกษาราชการกันไปตามธรรมเนียมเคาน์ซิลลอร์ออฟสเตด
ผู้ซึ่งได้รับยศที่ปฤกษาแล้ว ถึงจะมิมียศตำแหน่งอื่นเลย ก็เฝ้าพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดินในท้องพระโรง ฤาเฝ้าเปนการ ปรัยเวศ ตามธรรมเนียมได้ ถึงผู้นั้นจะเปนกรมขึ้นก็ไม่ต้องให้นายในกรมนั้นนำเฝ้า ถ้าจะใคร่เฝ้านอกจากเวลาที่เสดจออกท้องพระโรง ฤาปรัยเวศตามธรรมเนียม ก็ได้ประกาศชื่อกราบบังคมทูลก่อน สุดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
ที่ปฤกษาผู้หนึ่งผู้ใดก็ดี ได้ทราบเหตุการอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งเปนเหตุสำคัญแน่นอนแล้ว ให้กราบบังคมทูลพระกรุณาโดยเรว ถ้าปิดบังรั้งรอไว้ต้องมีความผิด อนึ่ง ถ้ากราบบังคมทูลพระกรุณาข้อใดข้อหนึ่ง ให้เขียนจดหมายลงชื่อด้วยลายมือเปนสำคัญ ให้เปนการแน่นอน เว้นแต่กราบทูลตอบในเวลาเมื่อดำรัสถาม
พระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดิน โปรดให้มีหนังสือจดไว้ในสมุดบาญชีชี้แจงการที่ปฤกษาสำรับตัวทุกๆ นาย แลที่ได้ช่วยคิดราชการถวายสำรับจดหมายราชการ ในข้อควรที่ให้ช่วย เคาน์ซิลลอร์ออฟสเตด ทุกอย่างในจำนวนปีหนึ่ง เคาน์ซิลลอร์ออฟสเตด ประชุมจะปฤกษากันกี่ครั้ง แลปรีวีเคาน์ซิลลอร์ ได้มาช่วยปฤกษาราชการด้วยข้อใดบ้าง เคลิกออฟเคาน์ซิล ต้องจดหมายคราวไว้ให้แจ้งชัด เมื่อถึงกำหนดครบปี ๑ แล้ว เคลิกออฟเคาน์ซิล ต้องนำสมุดบาญชีขึ้นทูลเกล้าถวายปีละครั้งทุกปี แลสมุดบาญชีนั้นต้องรักษาไว้เปนของสำรับแผ่นดินสืบไป
ว่าด้วยกอมมิตตีออฟปรีวีเคาน์ซิล
ถ้าพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดิน จะดำรัสสั่งให้ที่ปฤกษาผู้ใดผู้หนึ่ง เปนกอมมิตตีสืบราชการ แลชำระความเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ต้องมีอำนาจเหมือนศาลรับสั่งทุกประการ ถ้าผู้ที่ต้องคดีเข้ามาถึงในที่ประชุมแล้ว ให้แชร์แมนถามก่อนแล้วผู้อื่นจะถามต่อไปก็ได้ เสมียนต้องเขียนจดหมายไว้ ทั้งคำถามแลคำให้การทุกอย่าง
ถ้าชำระได้ความจริงแล้ว ผู้ซึ่งเปนกอมมิตตีทุกๆ นายปฤกษากัน ทำสาระบบความมีสำเนา ตามคำที่ลูกความให้การเปนใจความย่อๆ และแจ้งความปฤกษาของท่านกอมมิตตีด้วย ถ้ากอมมิตตีไม่พร้อมใจ ความเหนไม่ร่วมเปนอย่างเดียวกัน ให้ทำจดหมายสาระบบให้ครบตัวท่านที่เหนต่างกันนั้น แล้วให้จับฉลากค่างฝ่ายไหนจะมากจะน้อย สาระบบซึ่งมีคนเหนด้วยมากนั้นต้องถือเปนสาระบบของกอมมิตตีนั้น แต่กอมมิตตีที่ไม่เหนความร่วมมือกันต้องทำสาระบบตามความคิดของตน ทูลเกล้าฯ ถวายสาระบบนั้นให้ทรงทราบทั้ง ๒ ฝ่าย
ถ้ากอมมิตตีชุมนุมกันครั้งแรก จะเลือกจัดให้ผู้ใดเปนแชร์แมน ผู้นั้นจะครองที่แชร์แมน แลมีอำนาจว่าการกอมมิตตีได้ทุกอย่างจนสิ้นธุระกอมมิตีคราวนั้น ถ้าสิ้นธุระกอมมิตตีครั้งนั้นแล้ว แชร์แมนสิ้นอำนาจ ถ้าพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดินโปรดเกล้าฯ ตั้งผู้ใดเปนแชร์แมนผู้นั้นจะเปนแชร์แมน มีอำนาจยืดยาวไปตลอดเวลา กว่าพระบาทสมเดจพระเจ้าแผ่นดินจะให้ออกเสียจากอำนาจนั้น
ในที่กอมมิตตีนั่งประชุมปฤกษาสืบข้อราชการแลชำระความนั้น จะยอมให้เปนการเปิดเผย ให้คนทั้งปวงมาฟัง ฤาจะเปนการลับ ห้ามไม่ให้ใครเข้ามาฟังก็ได้ สุดแล้วแต่กอมมิตตีจะบังคับ แต่จะห้ามท่านเสนาบดี แลเคาน์ซิลลอร์ออฟสเตดด้วยนั้นไม่ได้ เคลิกออฟเคาน์ซิล เปนพนักงานจัดการเสมียน แลจัดการหนังสือต่างๆ ของกอมมิตตี ต้องตั้งเสมียนสำหรับใช้ในกอมมิตตีๆ ละคน เสมียนซึ่งเคลิกออฟเคาน์ซิลได้จัดตั้งไว้แล้ว ต้องมาประจำทำการจนตลอดเรื่อง ห้ามไม่ให้เคลิกออฟเคาน์ซิลเปลี่ยนเอาคนอื่นมาใช้แทนเสมียน เว้นแต่เสมียนที่ตั้งไว้นั้น มีเหตุมามิได้หน้า:กม ร ๕ (๑) - ๒๔๓๖.pdf/188หน้า:กม ร ๕ (๑) - ๒๔๓๖.pdf/189หน้า:กม ร ๕ (๑) - ๒๔๓๖.pdf/190หน้า:กม ร ๕ (๑) - ๒๔๓๖.pdf/191