กฎหมายไทยฯ/เล่ม 1/เรื่อง 37

พระราชบัญญัติ
สำหรับผู้รักษาเมืองซึ่งจะทำสัญญากับชาวต่างประเทศ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพย์มหามงกุฎ บุรุศรัตนราชรวิวงษ วรุตมพงษบริพัตร วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหา จักรพรรติราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระจุลจอมเกล้าฯ เจ้าแผ่นดินสยาม รัชกาลที่ ๕ ในพระบรมมหาราชวังษซึ่งได้ประดิษฐานแลดำรงค์ศิริราชสมบัติรัตนราไชยมหัยสวริยาธิปัติณกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทรมหินทรายุทธยามาหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบูรีรมย์อุดมราชนิเวศมหาสถาน ซึ่งเปนบรมราชธานีมหานครใหญ่ในราชอาณาจักรแดนสยามฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ เปนบรมราชาธิราชอันใหญ่ในประเทศที่ใกล้เคียง คือ ลาวกระเหรี่ยงมลายูแลประเทศอื่น ๆ ผู้ทรงพระคุณธรรมอันมหาเสรีฐ เสด็จออกประทับเหนือบรมราชอาศนภายไต้มหาเสวกรฉัตร ณพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมหัยสวริยพิมานโดยสถานอุตราพิมุข พร้อมด้วยพระบรมวงษานุวงษอัคมหาเสนาพฤฒามาตย์มุฃมนตรีกระวีชาตราชประโรหิตโหราจารย์ฝ่ายทหารพลเรือนถวายคำนับเฝ้าเบื้องบาทบงกชมาศโดยอันดับ จึงเจ้าพระยาสุริยวงษไวยวัฒพิพัฒนศักดิ์อัคยโสดมที่สมุหะพระกระลาโหมถวายคำนับบังคมทูลพระกรุณาวา การทุกวันนี้จีนแขกฝรั่งสัปเยกต่าง ๆ ซึ่งไปทำมาหากินณเมืองประเทศราชแลหัวเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวานั้นบางทีอยากจะทำสัญญากับผู้ครองเมืองแล้วเกิดสงไสยว่า หนังสือสัญญาที่ทำกับผู้ครองเมืองนั้นจะใช้ได้เพียงไหน ถ้าเกิดความขึ้น จะเข้ามาร้องณกรุงเทพฯ ก็เปนความชำระยาก ขอพระบรมราชวะโรกาศให้มีข้อพระราชบัญญัติสำหรับผู้ครองเมืองประเทศราชแลหัวเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวาต่อไป จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า ในแผ่นดินปัตยุบันนี้ก็มีเมืองใหญ่หลายประเทศมาขอทำหนังสือสัญญาเจริญทางพระราชไมตรี แลลูกค้าชาวต่างประเทศไปมาค้าขายเมืองประเทศราชแลหัวเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวาฝ่ายใต้ฝ่ายเหนือเปนอันมาก มักทำหนังสือสัญญาต่อผู้ครองเมืองประเทศราชแลผู้รักษาเมืองกรมการด้วยป่าไม้แลขุดแร่แลสัญญาสิ่งอื่น ๆ ซึ่งเปนของแผ่นดิน ผู้ครองเมืองประเทศราชแลผู้ว่าราชการเมืองก็ทำหนังสือสัญญาปะปนระคนกันไป หารู้ว่าสิ่งใดเปนฃองแผ่นดิน แลเปนของเจ้าเมืองกรมการ ของราษฎรชาวบ้านไม่ ครั้นทำสัญญาแล้วภายหลังเกิดความชำระตัดสินเปนที่ลำบากกับเจ้าของเมือง ควรจะให้มีกฎหมายข้อบังคับผู้ครองเมืองประเทศราชแลผู้ว่าราชการเมืองกรมการหัวเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวาให้เปนแบบอย่างต่อไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ที่ปฤกษาราชการแผ่นดินตั้งข้อพระราชบัญญัติจัดเปนมาตราไว้สำหรับผู้ครองเมืองประเทศราชผู้ว่าราชการเมืองกรมการเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวาฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ทั่วพระราชอาณาเขตร ให้ทำตามข้อพระราชบัญญัติจงทุกข้อทุกประการ ๚ะ

มาตราหนังสือสัญญาที่ผู้ครองเมืองประเทศราชแลหัวเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวาที่จัทำสัญญากันกับคนชาวต่างประเทศก็ดี ชาวสยามก็ดี ต้องแบ่งเปนสองอย่าง ๆ หนึ่งเรียกว่าปับลิก คือ เปนของแผ่นดิน อย่างหนึ่งเรียกว่าไปรเวศ คือ เปนของ ๆ ผู้นั้น ๚ะ

มาตราคนชาวต่างประเทศฤๅชาวสยามจะทำหนังสือสัญญาด้วยการทำป่าไม้ขุตแร่ทำเข้าสานดีบุกร่อนทองขุดคลองทำทางทำปลาผูกภาษีอากรทำสวนไร่นาที่ไม่มีเจ้าของ ๆ อื่นที่เปนของแผ่นดิ แลเรื่องใช้เลขไพร่หลวงสำหรับเมือง อย่างนี้เปนหนังสือสัญญาปับลิกทั้งนั้น เปนของแผ่นดิน ฯะ

มาตราถ้าคนชาวต่างประเทศกับชาวสยามจะทำหนังสือสัญญาด้วยการรับซื้อขายสิ่งของต่าง ๆ จ้างคนช้างม้าเช่าที่เช่าเรือเช่าตึดเช่าโรงเช่าแพที่มีเจ้าของแลรับเหมาทำการต่าง ๆ อย่างนี้เปนหนังสือสัญญาไปรเวศทั้งนั้น เปนธุระของผู้ที่ทำหนังสือสัญญานั้น ฯะ

มาตราถ้าชาวต่างประเทศผู้ใดฤๅชาวสยามผู้ใดจะทำหนังสือสัญญาแก่ผู้ครองเมืองประเทศราชแลหัวเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวาฝ่ายใต้ฝ่ายเหนือว่าด้วยการปับลิกเกี่ยวข้องเปนฃองสำหรับแผ่นดินนั้น ผู้ครองเมืองกับผู้จะทำสัญญาให้บอกข้อความเข้ามาณกรุงเทพฯ ท่านเสนาบดีผู้เจ้าของเมืองเหนควรแล้ว ท่านเสนาบดีซึ่งได้บ้งคับเมืองนั้นได้รัติไฟหนังสือสัญญาแล้ว จึงใช้ได้ ถ้าท่านเสนาบดีเจ้าของเมืองไม่ยอมรัติไฟ หนังสือสัญญานั้นใช้ไม่ได้ แลของที่ได้สัญญานั้นไม่เปนสิทธิแก่ผู้ทำหนังสือสัญญา ๚ะ

มาตราผู้ใดจะทำหนังสือสัญญาเปนไปรเวศนั้น แล้วแต่ใจของผู้นั้นจะมีกำหนดแลสัญญาตกลงประการใด แต่อย่าให้ผิดกับพระราชกำหนดกฎหมายเก่าใหม่ ถ้าจะเกิดวิวาทด้วยข้อสัญญาประการใด จะมาร้องฟ้องต่อท่านเสนาบดีซึ่งเปนเจ้าพนักงานณกรุงเทพฯ ก็ได้ ถ้าผู้รักษาเมืองกรมการแลราษฎรนั้นแพ้ความ จะต้องเสียเงินแลทรัพย์สิ่งของ ก็ให้เร่งเอาแต่ผู้ซึ่งแพ้ความ จะเร่งเอาที่แลทรัพย์สิ่งของซึ่งเปนของสำหรับแผ่นดินนั้นไม่ได้ ๚ะ

มาตราถ้าผู้ใดซึ่งเปนชาวต่างประเทศมีคดีเกี่ยวข้องฟ้องกล่าวโทษผู้รักษาเมืองกรมการแลราษฎรต่อท่านเจ้าพนักงารกรุงเทพฯ ถ้าฟ้องหามีทุนทรัพย์ ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ตระลาการร้อยละสองก่อน ถ้าไม่ให้ค่าธรรมเนียมร้อยละสองก่อน อย่าให้รับคำฟ้อง ถ้าผู้มาฟ้องนั้นกล่าวโทษผู้ทำผิดเปนโทษหลวง ห้ามอย่าให้ตระลาการเรียกค่าธรรมเนียมแก่ผู้ฟ้อง ถ้าโจทย์ฟ้องหาชำระไม่ได้จริง ให้โจทย์ผู้ฟ้องเสียค่าธรรมเนียมแทนจำเลยตามที่ได้เสียไป แลให้ผู้ครองเมืองประเทศราชผู้รักษาเมืองกรมการเมืองเอกเมืองโทเมืองตรีเมืองจัตวาฝ่ายเหนือฝ่ายใต้แลราษฎรให้กระทำตามพระราชบัญญัตินี้จงทุกประการ พระราชบัญญัติให้ไว้ณวันจันทร เดือนสิบสอง ขึ้นแปดค่ำ ปีจอฉศก จุลศักราช ๑๒๓๖ เปนปีที่ ๗ ในรัชการปัตยุบันนี้ ๚ะ