คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๙๕/๒๕๕๗

แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ[1]
ที่ ๙๕/๒๕๕๗
เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง




เพื่อให้การปฎิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงออกคำสั่ง ดังนี้

ข้อ ๑ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการกระทรวงเพิ่มขึ้นในส่วนราชการ ดังนี้

(๑) ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวนหนึ่งตำแหน่ง
(๒) ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ในกระทรวงพาณิชย์ จำนวนหนึ่งตำแหน่ง

ข้อ ๒ ให้นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ พ้นตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าภายต่างประเทศและให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ตามข้อ (๑) เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ ๓ ให้ นายสมชาติ สร้อยทอง พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าภายในและให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ตามข้อ ๑ (๒) เป็นพิเศษเฉพาะราย

ข้อ ๔ ให้ นางดวงพร รอดพยาธิ์ พ้นจากตำแหน่ง ที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์) ทรงคุณวุฒิ และให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

ข้อ ๕ ให้ นางจิตนา ชัยยวรรณการ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายใน

ข้อ ๖ ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้น ปฎิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้เป็นต้นไป

ข้อ ๗ ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วน โดยจัดให้ดำรงตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าที่ข้าราชการผู้นั้นดำรงตำแหน่งอยู่เดิม

ข้อ ๘ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งตามคำสั่งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

ข้อ ๙ เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อ ๒ และข้อ ๓ แล้ว ให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นอันยกเลิก

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


เชิงอรรถ

แก้ไข
  1. ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม /ตอน /หน้า / .



๙๔/๒๕๕๗ ขึ้น ๙๖/๒๕๕๗

 

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"