คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๑/๒๕๕๗

แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑/๒๕๕๗
เรื่อง การได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว[1]




ตามที่มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๘๕/๒๕๕๗ เรื่อง การได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ให้งดการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่ครบวาระหรือพ้นจากตําแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เพราะสถานการณ์ยังไม่อาจจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นได้โดยเรียบร้อย โดยในระหว่างนี้ ให้ดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นโดยวิธีตั้งคณะกรรมการสรรหาเพื่อคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้และความสามารถในด้านต่าง ๆ เข้ามาทําหน้าที่สมาชิกสภาท้องถิ่นไปพลางก่อน ส่วนตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นที่ครบวาระให้ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่กฎหมายกําหนดไวแล้วนั้น

บัดนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นว่าปัจจุบันประชาชนในท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการแก้ไขปัญหาของประเทศ สถานการณ์จึงได้คลี่คลาย ดังนั้นเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการปฏิรูป การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติให้มากยิ่งขึ้น จึงสมควรให้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแต่เดิมมีส่วนรับผิดชอบในฐานะตัวแทนของประชาชนในการแก้ปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นอันจะเป็นการตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นในสถานการณ์ที่ยังไม่อาจจัดให้มีการเลือกตั้งได้ทั้งยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมอันจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานซึ่งใกล้ชิดกับประชาชนที่สุด

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ กรณีกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา โดยที่กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษซึ่งมีระเบียบบริหารราชการแตกต่างจากการปกครองท้องถิ่นอื่น ๆและจําเป็นต้องประสานงานกับราชการส่วนกลางทั้งในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองการปกครอง ตลอดจนการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด จึงมิให้คําสั่งนี้มีผลบังคับกับกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา และให้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าวที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาดํารงตําแหน่งตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗เรื่อง การได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคมพุทธศักราช ๒๕๕๗ และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๖/๒๕๕๗ เรื่อง การได้มาซึ่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและสมาชิกสภาเขตเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ซึ่งยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับยังคงดํารงตําแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ในกรณีที่ตําแหน่งตามวรรคหน่ึงว่างลงให้ดําเนินการตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๖/๒๕๕๗ ฯ ต่อไป

ข้อ ๒ กรณีสมาชิกสภาท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ ที่จะพ้นจากตําแหน่งให้สมาชิกสภาท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งที่ต้องพ้นจากตําแหน่งเนื่องจากครบวาระตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นต้นไปยังคงอยู่ในตําแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยให้มีจํานวนตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น

ในกรณีที่สมาชิกสภาท้องถิ่นมีจํานวนไม่ครบตามวรรคหนึ่งหรือพ้นจากตําแหน่งในภายหลังเพราะเหตุอื่นนอกจากครบวาระ ให้สภาท้องถิ่นประกอบด้วยสมาชิกสภาท้องถิ่นนั้น ๆ เท่าที่มีอยู่โดยไม่ต้องดําเนินการคัดเลือกสมาชิกสภาท้องถิ่นแทนตําแหน่งที่ว่าง เว้นแต่ในกรณีที่สมาชิกสภาท้องถิ่นเหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือมีการยุบสภาท้องถิ่น ให้ดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ

ข้อ ๓ กรณีสมาชิกสภาท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ พ้นจากตําแหน่งไปก่อนแล้วให้สมาชิกสภาท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งชุดสุดท้ายที่พ้นจากตําแหน่งเนื่องจากครบวาระก่อนวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ และประสงค์จะกลับเข้าดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นมารายงานตัวต่อประธานกรรมการสรรหาตามข้อ ๕ ของประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯภายในวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้กลับเข้าดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นได้นับแต่วันที่ประธานกรรมการสรรหาประกาศแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น และให้สมาชิกสภาท้องถิ่นที่เคยได้รับการประกาศแต่งตั้งตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าวพ้นจากตําแหน่งตั้งแต่วันที่ประธานกรรมการสรรหาประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นขึ้นใหม่

ในกรณีสมาชิกสภาท้องถิ่นที่มารายงานตัวตามวรรคหนึ่งผู้ใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เพราะเหตุไปดํารงตําแหน่งอื่น หากสมาชิกสภาท้องถิ่นผู้นั้นประสงค์จะดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นต้องลาออกจากการดํารงตําแหน่งอื่นนั้นพร้อมแสดงหลักฐานการพ้นจากตําแหน่งนั้นต่อประธานกรรมการสรรหาภายในวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ในกรณีที่สมาชิกสภาท้องถิ่นตามวรรคหนึ่งมีไม่ครบจํานวนตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ว่าด้วยเหตุใด หากยังมีจํานวนตั้งแต่กึ่งหนึ่งขึ้นไปให้ประธานกรรมการสรรหาดําเนินการแต่งตั้งตามวรรคหนึ่งต่อไป หากมีจํานวนไม่ถึงกึ่งหนึ่งให้สมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งได้รับการคัดเลือกและแตงต่ ั้งตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ข้อ ๔ กรณีสมาชิกสภาท้องถิ่นมีจํานวนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ในกรณีตามข้อ ๓ ที่สมาชิกสภาท้องถิ่นใดมีสมาชิกสภาท้องถิ่นเหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ให้ถือว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาท้องถิ่นที่เหลืออยู่นั้นเป็นอันสิ้นสุดลงนับแต่วันที่จํานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นเหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่ง หรือในกรณีที่มีการยุบสภาท้องถิ่นใดในกรณีเช่นว่านี้ให้ดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ

ข้อ ๕ กรณีผู้บริหารท้องถิ่นที่จะพ้นจากตําแหน่ง ให้ผู้บริหารท้องถิ่นที่ต้องพ้นจากตําแหน่งเนื่องจากครบวาระตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ยังคงอยู่ในตําแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตําแหน่งเพราะเหตุอื่นนอกจากครบวาระให้ดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นโดยให้ดําเนินการตามข้อ ๑๑ ของประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ

ข้อ ๖ กรณีผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตําแหน่งไปก่อนแล้ว ให้ผู้บริหารท้องถิ่นชุดสุดท้ายที่พ้นจากการดํารงตําแหน่งเนื่องจากครบวาระก่อนวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ และประสงค์จะกลับเข้าดํารงตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นมารายงานตัวต่อประธานกรรมการสรรหาตามข้อ ๕ของประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ ภายในวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้กลับเข้าดํารงตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นได้นับแต่วันที่ประธานกรรมการสรรหาประกาศแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารท้องถิ่น และให้ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยุติการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ประธานกรรมการสรรหาประกาศแต่งตั้งผู้บริหารท้องถิ่นดังกล่าว

ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นที่มารายงานตัวตามวรรคหนึ่งผู้ใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เพราะเหตุไปดํารงตําแหน่งอื่น หากผู้บริหารท้องถิ่นผู้นั้นประสงค์จะดํารงตําแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นต้องลาออกจากการดํารงตําแหน่งอื่นนั้นพร้อมแสดงหลักฐานการพ้นจากตําแหน่งนั้นต่อประธานกรรมการสรรหาภายในวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ข้อ ๗ การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเพื่อแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ก่อนประธานกรรมการสรรหาจะแต่งตั้งตามข้อ ๓ และข้อ ๖ ให้ส่งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยประธานกรรมการสรรหาต้องส่งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบภายในวันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายชื่อ

ให้ประธานกรรมการสรรหาออกประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งผลการตรวจสอบ และให้ถือว่าผู้ที่ได้รับการประกาศแต่งตั้งนั้นเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นนับแต่วันประกาศแต่งตั้ง

ข้อ ๘ วาระของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ให้สมาชิกสภาท้องถิ่นตามข้อ ๒และข้อ ๓ และผู้บริหารท้องถิ่นตามข้อ ๕ และข้อ ๖ ดํารงตําแหน่งจนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศให้มีการเลือกตั้ง ในกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติยังอยู่ในตําแหน่งการประกาศให้มีการเลือกตั้งให้กระทําได้โดยความเห็นชอบร่วมกันระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ข้อ ๙ สิทธิประโยชน์และค่าตอบแทนของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ให้สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่ประธานกรรมการสรรหาประกาศแต่งตั้งตามคําสั่งนี้ ได้รับเงินเดือน เงินค่าตอบแทน ค่าตอบแทน และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นตามกฎหมายและระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังต่อไปนี้แล้วแต่กรณี

(๑) ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินเดือนและค่าตอบแทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และกรรมการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด

(๒) ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินเดือน เงินค่าตอบแทน และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของนายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล รองประธานสภาเทศบาลสมาชิกสภาเทศบาล เลขานุการนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี และการจ่ายค่าเบี้ยประชุมกรรมการสภาเทศบาล

(๓) ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินค่าตอบแทนนายกองค์การบริหารส่วนตําบลรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตําบล รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตําบล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตําบลและเลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตําบล

ข้อ ๑๐ สิทธิประโยชน์และค่าตอบแทนของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่มาจากการสรรหาและแต่งตั้ง ให้สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่ประธานกรรมการสรรหาประกาศแต่งตั้งตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ ได้รับเงินเดือน เงินค่าตอบแทนค่าตอบแทน และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่

ข้อ ๑๑ การพ้นจากตําแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นด้วยเหตุอื่นนอกจากครบวาระให้สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นซึ่งเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๖/๒๕๕๗ ฯ และคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับนี้ ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลเพ่ือประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ในกรณีที่ตรวจสอบพบว่า สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นผู้ใดทุจริตต่อหน้าที่หรือหากให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจะเกิดความเสียหายต่อทางราชการหรือท้องถิ่นนั้นอย่างร้ายแรงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีอํานาจสั่งให้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นผู้นั้นพ้นจากตําแหน่งได้ และในกรณีที่สั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตําแหน่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะแต่งตั้งผู้ที่เหมาะสมเป็นผู้บริหารท้องถิ่นแทน หรือจะสั่งให้ดําเนินการตามข้อ ๑๑ ของประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๕/๒๕๕๗ ฯ ก็ได้

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

เชิงอรรถ

แก้ไข
  1. ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนพิเศษที่ ๑ ง/หน้า ๔๘ - ๕๒/๕ มกราคม ๒๕๕๘.



ขึ้น

 

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"