ประชุมกฎหมายประจำศก/เล่ม 8/ภาค 1/เรื่อง 5
ด้วยมีพระบรมราชโองการตรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า ให้ประกาศแก่ข้าราชการณกรุงเทพฯ แลผู้สำเร็จราชการเมืองกรมการหัวเมืองเอกโทตรีจัตวาปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือให้ทราบทั่วกันว่า เดี๋ยวนี้ ผู้ที่ร้องฎีกาเพื่อจะกล่าวโทษศุภาตระลาการขุนโรงขุนศาลแลกรมการหัวเมืองก็มีแต่คิดจะให้ทรงขัดเคืองแก่ผู้ที่ตัวจะกล่าวโทษ แม้นเหตุตามเรื่องน้อยไม่พอที่จะก่อเหตุให้ทรงขัดเคืองมาก ก็หาเหตุต่าง ๆ ขอดแคะไปสืบหาว่า สิ่งไรจะไม่โปรดไม่ชอบพระโสตแล้ว ก็เอาสิ่งนั้นมาว่าในเรื่องราวตรง ๆ บ้าง แอบ ๆ บ้าง ตามสำนวนที่จะพูดไป ก็เหตุเหล่านั้น คือว่า สูบฝิ่น หนึ่ง เล่นเบี้ยเล่นโปเมาสุราเปนนิด หนึ่ง เปนหนี้สินรุงรัง หนึ่ง แลเปนขุนรุหมื่นรุนอกราชการ เปนขุนโรงขุนศาล ฤๅเปนกรมการเก่า ต้องถอดถอนเสียแล้วมาเสือกสนซนหากิน หนึ่ง * * * ก็ใน ๖ อย่างนี้ ๔ อย่างข้างต้นมาโดยลำดับ แต่ที่หนึ่งนั้นร้ายแท้เปนอย่างเอก ถึงในกฎหมายในการพยานเขาก็ค้านได้เมื่อโทษควรจะกล่าวอยู่แล้ว ชื่อว่า ค้านตระลาการ แต่ใครจะค้านอย่างนี้ ให้ไปร้องต่อท่านผู้เปนอธิบดี ฤๅเจ้ากรม ฤๅผู้สำเร็จราชการเมือง ผู้ตั้งตระลาการนั้นให้ว่าความ ควรว่า ตระลาการนั้นเปนอย่างนี้ ๆ รังเกียจอยู่ ขอให้ตั้งตระลาการอื่นว่า ก็ถ้ามิฟัง ขืนให้ว่า จะมาร้องต่อในหลวงก็ได้ แต่เหตุหลัง ๒ เหตุนั้นจะเปนประมาณหนักไม่ได้ เพราะคนที่ต้องถอดออกจากราชการนั้น ๆ ต้องถอดด้วยประพฤติที่มิชอบในการว่าความก็มี ต้องถอดเพราะไม่ชอบกับผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่นั้นกรมนั้นด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งจะไม่เปนที่รังเกียจแก่การว่าถ้อยความก็มี เพราะเวลาหนึ่งป่วยไข้มีธุระทำวนเกียจคร้านไปไม่ได้ราชการ ท่านผู้หลักผู้ใหญ่หาผู้อื่นมาเปน ถอดเสียก็มี เพราะระแวงราชการอย่างอื่นซึ่งไม่ควรจะเปนเหตุให้รังเกียจในการพิพากษาความ เปนแต่การพลั้งพลาดก็มี ถ้าเปนผู้ร้ายฉ้อฉกพระราชทรัพย์แลอื่น ๆ ควรจะรังเกียจอยู่แล้ว * * * เพราะฉนั้น จะเอาเหตุ ๒ เหตุข้างหลังมาเปนหลักความที่จะคัดค้านผู้เปนตระลาการนั้นก็ไม่ได้เปนแน่แท้ แต่เดี๋ยวนี้ ผู้ร้องฎีกาตื่นนัก พอใจชี้ว่า ตระลาการขุนศาลเสมียนคนนั้น ๆ เปนคนนอกราชการเก่าเอามาตั้ง * * * เอามาวางในเรื่องราวเนือง ๆ ไป เพราะฉนั้น ประกาศไว้ว่า หมู่ใดกรมใดจะเอาคนนอกราชการต้องถอดก่อนเก่ามาตั้งเปนขุนโรงขุนศาลตระลาการว่าความ ก็ให้ผู้จะตั้งเรียงความตามกำเนิดของคนนั้นโดยสัจจริงว่า คนนั้นเปนคนนอกราชการในกรมนั้น ๆ ด้วยเหตุใด ๆ เอาการที่จริงมายื่นไว้ในกรมอาลักษณ์แห่งหนึ่งเปนสำคัญ มายื่นไว้ที่จางวางมหาดเล็กแห่งหนึ่งเปนพยาน จะได้สืบสวนดูว่าจริงฤๅไม่จริง ถ้าเห็นว่าไม่จริง จะได้ห้ามเสียไม่ให้ตั้ง ถ้าเห็นว่าไม่จริง คือ ซึ่งผู้นั้นต้องถอดไม่เปนเพราะการที่ไม่เที่ยงธรรมในโรงศาลการพิพากษาความ ก็จะได้ยอมหน้า:ประชุมกฎหมายประจำศก (๐๘) - ๒๔๗๘.pdf/26