ประชุมประกาศรัชกาลที่ 4/ภาค 1/เรื่อง 20
ด้วยพระยาบำเรอภักดิ์รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า ให้มีหมายประกาศแก่พระสมณพราหมณาจารย์ แลข้าทูลลอองผู้ใหญ่ผู้น้อย แลอาณาประชาราษฎรทั้งปวง ด้วยพระสงฆ์ทุกวันนี้ดูเหมือนจะไม่มีศรัทธาที่จะให้เปนประโยชน์ชั่วนี้ชั่วน่า บวชไนพระศาสนาแล้วตั้งใจจะหาแต่ลาภสักการ แล้วกระทำอุลามกต่าง ๆ เปนต้นว่าไปคบหาผู้หญิงพูดจากันในที่ลับแต่สองต่อสองจนถึงชำเรากันดังนี้เห็นจะมีอยู่โดยมาก แต่หากว่าใม่มีผู้ใดจะฟ้องร้องว่ากล่าวเหมือนเรื่องอ้ายเสนไปคบหากันกับอีหนู ไปมาหากันจนถึงชำเรากันทั้งพระ แล้วมีคนไปฟ้องหาในกรมพระธรรมการ กรมพระธรรมการแลตุลาการชำระอ้ายเสนหาเปนสัจไม่ ด้วยเห็นแก่อ้ายเสน ครั้นมาภายหลังอ้ายเสนกับอีหนูกลับมาเปนผัวเมียกันเข้า ครั้นเอาตัวอีหนูมาถามกลับรับเปนสัจ แต่ตัวอ้ายเสนนั้นหนีไปยังไม่ได้ตัว และพระสงฆ์อื่น ๆ ก็เห็นจะเปนเหมือนอ้ายเสนจะมีอยู่มาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ว่า แต่นี้สืบไปถ้าผู้ใดรู้เห็นว่าพระสงฆ์รูปใดวัดใดเปนเช่นอ้ายเสนนี้แล้ว ให้เห็นแก่พระศาสนา อย่าได้ปิดบังอำพรางไว้ ให้มาฟ้องร้องว่ากล่าวในกรมพระธรรมการตามกระทรวง ถ้าแลกรมพระธรรมการเห็นแก่ฝ่ายจำเลยแลผัดเพี้ยนไปให้เนิ่นช้า ให้ทำเรื่องราวฎีกามาทูลเกล้าฯ ถวายพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท จะได้โปรดเกล้าฯ ให้ข้าทูลลอองธุลีพระบาทคนหนึ่งคนใดชำระ ถ้าชำระได้ความเปนสัจ ก็จะทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานรางวัลให้แก่ผู้โจทย์นั้นโดยสมควร ถ้าผู้ใดที่บ้านใกล้เรือนเคียงแลรู้เห็นแล้วปิดบังอำพรางไว้ไม่มาฟ้องร้องว่ากล่าวก็ดี จะโปรดเกล้าฯ ให้ปรับไหมผู้นั้น ถ้าถือศักดินา ๑๒๐๐ ไร่ลงไป ให้จ่ายเข้าเดือน ๆ หนึ่ง ถ้าถือศักดินา ๔๐๐ ไร่ จะให้ผู้นั้นเข้าเดือน ๒ เดือน อนึ่ง ถ้าผู้รู้เห็นเปนใจแลช่วยชักสื่อพระให้ผู้หญิง ชักผู้หญิงให้พระ ถ้าชำระเปนสัจ จะโปรดเกล้าฯ ให้ปรับไหมผู้นั้นให้เปนตะพุ่นหญ้าช้างด้วยเสมอโทษปาราชิก.