พระราชกฤษฎีกา จัดตั้งเทศบาลเมืองคูคต จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. ๒๕๓๕

แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๕ ก พระราชกิจจานุเบกษา ๖ มีนาคม ๒๕๓๕

หน้า ๔

พระราชกฤษฎีกา
จัดตั้งเทศบาลเมืองคูคต จังหวัดปทุมธานี
พ.ศ. ๒๕๓๕




ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
เป็นปีที่ ๕๑ ในรัชกาลปัจจุบัน


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งสุขาภิบาลคูคต อําเภอลําลูกกา จังหวัดปทุมธานี ขึ้นเป็นเทศบาลเมือง

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๒๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๕) พุทธศักราช ๒๕๓๘ มาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. ๒๕๕๕ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๕๕๖ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองคูคต จังหวัด ปทุมธานี พ.ศ. ๒๕๓๕

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้จัดตั้งสุขาภิบาลคูคต อําเภอลําลูกกา จังหวัดปทุมธานี ขึ้นเป็นเทศบาลเมือง มีชื่อว่า “เทศบาลเมืองคูคต จังหวัดปทุมธานี”

มาตรา ๔ ให้กําหนดเขตเทศบาลเมืองคูคต จังหวัดปทุมธานี ไว้ดังนี้ หน้า ๕

หลักเขตที่ ๑ ตั้งอยู่ตรงแนวเส้นแบ่งเขตอําเภอลําลูกกากับอําเภอธัญบุรี ตรงจุดที่แนวเส้น แบ่งเขตอําเภอลําลูกกากับอําเภอธัญบุรี บรรจบกับแนวเส้นแบ่งเขตอําเภอลําลูกกากับอําเภอเมืองปทุมธานี

ด้านเหนือ

จากหลักเขตที่ ๑ เป็นเส้นเลียบตามแนวเส้นแบ่งเขตอําเภอลําลูกกากับอําเภอธัญบุรี ไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ กรุงเทพมหานคร - แม่สาย (เขตแดน) ถึงหลักเขตที่ ๒ ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองซอยที่ ๑ ฝั่งตะวันออก

จากหลักเขตที่ ๒ เป็นเส้นเลียบริมคลองซอยที่ ๑ ฝั่งตะวันออก ไปทางทิศใต้ และทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ ถึงหลักเขตที่ ๓ ซึ่งตั้งอยู่ปากคลองซอยที่ ๑ ฝั่งเหนือ ตรงจุดที่ปากคลองซอยที่ ๑ บรรจบกับคลองซอยที่ ๒

จากหลักเขตที่ ๓ เป็นเส้นเลียบริมคลองซอยที่ ๒ ฝั่งตะวันตก ไปทางทิศเหนือ ระยะ ๓๐๐ เมตร ถึงหลักเขตที่ ๔ ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองซอยที่ ๒ ฝั่งตะวันตก

จากหลักเขตที่ ๔ เป็นเส้นตั้งฉากกับคลองซอยที่ ๒ ไปทางทิศตะวันออก ถึงหลักเขตที่ ๕ ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวเส้นขนานระยะ ๑,๒๐๐ เมตร กับศูนย์กลางคลองซอยที่ ๒

ด้านตะวันออก

จากหลักเขตที่ ๕ เป็นเส้นขนานระยะ ๑,๒๐๐ เมตร กับศูนย์กลางคลองซอยที่ ๒ ไปทาง ทิศใต้ ผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓.๓๑๒ แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ (สนามกีฬา ธูปะเตมีย์) - คลอง ๑๖ ถึงหลักเขตที่ ๖ ซึ่งตั้งอยู่ตรงแนวเส้นแบ่งเขตจังหวัดปทุมธานีกับ กรุงเทพมหานคร

ด้านใต้

จากหลักเขตที่ ๖ เป็นเส้นเลียบตามแนวเส้นแบ่งเขตจังหวัดปทุมธานีกับกรุงเทพมหานคร ไปทางทิศตะวันตก ทิศเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ถึงหลักเขตที่ ๗ ซึ่งตั้งอยู่ตรงแนวเส้น แบ่งเขตจังหวัดปทุมธานีกับกรุงเทพมหานคร ตรงจุดที่แนวเส้นแบ่งเขตจังหวัดปทุมธานีกับ กรุงเทพมหานคร บรรจบกับแนวเส้นแบ่งเขตอําเภอลําลูกกากับอําเภอเมืองปทุมธานี

ด้านตะวันตก

จากหลักเขตที่ ๒ เป็นเส้นเลียบตามแนวเส้นแบ่งเขตอําเภอลําลูกกากับอําเภอเมืองปทุมธานี ไปทางทิศเหนือ บรรจบกับหลักเขตที่ ๑

ดังปรากฏในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้

ตามเส้นแนวเขตที่กล่าวไว้ในมาตรานี้ ให้มีหลักย่อยปักไว้เพื่อแสดงแนวเขตตามสมควร

หน้า ๖

มาตรา ๕ ในระหว่างดําเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองคูคต จังหวัดปทุมธานี ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งกรรมการสุขาภิบาลคูคต อําเภอลําลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งพ้นจากตําแหน่งในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับตามที่เห็นสมควร มีจํานวนเท่ากับจํานวนคณะ เทศมนตรีเทศบาลเมือง ตามมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๕๕๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๓ เพื่อดําเนินกิจการในหน้าที่ของคณะเทศมนตรี ไปพลางก่อนจนกว่าคณะเทศมนตรีที่ได้รับแต่งตั้งตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๕๕๖ เข้ารับหน้าที่

มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้


ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
บรรหาร ศิลปอาชา
นายกรัฐมนตรี

ขึ้น

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"