พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘/หมวด ๒
ให้มีสภามหาวิทยาลัย ประกอบด้วย
(๑) นายกสภามหาวิทยาลัย ซึ่งจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
(๒) กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนสิบห้าคน ซึ่งจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย
(๓) กรรมการสภามหาวิทยาลัยโดยตําแหน่ง ได้แก่ อธิการบดี ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย ประธานกรรมการวิชาการ ประธานสภาพนักงาน และนายกสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์
(๔) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจํานวนหนึ่งคน ซึ่งเลือกจากผู้ดํารงตําแหน่งรองอธิการบดี
(๕) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจํานวนสามคน ซึ่งเลือกจากผู้ดํารงตําแหน่งคณบดี ผู้อํานวยการหรือหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก
(๖) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจํานวนสามคน ซึ่งเลือกจากคณาจารย์ประจําที่ทําการสอนมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี และมิใช่ผู้ดํารงตําแหน่งรองอธิการบดี คณบดี ผู้อํานวยการ หรือหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก
(๗) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจํานวนหนึ่งคน ซึ่งเลือกจากพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนที่ปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี และมิใช่ผู้ดํารงตําแหน่งรองอธิการบดี คณบดี ผู้อํานวยการหรือหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสำนัก
คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๒) ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ต้องสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิจากรายชื่อที่คณะกรรมการการอุดมศึกษาเสนอจํานวนหนึ่งคน
คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการเลือกกรรมการสภามหาวิทยาลัยตาม (๔) (๕) (๖) และ (๗) ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
ให้สภามหาวิทยาลัยเลือกกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่งเป็นอุปนายกสภามหาวิทยาลัยและให้อุปนายกสภามหาวิทยาลัยทําหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย เมื่อนายกสภามหาวิทยาลัยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือเมื่อไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย และในกรณีที่อุปนายกสภามหาวิทยาลัยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือเมื่อไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งอุปนายกสภามหาวิทยาลัย ให้สภามหาวิทยาลัยเลือกกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่งทําหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย
ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรองอธิการบดีคนหนึ่งเป็นเลขานุการสภามหาวิทยาลัยและให้ผู้อํานวยการสํานักงานสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยตามมาตรา ๒๐ (๒) (๔) (๕) (๖) และ (๗) มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสามปี และจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งหรืออาจได้รับเลือกใหม่อีกได้
นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระตามวรรคหนึ่ง นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยตามมาตรา ๒๐ (๒) (๔) (๕) (๖) และ (๗) พ้นจากตําแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอน
(๔) ขาดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยในประเภทนั้น
(๕) ถูกจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก
(๖) เป็นบุคคลล้มละลาย
(๗) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ในกรณีที่ตําแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใดและยังมิได้ดําเนินการให้ได้มาซึ่งนายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยแทนตําแหน่งที่ว่างให้สภามหาวิทยาลัยประกอบด้วยกรรมการสภามหาวิทยาลัยเท่าที่มีอยู่
ในกรณีที่นายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยพ้นจากตําแหน่งก่อนครบวาระและได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง หรือได้มีการดําเนินการให้ผู้ใดดํารงตําแหน่งแทนแล้ว ให้ผู้นั้นอยู่ในตําแหน่งเพียงเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน แต่ถ้าวาระการดํารงตําแหน่งเหลืออยู่น้อยกว่าเก้าสิบวัน จะไม่ดําเนินการให้มีผู้ดํารงตําแหน่งแทนก็ได้
ในกรณีที่นายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยพ้นจากตําแหน่งตามวาระแต่ยังมิได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือยังมิได้ดําเนินการให้ได้มาซึ่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยอื่นขึ้นใหม่ ให้นายกสภามหาวิทยาลัยกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยอื่นซึ่งพ้นจากตําแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปพลางก่อนจนกว่าจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือได้มีการดําเนินการให้ได้มาซึ่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยอื่นขึ้นใหม่แล้ว
สภามหาวิทยาลัยมีอํานาจหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของมหาวิทยาลัยอํานาจหน้าที่เช่นว่านี้ให้รวมถึง
(๑) กําหนดนโยบายและแผนพัฒนาของมหาวิทยาลัย
(๒) ออกระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของมหาวิทยาลัยหรือสภามหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย และอาจมอบหมายให้ส่วนงานใดในมหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกระเบียบและข้อบังคับสําหรับส่วนงานนั้นเป็นเรื่องๆ ไปก็ได้
(๓) อนุมัติการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญาและประกาศนียบัตร ทั้งของมหาวิทยาลัยและที่มหาวิทยาลัยจัดการศึกษาร่วมกับสถานศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันอื่น รวมทั้งอนุมัติการให้ปริญญากิตติมศักดิ์
(๔) อนุมัติการจัดตั้ง การรวม และยุบเลิกส่วนงานของมหาวิทยาลัย รวมทั้งการแบ่งหรือการปรับปรุงหน่วยงานภายในของส่วนงานดังกล่าว
(๕) อนุมัติการรับเข้าสมทบ การจัดการศึกษาร่วม หรือการยกเลิกการสมทบ การยกเลิกการจัดการศึกษาร่วมของสถานศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันอื่น
(๖) อนุมัติหลักสูตรการศึกษาและการเปิดสอน รวมทั้งการปรับปรุง การยุบรวม หรือการยกเลิกหลักสูตรการศึกษา
(๗) พิจารณาดําเนินการเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และพิจารณาถอดถอนนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ อธิการบดี ศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์พิเศษ
(๘) แต่งตั้งและถอดถอนรองอธิการบดี คณบดี ผู้อํานวยการ หัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ รองศาสตราจารย์รองศาสตราจารย์พิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ
(๙) ออกระเบียบและข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของมหาวิทยาลัย
(๑๐) กําหนดนโยบายและวิธีการเกี่ยวกับการจัดหารายได้ จัดหาแหล่งทุนและทรัพยากรอื่น
(๑๑) ออกระเบียบและข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารการเงิน การพัสดุ และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย
(๑๒) อนุมัติการตั้งงบประมาณรายรับและงบประมาณรายจ่ายของมหาวิทยาลัย
(๑๓) อนุมัติการกู้ยืมเงินและให้กู้ยืมเงิน และการลงทุนหรือการร่วมลงทุนตามมาตรา ๑๔ (๔) วรรคสอง
(๑๔) อนุมัติการจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นในการจัดตั้งองค์กรที่เป็นนิติบุคคลหรือยกเลิกนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา ๑๔ (๗)
(๑๕) รับรองรายงานประจําปีของมหาวิทยาลัย และเสนอรายงานนั้นต่อรัฐมนตรีเพื่อทราบ
(๑๖) ติดตามและประเมินผลการดําเนินงานของอธิการบดี คณบดี ผู้อํานวยการ หรือหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก
(๑๗) แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อกระทําการใดๆอันอยู่ในอํานาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย รวมทั้งมอบอํานาจให้คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการหรือบุคคลดังกล่าวทําการแทนแล้วรายงานให้สภามหาวิทยาลัยทราบ
(๑๘) ปฏิบัติหน้าที่อื่นเกี่ยวกับกิจการของมหาวิทยาลัยที่มิได้ระบุให้เป็นหน้าที่ของผู้ใดโดยเฉพาะ
การประชุมและวิธีการดําเนินงานของสภามหาวิทยาลัย ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยคณะหนึ่ง ประกอบด้วยประธานกรรมการและกรรมการอีกจํานวนหนึ่ง ซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งจากบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย
คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย มีหน้าที่ให้คําแนะนําปรึกษาและสนับสนุนการดําเนินกิจการของมหาวิทยาลัย
จํานวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ้นจากตําแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการ ตลอดจนการประชุมและการดําเนินงานของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
ให้มีคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย อธิการบดีเป็นประธานรองอธิการบดี คณบดี ผู้อํานวยการ หรือหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัยสถาบัน หรือสํานัก และประธานสภาพนักงาน เป็นกรรมการ
ให้คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยแต่งตั้งรองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดีคนหนึ่งเป็นเลขานุการโดยคําแนะนําของอธิการบดี
คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับการเสนอแผนพัฒนามหาวิทยาลัย พิจารณากลั่นกรองระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของมหาวิทยาลัย พิจารณาเกี่ยวกับการจัดตั้ง การรวม หรือการยุบเลิกส่วนงาน และการจัดตั้ง การรวม การแบ่ง หรือการยุบเลิกหน่วยงานภายในของส่วนงาน ดําเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย ให้คําปรึกษาและข้อแนะนําแก่อธิการบดี ทั้งนี้ ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
การประชุมและวิธีการดําเนินงานของคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
ให้มีคณะกรรมการวิชาการ ประกอบด้วย ประธานกรรมการและกรรมการซึ่งมาจากผู้ทรงคุณวุฒิภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย
จํานวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ้นจากตําแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการ ตลอดจนการประชุมและการดําเนินงานของคณะกรรมการวิชาการให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
คณะกรรมการวิชาการมีอํานาจหน้าที่ ดังนี้
(๑) เสนอแนะการกําหนดนโยบายและแผนพัฒนาทางวิชาการของมหาวิทยาลัยต่ออธิการบดี
(๒) กําหนดและกํากับดูแลคุณภาพและมาตรฐานวิชาการของมหาวิทยาลัย
(๓) จัดทําจรรยาบรรณของคณาจารย์และผู้ทํางานวิจัยเพื่อเสนอสภามหาวิทยาลัยและดูแลให้มีการปฏิบัติตามจรรยาบรรณดังกล่าว
(๔) ประมวลและประเมินความก้าวหน้าทางวิชาการ และจัดทําข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาทางวิชาการเสนอต่อสภามหาวิทยาลัยเป็นประจําทุกปี
(๕) เสนอแนะต่อสภามหาวิทยาลัยในการอนุมัติหลักสูตรการศึกษาและการเปิดสอน รวมทั้งการปรับปรุง การยุบรวม และการยกเลิกหลักสูตรการศึกษา
(๖) เสนอการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญาและประกาศนียบัตรต่อสภามหาวิทยาลัย
(๗) พิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการรับเข้าสมทบหรือการยกเลิกการสมทบของสถานศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันอื่นตามมาตรา ๑๑ และการจัดการศึกษาและดําเนินการวิจัยร่วมกับสถานศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันวิจัยอื่นตามมาตรา ๑๒ ต่อสภามหาวิทยาลัย
(๘) แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพื่อกระทําการใดๆอันอยู่ในอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการวิชาการ
(๙) ให้คําปรึกษาแก่อธิการบดีและปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่สภามหาวิทยาลัยหรืออธิการบดีมอบหมาย
ให้มีสภาพนักงาน ประกอบด้วย ประธานสภาพนักงาน และกรรมการสภาพนักงานซึ่งมาจากพนักงานมหาวิทยาลัย
จํานวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ้นจากตําแหน่งของประธานสภาพนักงานและกรรมการสภาพนักงาน ตลอดจนการประชุมและการดําเนินงานของสภาพนักงานให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
สภาพนักงานมีหน้าที่ดังนี้
(๑) ให้คําปรึกษาและข้อแนะนําแก่สภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีในการบริหารกิจการทั้งปวงของมหาวิทยาลัย
(๒) ช่วยเหลือ สนับสนุน และเผยแพร่กิจกรรมและการดําเนินงานของมหาวิทยาลัย
(๓) สร้างและส่งเสริมความสามัคคีของพนักงานมหาวิทยาลัย
(๔) ส่งเสรมคิ ุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ และผดุงเกียรติของพนักงานมหาวิทยาลัย
(๕) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่สภามหาวิทยาลัยหรืออธิการบดีมอบหมาย
ให้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดและรับผิดชอบการบริหารงานของมหาวิทยาลัยและอาจมีรองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดี หรือจะมีทั้งรองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดี ตามจํานวนที่สภามหาวิทยาลัยกําหนด เพื่อทําหน้าที่และรับผิดชอบตามที่อธิการบดีมอบหมายก็ได้
อธิการบดีนั้น จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยคําแนะนําของสภามหาวิทยาลัยจากผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๕
หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาอธิการบดี ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
รองอธิการบดีนั้น ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งโดยคําแนะนําของอธิการบดีจากผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๖
ผู้ช่วยอธิการบดีนั้น ให้อธิการบดีแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๖
อธิการบดีมีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสี่ปี และจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะดํารงตําแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้
เมื่ออธิการบดีพ้นจากตําแหน่งให้รองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดีพ้นจากตําแหน่งด้วย
นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ อธิการบดีพ้นจากตําแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๓๕
(๔) สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอน
(๕) ถูกจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก
(๖) เป็นบุคคลล้มละลาย
(๗) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
อธิการบดีต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
(๑) สําเร็จการศึกษาไม่ต่ํากว่าชั้นปริญญาเอกหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง และได้ทําการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง หรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารอื่นตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่กําหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
(๒) สําเร็จการศึกษาปริญญาหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัย หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง และได้ทําการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง หรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารอื่นตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่กําหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย หรือเคยดํารงตําแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยมาแล้วไม่น้อยกว่าสี่ปี
นอกจากคุณสมบัติตามวรรคหนึ่ง อธิการบดีต้องมีคุณสมบัติอื่น และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กําหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
รองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดีต้องสําเร็จการศึกษาปริญญาหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัย หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง รวมทั้งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กําหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
อธิการบดีเป็นผู้แทนของมหาวิทยาลัยในกิจการทั้งปวง และให้มีอํานาจหน้าที่ ดังนี้
(๑) บริหารกิจการของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกําหนดประกาศ รวมทั้งนโยบายและวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย
(๒) บริหารงานบุคคล บริหารการเงิน การพัสดุ และทรัพย์สินอื่นของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกําหนด และประกาศของมหาวิทยาลัย
(๓) กํากับดูแล ติดตามและประเมินผลการดําเนินงานของคณบดี ผู้อํานวยการ และหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก
(๔) แต่งตั้งและถอดถอนผู้ช่วยอธิการบดี รองคณบดี รองผู้อํานวยการ รองหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก และอาจารย์พิเศษ
(๕) จัดทําแผนพัฒนามหาวิทยาลัยและปฏิบัติตามนโยบายและแผนงาน รวมทั้งติดตามประเมินผลการดําเนินงานด้านต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
(๖) จัดหาทรัพยากรจากแหล่งต่างๆ เพื่อสนับสนุนการดําเนินภารกิจของมหาวิทยาลัย
(๗) เสนอรายงานประจําปีเกี่ยวกับกิจการด้านต่างๆ ของมหาวิทยาลัยต่อสภามหาวิทยาลัย
(๘) จัดทํางบประมาณรายรับและงบประมาณรายจ่ายเพื่อเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย
(๙) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกําหนด และประกาศของมหาวิทยาลัยหรือตามที่สภามหาวิทยาลัยมอบหมาย
ในกรณีที่อธิการบดีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองอธิการบดีเป็นผู้รักษาการแทน ถ้ามีรองอธิการบดีหลายคน ให้รองอธิการบดีซึ่งอธิการบดีมอบหมายเป็นผู้รักษาการแทนถ้าอธิการบดีมิได้มอบหมาย ให้รองอธิการบดีที่มีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้รักษาการแทน
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งอธิการบดี หรือไม่มีผู้รักษาการแทนอธิการบดีตามวรรคหนึ่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๕ เป็นผู้รักษาการแทน
ในวิทยาเขตหนึ่ง ให้มีสํานักงานวิทยาเขต โดยมีรองอธิการบดีคนหนึ่งซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งโดยคําแนะนําของอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการบริหารงานของวิทยาเขต ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกําหนด และประกาศของมหาวิทยาลัยและปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่อธิการบดีมอบหมาย
ในวิทยาเขต ให้มีคณะกรรมการประจําวิทยาเขตคณะหนึ่ง
องค์ประกอบ จํานวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ้นจากตําแหน่งของกรรมการประจําวิทยาเขต ตลอดจนการประชุมและการดําเนินงานของคณะกรรมการประจําวิทยาเขต และการจัดระบบบริหารงานภายในวิทยาเขต ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
คณะกรรมการประจําวิทยาเขตมีหน้าที่ ดังนี้
(๑) ให้คําปรึกษาแนะนําแก่อธิการบดีในกิจการต่างๆ ของวิทยาเขต
(๒) เสนอความเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับวิชาการของวิทยาเขตต่อคณะกรรมการวิชาการ
(๓) เสนอแผนพัฒนาและแผนงานของวิทยาเขตต่ออธิการบดี
(๔) เสนอแนะการรวม การจัดตั้ง และการยุบเลิกหน่วยงานภายในวิทยาเขตต่ออธิการบดี
(๕) ปฏิบตัิหน้าที่อื่นตามที่สภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีมอบหมาย
ในคณะหรือวิทยาลัย ให้มีคณบดีคนหนึ่งซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการบริหารงานของคณะหรือวิทยาลัย และจะให้มีรองคณบดีตามจํานวนที่สภามหาวิทยาลัยกําหนดเพื่อทําหน้าที่และรับผิดชอบตามที่คณบดีมอบหมายก็ได้
คณบดีมีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะดํารงตําแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้ เมื่อคณบดีพ้นจากตําแหน่งให้รองคณบดีพ้นจากตําแหน่งด้วย
คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้ง และถอดถอนคณบดีและรองคณบดี ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
ในสถาบัน สํานัก หรือส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก ให้มีผู้อํานวยการคนหนึ่งซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการบริหารงานของสถาบัน สํานัก หรือส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก แล้วแต่กรณี และจะให้มีรองผู้อํานวยการตามจํานวนที่สภามหาวิทยาลัยกําหนด เพื่อทําหน้าที่และรับผิดชอบตามที่ผู้อํานวยการมอบหมายก็ได้
ผู้อํานวยการมีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้แต่จะดํารงตําแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้ เมื่อผู้อํานวยการพ้นจากตําแหน่งให้รองผู้อํานวยการพ้นจากตําแหน่งด้วย
คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้ง และถอดถอนผู้อํานวยการและรองผู้อํานวยการให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
ผู้ดํารงตําแหน่งอธิการบดี รองอธิการบดี คณบดี ผู้อํานวยการ หัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก จะดํารงตําแหน่งดังกล่าวเกินหนึ่งตําแหน่งในขณะเดียวกันมิได้
ผู้ดํารงตําแหน่งตามวรรคหนึ่งจะรักษาการแทนตําแหน่งดังกล่าวได้อีกเพียงหนึ่งตําแหน่งแต่ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
การจัดระบบบริหารงานในคณะ วิทยาลัย สถาบัน สํานัก หรือส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานในคณะ วิทยาลัย สถาบัน สํานัก หรือส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานัก อธิการบดีจะมอบอํานาจให้ผู้ดํารงตําแหน่งคณบดี ผู้อํานวยการ หรือหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ วิทยาลัย สถาบัน หรือสํานักปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีเฉพาะในส่วนงานนั้นก็ได้
ให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนตามวรรคสอง มีอํานาจหน้าที่ตามที่อธิการบดีกําหนด
นอกจากที่บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้ การรักษาการแทน การมอบอํานาจให้ปฏิบัติหน้าที่แทน ตลอดจนการมอบอํานาจช่วงให้ปฏิบัติหน้าที่แทนของผู้ดํารงตําแหน่งต่างๆ ในมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คําสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งหรือกําหนด ให้ผู้ดํารงตําแหน่งใดเป็นกรรมการ อนุกรรมการ หรือให้มีอํานาจหน้าที่ใดให้ผู้รักษาการแทนทําหน้าที่กรรมการอนุกรรมการ หรือมีอํานาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ดํารงตําแหน่งนั้นในระหว่างรักษาการแทน
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"