พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด) (2502)/บทที่ 1
ศุภมัศดุ ศักราช ๗๑๒ ปีขาลโทศก วันศุกร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๕ เพลา ๓ นาฬิกา ๙ บาท สถาปนากรุงพระนครศรีอยุธยา[1] ชีพ่อพราหมณ์ให้ฤกษ์ตั้งพิธีกลบบาต ได้สังข์ทักขิณาวรรตใต้ต้นหมันใบหนึ่ง แล้วสร้างพระที่นั่งไพฑูริย์มหาปราสาทองค์หนึ่ง สร้างพระที่นั่งไพรชน[2] มหาปราสาทองค์หนึ่ง สร้างพระที่นั่งไอศวรรย์มหาปราสาทองค์หนึ่งแล้ว
พระเจ้าอู่ทองเสด็จเข้ามาเสวยราชสมบัติ[3] ชีพ่อพราหมณ์ถวายพระนามชื่อสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุนทรบรมบพิตรพระพุทธิเจ้าอยู่หัวกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยามหาดิลกภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ จึงให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราเมศวรขึ้นไปครองราชสมบัติในเมืองลพบุรี
ครั้งนั้นพระยาประเทศราชขึ้น ๑๖ เมือง คือ เมืองมะละกา เมืองชวา เมืองตะนาวศรี เมืองนครศรีธรรมราช เมืองทวาย เมืองเมาะตะมะ เมืองเมาะลำเลิง เมืองสงขลา เมืองจันตะบูร เมืองพิษณุโลก เมืองสุโขไทย เมืองพิชัย เมืองสวรรคโลก เมืองพิจิตร เมืองกำแพงเพชร เมืองนครสวรรค์
แล้วให้ขึ้นไปเชิญสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราเมศวรลงมาแต่เมืองลพบุรี ทรงพระกรุณาตรัสว่า ขอมแปรพักตร จะให้ออกไปกระทำเสีย พระราเมศวรได้ฤกษ์ยกพลห้าพันไปเถิงกรุงกัมพูชาธิบดีเพลาพลบค่ำ พระยาอุปราชบุตรพระเจ้ากัมพูชาธิบดีทูลว่า ทัพซึ่งยกมายังเลื่อยล้าอยู่ ยังมิได้พร้อมมูล จะขอออกโจมทัพ พระเจ้ากัมพูชาธิบดีเห็นด้วย พระยาอุปราชก็ออกโจมจับ[4] ทัพหน้ายังไม่ทันตั้งค่ายก็แตกฉานมาปะทะทัพหลวง เสียพระศรีสวัสดิ์แก่ชาวกัมพูชาธิบดี มีข่าวเข้ามาเถิงพระนคร มีพระราชโองการให้ขุนตำรวจออกไปอัญเชิญสมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าผู้เป็นพระเชษฐาอยู่ ณ เมืองสุพรรณบุรี ครั้นเสด็จเข้ามาถึงพระนครแล้ว พระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า ให้อัญเชิญท่านออกไปช่วยหลานท่าน สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้าจึงยกทัพรีบออกไปถึงกรุงกัมพูชาธิบดี ได้รบเอาชัยชำนะได้ ให้กวาดข้าวถ่ายครัว[5] ชาวกรุงกัมพูชาธิบดีเข้าพระนครเป็นอันมาก
ศักราชได้ ๗๑๕ ปีมะเส็งเบญจศก วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๔ เพลาสองนาฬิกา ๕ บาท ทรงพระกรุณาตรัสว่า ที่พระตำหนักเวียงเหล็กนั้นให้สถาปนาพระวิหารแลพระมหาธาตุเป็นพระอาราม แล้วให้นามชื่อ วัดพุทไธศวรรย์ ม้าขุนสุวรรณพินิจจัยตกลูกศีรษะเดียว ตัวเป็นสองตัวแปดเท้า เดินชิงศีรษะกัน ไก่พระศรีมโหสถฟักฟองตกลูกตัวเดียวสองศีรษะ
ศักราช ๗๒๕ ปีเถาะเบญจศก ทรงพระกรุณาตรัสว่า เจ้าแก้วเจ้าไทออกอหิวาตกโรคตาย ให้ขุดขึ้นเผาเสีย ที่ปลงศพนั้นให้สถาปนาพระเจดีย์แลวิหารเป็นพระอาราม แล้วให้นามชื่อว่าวัดป่าแก้ว
ศักราช ๗๓๑ ปีระกาเอกศก สมเด็จพระรามาธิบดีเสด็จสวรรคต อยู่ในราชสมบัติ ๒๐ ปี
- ↑ ฉบับกรมตำราว่า กรุงเทพพระมหานคร
- ↑ ฉบับพระราชหัตถเลขา, ฉบับพันจันทนุมาศ, ฉบับกรมตำรา ว่า พระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาท
- ↑ ฉบับพระราชหัตถเลขามีข้อความละเอียดออกไป เช่น กล่าวว่า พระชนม์ได้ ๓๗ พระพรราา แล้วโปรดให้ขุนหลวงพงั่วซึ่งเป็นพี่พระมเหสีไปครองราชสมบัติ ณ เมืองสุพรรณบุรี
- ↑ ฉบับพันจันทนุมาศว่า “ก็ออกโจมทัพ…”
- ↑ ฉบับพันจันทนุมาศว่า “ให้กวาดเอาครัว…” และฉบับพระราชหัตถเลขาว่า “ให้กวาดครัว…”