ลักษณอาญาจีนสมัยเก่า/รูปที่ 21
โทษนี้เปนโทษลึกหนักมากที่สุด การตัดสีสะจึงใช้ทำแก่นักโทษซึ่งมีโทษสูงที่สุด เช่น คิดขบถ⟨,⟩ ฆ่าคนตาย, ประหารบิดามารดา, ประทุษร้ายต่อพระเจ้าแผ่นดิน หรือเจตนาจะฆ่าเจ้าองค์หนึ่งองค์ใด หรือทำความผิดอันใหญ่หลวงแลแปลกปลาดต่าง ๆ เปนต้น
นักโทษต้องคุกเข่าอยู่บนพื้นดิน นายเพชฌฆาฏปลดป้ายบอกโทษจากหลังดังเราเห็นชั้นในรูปนี้แล้ว ก็ประหารฅอด้วยดาบซึ่งถือสองมือ ฟันทีเดียวให้ฅอขาดโดยฝีมือแม่นยำชำนาญของเพชฌฆาฏนั้น นายเพชฌฆาฏนี้เลือกมาจากกองทหารตามธรรมเนียมโบราณตั้งแต่ครั้งรบพุ่งกันโดยมากสืบต่อมา แลนายเพ็ชฆาฏมิได้มีความเสื่อมในการนับถือกันเหมือนอย่างประเทศอื่น ๆ
การตัดสีสะ ฝ่ายจีนคิดกันว่า เปนการเสื่อมเสียร้ายแรงอย่างอุกฤษฐ์ โดยเหตุว่า สีสะซึ่งเปนสิ่งประเสริฐ เมื่อตัดเสียแล้ว มิอาจจะฝังได้ให้ครบสังขารเหมือนเมื่อกำเนิดมา การตัดสีสะต้องได้รับโทษตลอดข้าราชการอันสูงจนถึงไพร่ต่ำช้าทั่วหน้ากันสิ้น เมื่อสีสะขาดออกแล้ว มักจะแขวนประจานกันไว้ที่ต้นไม้ กายตัวนั้นทิ้งลงในหลุมหรือท้องร่อง กฎหมายห้ามไม่ให้ฝังตามอย่างธรรมเนียม เว้นแต่ขอพระบรมราชานุญาตได้ ฝังได้ ดังเช่นเราเคยอ่านในพงษาวดารจีนนั้น
เมื่อขอพระบรมราชานุญาตให้ประหารชีวิตนักโทษนั้น ถ้าเปนโทษร้ายกาจอย่างเอก ก็ทรงอนุญาตให้ประหารทันที แต่ถ้าไม่เปนการสำคัญนัก ก็ทรงอนุญาตให้ขังนักโทษไว้จนถึงฤดูใบไม้ร่วงก่อนฤดูหนาว แลกะกำหนดวันไว้ด้วย
พระเจ้าฮองเต้ ก่อนจะทรงอนุญาตให้ประหารผู้ใด ก็ทรงปฤกษาผู้พิพากษาเสียก่อนว่า ถ้าจะไม่ทำโทษถึงตาย จะเสียธรรมเนียมไปหรือเปล่า ถ้าไม่เสีย ก็ทรงลดหย่อนโทษ ถ้าเปนการจำเปน จึงต้องให้ประหาร พระองค์ต้องทรงถือศีลกินแจก่อนเซ็นใบพระราชานุญาต แลถ้าปีใดไม่ใคร่มีนักโทษถึงตายมาก ปีนั้นพระองค์นับว่า เปนปีประเสริฐยิ่งของรัชกาล