ศุภอักษรเมืองน่าน ลงวันแรม 13 ค่ำ เดือนยี่ จ.ศ. 1249

ศุภอักษรนครเมืองน่าน
  • เขียนที่นครเมืองน่าน
  • ณวัน ๔ เดือน ๒ แรม ๑๓ ค่ำ ปีกุน นพศก ๑๒๔๙

ศุภอักษรข้าพพระพุทธเจ้า เจ้าอนันตวรฤทธิเดช ๑ เจ้านครเมืองน่าน เจ้าสุริยวงษ เจ้านายบุตรหลานพระยาแสนท้าวนครเมืองน่าน ปฎิบัติมายัง พณฯ อรรคมหาเสนาธิบดินทร์ นรินทรามาตย์ ผู้ภักดีบำเรอพระบาท ได้ทราบ

ขอได้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาแดพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ด้วยณวัน ๗ เดือน ๑๒ แรม ๙ ค่ำ ปีกุน นพศก ๑๒๔๙ เวลาเช้า เจ้าอุปราชนครเมืองน่านเกิดโรคประจุบัน เนื้อตัวเยนกระด้าง พูดไม่ได้ รับประทานน้ำยาก็ไม่ได้วันหนึ่ง

ครั้นถึงเวลาย่ำรุ่ง เจ้าอุปราชถึงแก่อนิจกรรม ข้าพระพุทธเจ้าได้พร้อมกับพระยาพิไชยชาญฤทธิ ข้าหลวง เจ้านายบุตรหลานท้าวพระยานครเมืองน่าน ได้เอาศพเจ้าอุปราชใส่หีบไว้ตามอย่างธรรมเนียมมาแต่ก่อนแล้ว กราบเรียนปฎิบัติมาได้ทราบ

ประทับตรารูปพระยานาคมาเปนสำคัญ

บรรณานุกรม

แก้ไข
 

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก