ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร/เอกสาร 11

รายงานข้อราชการเมืองอุดงมีไชย
สมเด็จฟ้าทะละหะวิวาทกับพระยายมราช พระยากลาโหม

จดหมายข้อราชการเมืองอุดงมีไชย ทุกวันนี้ พระยาพระเขมรและราษฏรสะดุ้งสะเทือนหนัก กลัวญวนจะยกกองทัพมากระทำแก่เมืองเขมร เขมรจะเกณฑ์ไพร่พลออกสู้รบกับญวน ก็จะกะเกณฑ์ไม่ได้ ทั้งเสบียงอาหารแลเครื่องศัสตราวุธก็ไม่มี บัดนี้ เขมรคิดใช้แต่ปัญญาให้กิตติศัพท์เลื่องลือไปถึงเมืองญวนว่า เมืองเขมรได้กะเกณฑ์ไพร่พลเมืองถึงหกหมื่นเจ็ดหมื่น ตั้งค่ายแต่ท่ากระพงหลวงตลอดลงไปจนถึงบันเลจโคนเปนต่อแดนกับเมืองญวน ฝ่ายที่เมืองตรัง เมืองบาพนม ซึ่งเป็นเขตแดนติดต่อกับเมืองญวนนั้น ก็จัดให้พระยาพระเขมรออกไปคิดตั้งค่ายรักษากั้นเขตแดนไว้ แต่เมืองขัดอยู่สามสี่อย่าง ด้วยเสบียงอาหารแลเครื่องศัสคราวุธก็ไม่มี ทั้งจะกะเกณฑ์ไพร่พลก็ไม่ได้ แลใจพระยาพระเขมรก็ไม่พร้อมเพรียงกัน ตั้งค่ายแห่งหนึ่งกำหนดว่า ให้มีคนพันหนึ่งสองพันอยู่รักษาค่ายนั้น ก็มีแต่บัญชีมูลนาย จะกะเกณฑ์ไพร่พลไปตั้งรักษาค่ายนั้นได้แห่งละสองร้อยบ้างสามร้อยบ้าง อยู่ได้เดือนหนึ่งครึ่งเดือนก็ระส่ำระสายไปด้วยขัดเสบียงอาหาร อ้ายตวนลี[1] อ้ายตวนซู ซึ่งหนีไปพึ่งกับญวนนั้น ก็รู้ราชการในเมืองอุดงมีไชยจนเสร็จสิ้น อ้ายตวนลี อ้ายตวนซู จึงได้กำเริบใจ พากันขึ้นมาเจ็ดคนแปดคน ตีชิงเอาครอบครัวที่หน้ากระพงหลวงหน้าเมืองอุดงมีไชยกวาดลงไปเมืองโจดก ทุกวันนี้ เมืองญวนมีใจประมาทเมืองเขมรว่า คิดจะยกมากระทำเมื่อใดก็ได้ แต่ญวนกลัวกองทัพกรุงเทพฯ พระมหานคร จะยกไปช่วยเมืองเขมร ญวนจึ่งใช้อุบายให้แต่อ้ายตวนลี อ้ายตวนซู ขึ้นมากระทำแก่เมืองเขมรทีละเล็กละน้อย ทุกวันนี้ ขุนนางในเมืองอุดงมีไชยที่รับราชการใช้สอยได้นั้น ก็มีแต่สมเด็จเจ้าฟ้าทะละหะ ชื่อ เมียต หนึ่ง พระยายมราช ชื่อ มัก หนึ่ง พระยาวัง ชื่อ พรม หนึ่ง พระยากลาโหม ชื่อ แก้ว หนึ่ง พระยายมราช พระยากลาโหม แก่งแย่งวิวาทกับสมเด็จเจ้าฟ้าทะละหะ องค์พระหริรักษ์ให้ถอดพระยายมราชกับพระยากลาโหมเสียจากที่ และเมื่อ ณ วันศุกร เดือนสิบ แรมสิบสี่ค่ำ ปีวอก โทศก สมเด็จเจ้าฟ้าทะละหะมีหนังสือให้หลวงชำนิจเสนาถือมายังพระยาอภัยภูเบศ ณ เมืองพระตะบอง ใจความว่า องค์พระหริรักษารามมหาอิศราธิบดีป่วยเป็นโรคริดสีดวงงอกแตกที่ทวาร ได้หาหมอมารักษา อาการก็ยังทรุดหนักไป สืบได้ความว่า พระยารัตนวิเศษประเทศธานี เจ้าเมืองสวายจิก รู้ยาริดสีดวง เคยรักษาคนหายมาหลายคนแล้ว จึงขอตัวพระยารัตนวิเศษไปช่วยประกอบยาให้ ข้าพระพุทธเจ้า และพระยาณรงค์ ปลัด พระคทาธรธรณินทร์ ผู้ช่วย ปรึกษาพร้อมกันเห็นว่า พระยารัตนวิเศษเป็นคนว่างอยู่ จึงจัดให้ออกไป แล้วให้สืบฟังข่าวราชการเมืองเขมรด้วย และพระคทาธรธรณินทร์ได้ไต่ถามหลวงชำนิจเสนา ผู้ถือหนังสือ ด้วยอาการองค์พระหริรักษ หลวงชำนิจเสนาแจ้งความกับพระยาคทาธรธรณินทร์ว่า อาการองค์พระหริรักษนั้นว่า เป็นโรคริดสีดวงงอกแตกที่ทวาร ที่ปากก็เปื่อย รับพระราชทานอาหารก็ไม่สู้ได้ เนื้อตัวก็ให้เมื่อย จะลุกจะนั่งก็ไม่ได้ อาการก็เห็นจะยืดยาวต่อไป จดหมายมา ณ วันที่ ๑๐ ฯ  ๑๑ ปีวอกนักษัตร โท[2]

เลขที่ ๒๓
ร. ๔ จ.ศ. ๑๒๒๒

  1. เป็นแขกจาม ที่สมเด็จประเทศ
  2. ตรงกับวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๐๓