พระราชบัญญัติภาษีฝิ่น

ด้วยเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ สมันตพงษ์พิสุทธิ์ มหาบุรุศย์รัตนโรดม ซึ่งสำเร็จราชการแผ่นดินณกรุงเทพมหานคร   กราบบังโคมทูลพระกรุณาแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์เกล้าเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณธรรมอันมหาประเสริฐว่า ภาษีฝิ่นได้ตั้งมาช้านาน เปนผลประโยชน์แก่กรุงเทพมหานครเปนอันมาก ตั้งแตปีหนึ่งสองปี ฝิ่นเถื่อนเข้ามาในพระราชอาณาเฃตรชุกชุมมากขึ้น เจ้าภาษีจำหน่ายฝิ่นน้อยลงขาดทุน ผลประโยชน์เสียไป เจ้าภาษีจึ่งต้องฃอคืนภาษี แลไม่มีผู้อื่นที่จะกล้ารับ การเปนดังนี้ ได้ปฤกษาท่านอรรคมหาเสนาธิบดีแลท่านเสนาบดีเหนพร้อมกัน ต้องให้เจ้าพนักงานรับทำภาษีฝิ่นตั้งแต่ณวันอังคาร ขึ้นค่ำหนึ่ง เดือนห้า ปีมแม ยังเปนโทศก ฃอตั้งกฎหมายสำหรับภาษีฝิ่นว่าด้วยการเกี่ยวข้องแก่ลูกค้าไทยจีนซึ่งตั้งตึกโรงร้านแลแต่งเรือค้าขายอยู่ณกรุงเทพมหานครอย่างหนึ่ง ว่าด้วยการเกี่ยวข้องแก่คนอยู่ในบังคับกงสุลต่างประเทศอย่างหนึ่ง ว่าด้วยการเกี่ยวข้องแก่ลูกค้าต่าง ๆ ซึ่งมาค้าขายทางบกหัวเมืองฝ่ายเหนืออย่างหนึ่ง ว่าด้วยการเกี่ยวข้องแก่ลูกค้าต่าง ๆ ซึ่งมาค้าขายทางเรือณหัวเมืองฝ่ายไต้ฝ่ายทเลตวันตกอย่างหนึ่ง ตามกระบินเมือง รวมเปนสี่อย่าง สำหรับเจ้าพนักงานแลเจ้าภาษีจะได้บังคับตัดสินผู้ลอบลักขายฝิ่นเถื่อนสืบไป จึ่งมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมให้ตั้งกฎหมายสำหรับภาษีฝิ่นตามซึ่งท่านเสนาบดีปฤกษาเหนพร้อมกัน

กฎหมายภาษีฝิ่น ว่าด้วยการเกี่ยวข้องแก่ลูกค้าไทยจีนในกรุงเทพมหานคร ๖ ข้อ

ข้อว่า เจ้าภาษีคนเก่าถ ถึงวันกำหนดออกจากภาษี มอบฝิ่นให้เจ้าพนักงานผู้ซึ่งถือกฎหมายนี้แล้ว ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดมีฝิ่นมากน้อยเท่าใด ให้ทำบาญชีตามสัตย์ตามจริงว่า ฝิ่นของตัวแลของผู้อื่นฝากให้รู้แต่ใน ๑๕ วัน ถ้าเจ้าพนักงานจะตรวจฝิ่น ให้ตรวจตั้งแต่เวลาโมงเช้าจนเวลาห้าโมงเยน เจ้าของฝิ่นต้องยอมให้ตรวจ ถ้าเจ้าพนักงานตรวจได้ฝิ่นมากเกินกว่าที่เจ้าของฝิ่นยื่นบาญชีนั้น ให้ริบเอาฝิ่นที่เกิน แล้วให้ปรับไหมผู้นั้นตั้งแต่ ๔๐๐ บาทลงมา ถ้าพ้น ๑๕ วันออกไป ไม่ทำบาญชีฝิ่นมายื่นต่อเจ้าพนักงาน ปิดบังเอาฝิ่นไว้ เจ้าพนักงานจับได้ ให้ริบเอาฝิ่นแลปรับไหมตั้งแต่ ๑๐๐๐ บาทลงมา

ข้อว่า ผู้ซึ่งมีไลเซน คือ ตั๋วเจ้าพนักงานอนุญาตให้ขายฝิ่น ถ้าขายฝิ่นให้กับผู้ใด ผู้ขายต้องทำหนังสือให้กับผู้ซื้อ ถ้าเจ้าพนักงานจะไปตรวจฝิ่นที่ผู้รับไลเซนขายฝิ่นนั้น ต้องยอมให้ตรวจทุกครั้ง ถ้าไมยอมให้ตรวจ ให้เจ้าพนักงานปรับไหมตั้งแต่ ๑๐๐๐ บาทลงมา ถ้าผู้รับไลเซนขายฝิ่นได้มาก บอกว่าขายได้น้อย เจ้าพนักงานจับได้ ให้ปรับตั้งแต่ ๕๐ บาทลงมา

ข้อว่า ถ้าเรือผู้ใดบันทุกฝิ่นเข้ามาทางปากน้ำเจ้าพระยา ฤๅมีฝิ่นสำหรับลูกเรือใช้ถึงด่านเมืองสมุทปราการ ให้บอกผู้ว่าราชการแลเจ้าพนักงานที่เมืองสมุทปราการว่ามีฝิ่นมากน้อยเท่าใด ยี่ห้ออย่างไร เจ้าของแลเรือชื่อไร ผู้ว่าราชการเจ้าพนักงานที่เมืองสมุทปราการจดหมายไว้แล้ว จะได้ให้ไปรับเอาฝิ่นมารักษาไว้กว่าเจ้าพนักงานในกรุงเทพมหานครจะซื้อ แต่ราคาฝิ่นนั้นตามแต่จะว่ากัน ถ้าเจ้าพนักงานในกรุงไม่ซื้อ จะเอาฝิ่นกลับออกไป ต้องฃอหนังสือเจ้าพนักงานสำหรับลำ จึ่งจะออดไปได้ ถ้าได้หนังสือสำหรับลำกำหนดจะใช้จักรใช้ใบแล้ว มีธุระเหตุการ เรือยังไม่ได้ใช้จักรใช้ใบออกไป ฝิ่นนั้นต้องมอบเจ้าพนักงานที่เมืองสมุทปราการ ถ้าไม่ได้เอาฝิ่นมอบเจ้าพนักงาน แลไม่มีสนังสือเจ้าพนักงานสำหรับลำ ก็ให้ปรับไหมผู้นั้นตั้งแต่ ๘๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ผู้ใดไม่ทำตามกฎหมายนี้ ขืนลักลอบซื้อขายฝิ่นเถื่อน เจ้าพนักงานจะแต่งคนออกสอดแนมซื้อฝิ่นเถื่อนสามคน ถ้าได้เนื้อฝิ่นมาคนละตำลึงขึ้นไปทั้งสามคนแล้ว ให้เจ้าพนักงานส่งผู้ซื้อฝิ่นสามคนนั้นมาให้ตระลาการไล่เลียงไถ่ถาม ให้สาบาลตัวโดยสัจโดยธรรม แล้วจึ่งให้ตระลาการเกาะตัวผู้ขายฝิ่นมาชำระแลปรับไหมทำโทษตามกฎหมายภาษีฝิ่นตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทลงมา

ข้อว่า ถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใดมารับสินบนนำจับผู้ลักลอบซื้อลอบขายฝิ่นเถื่อนณวังเจ้าตั้งกรมแล้ว วังเจ้าไม่ได้ตั้งกรม ฤๅตึกเรือนโรงเรือแลแพต่างเลื่อนเกวียนณตำบลใด ๆ ให้เจ้าพนักงานบอกแก่เจ้ากรมกองตระเวนซ้ายกองตระเวนขวาฃอนายอำเภอกำนันไปกำกับจับจงทุกราย ถ้าจับได้แล้ว ให้ปรับไหมตามกฎหมายภาษีฝิ่นตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ถ้ามีผู้รับสินบนนำเจ้าพนักงานแลกำนันนายอำเภอไปจับได้ฝิ่นดิบฝิ่นสุก เจ้าของฝิ่นจะต่อสู้ว่าผู้นำจับแลพวกเจ้าพนักงานเอาฝิ่นไปใส่ไว้แล้วพาโลจับ ก็ให้ตระลาการชำระสืบพยานรางวัดบ้านเรือนใกล้เคียง ถ้าพยานสาบาลเบิกความว่า ผู้ต้องจับเปนคนซื้อคนขายคนสูบฝิ่นอยู่ ก็ให้ปรับไหมผู้ต้องจับตั้งแต่ ๑๐๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย ถ้าพยานเบิกความว่า ผู้ต้องจับเปนคนดี ไม่ได้ซื้อฝิ่น ไม่ได้ขายฝิ่น ไมได้สูบฝิ่น ก็ให้ปรับไหมผู้นำจับตามกฎหมายตั้งแต่ ๑๐๐๐ บาทลงมาให้แก่ผู้ต้องจับ

กฎหมายภาษีฝิ่น ว่าด้วยการเกี่ยวข้องในบังคับกงสุลต่างประเทศ ๑๒ ข้อ

ข้อถ้าผู้ใดจะบันทุกฝิ่นก้อนฝิ่นสุกมาในแผ่นดินสยามนั้น ให้บันทุกเข้ามาทางปากน้ำเจ้าพระยา ให้ยื่นบาญชีจงเลอียดต่อเจ้าพนักงานด่านก่อน แล้วให้ฃอหนังสือสำหรับเรือที่บันทุกฝิ่น จึ่งเข้ามาได้ ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดบันทุกฝิ่นเข้ามาผิดต่อกฎหมายนี้ ให้ปรับไหมไม่ให้เกิน ๘๐๐ บาท ให้ริบเอาฝิ่นเสีย แต่เรือใหญ่เรือเล็กที่บันทุกฝิ่นนั้น ถ้าชำระเหนว่าได้มีความผิดจริง ๆ ที่สุด ก็จะริบเอาเรือใหญ่เรือเล็กได้ ถ้าบันทุกฝิ่นมาทางอื่นนอกจากปากน้ำเจ้าพระยา จับได้ ต้องปรับไหมไม่ให้เกิน ๘๐๐ บาท ให้ริบเอาฝิ่นเสีย แต่เรือใหญ่เรือเล็กที่บันทุกฝิ่นนั้น ถ้าชำระเหนว่าได้มีความผิดจริง ๆ ที่สุด ก็ริบเรือใหญ่เรือเล็กได้

ข้อถ้าผู้ใดเข้าหุ้นส่วนกับคนที่บันทุกฝิ่นดิบฝิ่นสุกใส่เรือเข้ามาในแผ่นดินสยาม แลเข้าหุ้นส่วนกับผู้ขายฝิ่นเถื่อน เจ้าพนักงานชำระได้ความจริง ให้ปรับผู้เข้าส่วนหุ้นส่วนตามซึ่งจับฝิ่นได้มากแลน้อย ครั้งแรกไม่ให้เกิน ๒๐๐๐ บาท ถ้าขืนกระทำเข้าหุ้นส่วนจับได้ครั้งหลังอีก ให้ปรับไหมไม่ให้เกิน ๑๐๐๐๐ บาท

ข้อว่า ถ้าผู้ใดบันทุกฝิ่นเข้ามาในแผ่นดินสยามตามกฎหมายข้อ ๑ เจ้าของฝิ่นยื่นบาญชีจำนวนฝิ่นต่อผู้ว่าราชการเมืองสมุทปราการฤๅมาบอกด่านณกรุงเทพฯ เจ้าพนักงานลงไปตรวจฝิ่นไม่ครบตามบาญชีที่ยื่นฤๅฝิ่นหายไปมากน้อยเท่าใด ก็ให้ปรับไหมเอาแก่เจ้าของฝิ่นแลผู้ยื่นบาญชีเต็มตามบาญชีที่ยื่น ไม่ให้เกินหีบละ ๑๐๐๐ บาท

ข้อว่า ถ้าผู้ใดเอาฝิ่นบันทุกเรือเข้ามาทางปากน้ำเจ้าพระยา ฤๅมีฝิ่นสำหรับลูกเรือใช้ ถึงด่านเมืองสมุทปราการ ให้บอกผู้ว่าราชการแลเจ้าพนักงานเมืองสมุทปราการว่า มีฝิ่นมากน้อยเท่าใด ยี่ห้ออย่างไร เจ้าของแลเรือชื่อไร ผู้ว่าราชการเจ้าพนักงานที่เมืองสมุทปราการจดหมายไว้แล้วจะได้ให้ไปรับเอาฝิ่นมารักษาไว้กว่าเจ้าพนักงานในกรุงจะซื้อ แต่ราคาฝิ่นนั้นตามแต่จะว่ากัน ถ้าเจ้าพนักงานในกรุงไม่ซื้อ จะเอาฝิ่นกลับออกไป ต้องฃอหนังสื้อเจ้าพนักงานสำหรับลำ จึ่งจะเอาออกไปได้ ถ้าได้หนังสือสำหรับลำ กำหนดจะใช้จักใช้ใบแล้ว มีธุระเหตุการ เรือยังไม่ได้ใช้จักรใช้บออกไป ฝิ่นนั้นต้องมอบเจาพนักงานที่เมืองสมุทปราการ ถ้าไม่ได้เอาฝิ่นมอบเจ้าพนักงาน แลไมมีหนังสือเจ้าพนักงานสำหรับลำ ก็ให้ปรับไหมไม่ให้เกิน ๘๐๐ บาท ให้ริบเอาฝิ่นไว้

ข้อว่า ถ้าผู้ใดบันทุกฝิ่นเข้ามาถึงด่านเมืองสมุทปราการ ทอดสมอลงแล้ว มีเวลากึ่งโมงหนึ่ง ไม่บอกเจ้าพนักงงาน ๆ ตรวจพบฝิ่นในลำเรือ ให้ปรับไหมไม่ให้เกิน ๔๐๐ บาท แล้วให้ริบเอาฝิ่นไว้

ข้อว่า ผู้ใดจะบันทุกฝิ่นออกไปฃอหนังสือเจ้าพนักงานได้แล้วไม่ได้บันทุกฝิ่นออกไป ก็ต้องเอาฝิ่นนั้นกลับคืนให้เจ้าพนักงานในทันใด ถ้าไม่ทำตามข้อนี้ ต้องปรับไหมไม่ให้เกิน ๘๐๐๐ บาท แล้วให้ริบเอาฝิ่นไว้ ถ้าเจ้าพนักงานฤๅนายเรือรบแลคนที่ด่านเมืองสมุทปราการสืบรู้ว่าเรือลำหนึ่งลำใดบันทุกฝิ่นออกไปมากกว่าหนังสือที่เจ้าพนักงานให้ไป เจ้าพนักงานฤๅคนที่ด่านจะขึ้นค้นดู กับตันจุ้นจูนายเรือต้องยอมให้ค้น ถ้าเรืออยู่นอกปากน้ำออกไป นายเรือรบฤๅออฟิซเซอจะขึ้นไปตรวจก็ได้ กับตันจุ้นจูนายเรือต้องยอมให้ตรวจ ถ้าคนได้ฝิ่นมากกว่านังสือเจ้าพนักงานมีออกไปนั้น ให้ริบเอาฝิ่นนอกจากหนังสือไว้ ให้ปรับไหมไม่ให้เกิน ๔๐๐ บาท ให้เอาตัวผู้ซึ่งทำผิดนั้นมอบให้เจ้าพนักงานชำระ ถ้าควร จะยึดเรือไว้กว่าจะชำระความฝิ่นแล้วก็ได้

ข้อว่า ถ้าผู้ใดทำฝิ่นดิบทำฝิ่นสุกแลซื้อฝิ่นดิบฝิ่นสุกแก่ผู้หนึ่งผู้ใดที่ไม่มีไลเซนเจ้าพนักงาน ให้ปรับผู้ที่ซื้อขายไม่ให้เกิน ๒๐๐๐ บาท แลริบเอาฝิ่นไว้

ข้อว่า ผู้ซึ่งมีไลเซนขายฝิ่น ถ้าขายฝิ่นให้กับผู้ใด ผู้ขายต้องทำหนังสือให้กับผู้ซื้อ ถ้าเจ้าพนักงานจะไปตรวจฝิ่นที่ผู้รับไลเซนนั้น ต้องยอมให้ตรวจทุกครั้ง ถ้าไม่ยอมให้ตรวจ ให้เจ้าพนักงานปรับไหมไม่ให้เกิน ๑๐๐๐ บาท ถ้าผู้รับไลเซนขายฝิ่นได้มาก บอกว่าขายได้น้อย เจ้าพนักงานจับได้ ให้ประบไหมไม่ให้เกิน ๕๐ บาท

ข้อว่า ถ้าได้ความว่ามีผู้ใดลักฝิ่นเข้ามาในแผ่นดินสยาม ฤๅฝิ่นหายไปด้วยเหตุไม่สุจริตคิดยักย้ายฝิ่นนั้นหายไป สืบรู้จับได้ ให้ปรับไหมไม่ให้เกิน ๑๐๐๐ บาท ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดเกี่ยวข้องต้องที่ถามความที่ซื้อที่ขายฝิ่นเถื่อน ต้องให้การตามสัจตามจริง ถ้าสืบรู้ว่าเอาความเท็จไม่จริงมาให้การ ให้ปรัมไหมไม่ให้เกิน ๒๐๐๐ บาท

ข้อ๑๐ว่า เจ้าภาษีคนเก่า ถึงวันกำหนดออกจากภาษี มอบฝิ่นให้เจ้าพนักงานผู้ซึ่งถือกฎหมายนี้แล้ว ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดมีฝิ่นมากน้อยเท่าใด ให้ทำบาญชียื่นตามสัจตามจริงว่าฝิ่นของตัวแลของผู้อื่นฝากให้รู้แน่ใน ๑๕ วัน ถ้าเจ้าพนักงานจะตรวจฝิ่น ให้ตรวจตั้งแต่เวลาโมงเช้าจนเวลา ๕ โมงเยน เจ้าของฝิ่นต้องยอมให้ตรวจ ถ้าเจ้าพนักงานตรวจได้ฝิ่นมากเกินกว่าที่เจ้าของฝิ่นยื่นบาญชีนั้น ให้ริบเอาฝิ่นที่เกิน แล้วให้ปรับไหมไม่ให้เกิน ๔๐๐ บาท ถ้าพ้น ๑๕ วันออกไป ไม่ทำบาญชีฝิ่นมายื่นต่อเจ้าพนักงาน ปิดบังเอาฝิ่นไว้ เจ้าพนักงานจับได้ ให้ริบเอาฝิ่น แลปรับไหมไม่ให้เกิน ๑๐๐๐ บาท

ข้อ๑๑ว่า ผู้ซึ่งต้องปรับไหม ไม่มีเงินจะให้นั้น ให้กระทำโทษตามปรับไหมมากแลน้อย ถ้าต้องปรับไหม ๕๐ บาท ให้กระทำโทษจำไว้ณคุกตรางเดือนหนึ่ง ถ้าต้องปรับไหม ๔๐๐ บาทถึง ๑๐๐๐ บาท ให้กระทำโทษจำไว้ณคุกตราง ๖ เดือน ถ้าต้องปรับไหมตั้งแต่ ๑๔๐๐ บาทถึง ๒๐๐๐ บาท ให้กระทำโทษจำไว้ณคุกตรางปีหนึ่ง ถ้าต้องปรับไหมตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทขึ้นไป ให้กระทำโทษจำไว้ณคุกตราง ๒ ปี ถ้าเปนคนบังคับกงสุลต่างประเทศปรับไหมแล้ว จะฃอให้กงสุลไล่ออกจากแผ่นดินสยามก็ได้

ข้อ๑๒ว่า กฎหมายพระราชบัญญัตินี้ตีพิมพ์ประทับตราแผ่นดินแต่ณวันอังคาร ขึ้นค่ำหนึ่ง เดือน ๕ ปีมแม ยังเปนโทศก ตรงกับวันที่ ๒๑ เดือนมาช คฤสตศักราช ๑๘๗๑ ปี ใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ไปทั้งในกรุงเทพมหานครแลหัวเมืองทั่วพระราชอาณาเฃตรประเทศสยาม

กฎหมายภาษีฝิ่น ว่าด้วยการเกี่ยวข้องลูกค้าต่าง ๆ หัวเมืองฝ่ายเหนือฝ่ายตวันออก ๕ ข้อ

ข้อว่า ลูกค้าต่าง ๆ จะเอาฝิ่นดิบฝิ่นสุกเข้ามาทางบก มาถึงด่านบ้านเมืองใด ให้ลูกค้าซึ่งเอาฝิ่นเข้ามาบอกบาญชีจำนวนฝิ่นดิบฝิ่นสุกแก่นายด่านให้สิ้นจำนวนฝิ่น แล้วให้ขุนด่านกำกับฝิ่นเข้ามาส่งเจ้าภาษีเมืองนั้น ๆ ทุกคน ให้ลูกค้าขายฝิ่นดิบฝิ่นสุกให้แก่เจ้าภาษี ราคาตามแต่จะว่ากัน ถ้าเจ้าภาษีไม่ซื้อ ให้เอาฝิ่นกลับออกไปให้พ้นเฃตรแดน ไม่ต้องเสียอะไร แต่ต้องฃอหนังสือเจ้าภาษีฝิ่นสำหรับตัว จึ่งจะออกไปได้ ถ้าได้หนังสือสำหรับตัวกำหนดจะไปแล้ว มีธุระเหตการเกิดขึ้น ไปยังไม่ได้ ฝิ่นนั้นต้องมอบเจ้าภาษีเมืองนั้น ๆ ไว้ก่อน ถ้าเมื่อเอาฝิ่นเข้ามาไม่ได้บอกด่าน แลไม่ได้เอาฝิ่นมามอบเจ้าภาษี แลไม่มีหนังสือสำหรับตัว ก็ให้ปรับไหมตั้งแต่ ๘๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ถ้าผู้ใดเข้าหุ้นเข้าส่วนกับคนที่เอาฝิ่นดิบฝิ่นสุกเดินทางบกเข้ามาในแผ่นดินสยาม แลเข้าหุ้นเข้าส่วนกับผู้ขายฝิ่นเถื่อน เจ้าภาษีจับได้ ให้ปรับไหมผู้เข้าหุ้นเข้าส่วนตามซึ่งจับฝิ่นได้ตามมากแลน้อย ครั้งแรกให้ปรับไหมตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทลงมา ถ้าลูกค้าขืนกระทำเข้าหุ้นเข้าส่วนจับได้ครั้งหลังอีก ให้ปรับไหมตั้งแต่ ๑๐๐๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ลูกค้าซึ่งเอาฝิ่นดิบฝิ่นสุกเข้ามานั้น ถ้าลักลอบซื้อขายในเฃตรแดนบ้านเมือง เจ้าภาษีจับได้ ถ้าเปนคนในบังคับกงสุลต่างประเทส ให้เจ้าเมืองกรมการบอกส่งลงมาณกรุงเทพมหานคร ถ้าเปนคนประเทศซึ่งมิได้ทำหนังสือสัญญาต่อกรุงเทพมหานครนั้น ให้ปรับไหมตามกฎหมายภาษีฝิ่นตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดมารับสินบนนำจับผู้ลอบลักซื้อลักขายฝิ่นเถื่อนณบ้านเรือนเรือแพหาบต่างเลื่อนเกวียนณตำบลใด ๆ ให้เจ้าภาษีบอกแก่ผู้ว่าราชการเมืองกรมการฃอกรมการผู้ใหญ่แลกำนันไปกำกับจงทุกราย ถ้าจับได้แล้ว ให้ปรับไหมตามกฎหมายภาษีฝิ่นตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ถ้ารับสินบนนำเจ้าภาษีกรมการกำนันนายอำเภอไปจับได้ฝิ่นดิบฝิ่นสุก เจ้าของฝิ่นจะต่อสู้ว่า ผู้นำจับแลพวกเจ้าภาษีเอาฝิ่นไปใส่ไว้แล้วพาโลจับ ก็ให้ผู้ว่าราชการเมืองกรมการชำระสืบพยานรางวัดบ้านเรือนใกล้เคียง ถ้าพยานสาบาลเบิกความว่า ผู้ต้องจับเปนคนซื้อคนขายคนสูบฝิ่นอยู่ ก็ให้ปรับไหมผู้ต้องจับตั้งแต่ ๑๐๐๐ ลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย ถ้าพยานเบิกความว่า ผู้ต้องจับเปนคนดี ไม่ได้ขายไม่ได้สูบฝิ่น ก็ให้ปรับไหมผู้นำจับตามกฎหมายตั้งแต่ ๑๐๐๐ บาทลงมาให้แก่ผู้ต้องจับ

กฎหมายภาษีฝิ่น ว่าด้วยการเกี่ยวข้องแก่ลูกค้าต่าง ๆ หัวเมืองฝ่ายไต้ ๕ ข้อ ฝ่ายทะเลตวันตก ๕ ข้อ

ข้อว่า หัวเมืองฝ่ายไต้ หัวเมืองฝ่ายทะเลตวันตก มีปากน้ำออกทะเลเรือ ลูกค้าในบ้านเมืองฤๅเรือลูกค้าในบังคับกงสุลต่างประเทสก็ดี ถ้าจะบันทุกฝิ่นดิบฝิ่นสุกเข้ามาถึงด่าน ให้บอกจำนวนฝิ่นดิบฝิ่นสุกแก่นายด่านให้สิ้นเชิง แล้วให้นายด่านกำกับเรือที่บันทุกฝิ่นเข้าส่งแก่เจ้าภาษีจงทุกลำ ให้ลูกค้าขายฝิ่นดิบฝิ่นสุกให้แก่เจ้าภาษี ราคาตามแต่จะว่ากัน ถ้าเจ้าภาษีไม่ซื้อ ให้เอาฝิ่นกลับออกไปให้พ้นเฃตรแดนบ้านเมือง ไม่ต้องเสียอะไร แต่ต้องฃอหนังสือเจ้าภาษีฝิ่นสำหรับลำ จึ่งจะออกไปได้ ถ้าได้หนังสือสำหรับลำ กำหนดจะไปแล้ว มีธุระเหตุการเกิดขึ้น ไปยังไม่ได้ ฝิ่นนั้นต้องมอบเจ้าภาษีเมืองนั้น ๆ ไว้ก่อน ถ้าเมื่อเอาฝิ่นเข้ามา ไม่ได้บอกด่าน แลไม่ได้เอาฝิ่นมามอบเจ้าภาษี แลไม่มีหนังสือสำหรับลำ ก็ให้ปรับไหมตั้งแต่ ๘๐๐ ลงมา ให้ริบฝิ่นเสีย

ข้อว่า ถ้าผู้ใดเข้าหุ้นส่วนกับคนที่เอาฝิ่นดิบฝิ่นสุกบันทุกเรือเข้ามาในแผ่นดินสยาม แลเข้าหุ้นเข้าส่วนกับผู้ขายฝิ่นเถื่อน เจ้าภาษีจับได้ ให้ปรับไหมผู้เข้าหุ้นส่วนตามซึ่งจับได้ตามมากแลน้อย ครั้งแรกให้ปรับไหมตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทลงมา ถ้าลูกค้าขืนกระทำเข้าหุ้นส่วน จับได้ครั้งหลังอีก ให้ปรับไหมตั้งแต่ ๑๐๐๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ลูกค้าซึ่งเอาฝิ่นดิบฝิ่นสุกเข้ามานั้น ถ้าลักลอบซื้อขายในเฃตรแดนบ้านเมือง เจ้าภาษีจับได้ ถ้าเปนคนในบังคับกงสุลต่างประเทศ ก็ให้มอบตัวเจ้าของฝิ่นแลฝิ่นที่จับได้ให้เจ้าเมืองกรมการบอกส่งเข้ามาณกรุงเทพมหานคร ถ้าเปนคนประเทศซึ่งมิได้ทำหนังสืสัญญาต่อกรุงเทพมหานคร ให้ปรับไหมตามกฎหมายภาษีฝิ่นตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ถ้ามีผู้ใดมารับสินบนนำจับผู้ลอบลักซื้อลักขายฝิ่นเถื่อนณบ้านเรือนเรือแพตำบลใด ๆ ให้เจ้าภาษีบอกแก่ผู้ว่าราชการกรมการฃอกรมการผู้ใหญ่แลกำนันไปกำกับจับจงทุกราย ถ้าจับได้แล้ว ให้ปรับไหมตามกฎหมายภาษีฝิ่นตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาท ให้ริบเอาฝิ่นเสีย

ข้อว่า ถ้ามีผู้รับสินบนนำเจ้าภาษีกรมการกำนันนายอำเภอไปจับได้ฝิ่นดิบฝิ่นสุก เจ้าของฝิ่นจะต่อสู้ว่า ผู้นำจับแลพวกเจ้าภษีเอาฝิ่นไปใส่ไว้แล้วพาโลจับ ก็ให้ผู้ว่าราชการเมืองกรมการชำระสืบพยานรางวัดบ้านเรือนใกล้เคียง ถ้าพยานสาบาลเบิกความว่า ผู้ต้องจับเปนคนซื้อคนขายคนสูบฝิ่นอยู่ ก็ให้ปรับผู้ต้องจับตั้งแต่ ๑๐๐๐ บาทลงมา ให้ริบเอาฝิ่นเสีย ถ้าพยานเบิกความว่า ผู้ต้องจับเปนคนดี ไม่ได้ซื้อไม่ได้ขายไม่ได้สูบฝิ่น ก็ให้ปรับไหมผู้นำจับตามกฎหมายตั้งแต่ ๑๐๐๐ บาทลงมาให้แก่ผู้ต้องจับ

แลผู้ลอบลักซื้อลักขายฝิ่นเถื่อนซึ่งต้องปรับไหมณกรุงเทพมหานครแลหัวเมืองฝ่ายไต้ฝ่ายเหนือฝ่ายตวันออกฝ่ายตวันตกไม่มีเงินจะให้นั้น ให้ทำโทษตามปรับไหมมากแลน้อยเหมือน ๆ กัน ถ้าต้องปรับไหม ๕๐ บาท ให้กระทำโทษจำไว้ณคุกตรางเดือนหนึ่ง ถ้าต้องปรับไหม ๔๐๐ บาทถึง ๑๐๐๐ บาท ให้กระทำโทษจำไว้ณคุกตราง ๖ เดือน ถ้าต้องปรับไหมตั้งแต่ ๑๔๐๐ บาทถึง ๒๐๐๐ บาท ให้กระทำโทษจำไว้ณคุกตรางปีหนึ่ง ถ้าต้องปรับไหมตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทขึ้นไป ให้กระทำโทษจำไว้ณคุกตราง ๒ ปี

กฎหมายพระราชบัญญัติภาษีฝิ่น ว่าด้วยวังเจ้าบ้านขุนนางตึกเรือนโรงร้านเรือแพต่างเกวียนหาบคอนผู้ใดซึ่งจะมีการเกี่ยวข้องในการจับฝิ่นเถื่อน ได้ตีพิมพ์ประทับพระตราแผ่นดินแต่ณวันอังคาร เดือน ๕ ขึ้นค่ำหนึ่ง ปีมแม ยังเปนโทศก ตรงกับวันที่ ๒๑ เดือนมาช คฤสตศักราช ๑๘๗๑ ปี ใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ไปทั้งในกรุงเทพมหานครแลหัวเมืองทั่วพระราชอาณาเฃตรประเทศสยาม ๚ะ