คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๑๖/๒๕๕๘

แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๖/๒๕๕๘
เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ
และการกําหนดกรอบอัตรากําลังชั่วคราว[1]




โดยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐในส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่น ๆของรัฐหลายรายอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบของ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มูลกรณีเป็นเรื่องกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ทําให้เสียหายแก่ทางราชการหรือทําให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แม้ผลการตรวจสอบยังไม่อาจสรุปความผิดได้ชัดเจนถึงขั้นชี้มูลความผิดแต่บางเรื่องมีการกระทําเป็นขบวนการ การตรวจสอบจึงใช้เวลานานและบางเรื่องไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องเท่าที่ควรดังที่หน่วยงานตรวจสอบดังกล่าวได้แจ้งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลทราบมาเป็นลําดับ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เห็นควรกําหนดมาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบดังกล่าวและกําหนดกรอบอัตรากําลังชั่วคราวเพื่อรองรับมาตรการเช่นว่านั้นอีกทั้งเพื่อประโยชน์ในการหมุนเวียนบุคลากรสําหรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปและเร่งรัดติดตามการดําเนินการตามนโยบายสําคัญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและของรัฐบาลเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปราชการแผ่นดิน จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้มีกรอบอัตรากําลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสํานักนายกรัฐมนตรีจํานวนหนึ่งร้อยอัตราเพื่อรองรับการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลตามข้อ ๒ และตามบัญชีรายชื่อเพิ่มเติมในข้อ ๕ หรือบุคคลตามวรรคสามของข้อนี้ที่คณะรัฐมนตรี หรือผู้บังคับบัญชาผู้มีอํานาจบรรจุและแต่งตั้งแล้วแต่กรณีเห็นสมควรให้ขาดจากตําแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิมเพื่อย้ายหรือโอนไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวดังกล่าว

การย้ายหรือโอนบุคคลไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวตามวรรคหนึ่งให้ดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ในกรณีนี้ให้สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี และสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ร่วมกันกําหนดชื่อตําแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบ และสิทธิประโยชน์ของบุคคลดังกล่าวโดยอนุโลมตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ

คณะรัฐมนตรีอาจให้ความเห็นชอบให้แต่งตั้งผู้ซึ่งมิได้อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ มิได้มีความผิดและมีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติราชการให้ไปดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวตามวรรคหนึ่งในตําแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษหรือผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีฐานะและสิทธิประโยชน์เทียบเท่าตําแหน่งเดิม มีหน้าที่รับผิดชอบการปฏิรูปราชการแผ่นดินตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายก็ได้

ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้ดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวไม่มีเหตุ ถูกตรวจสอบหรือไม่จําเป็นต้องดํารงตําแหน่งที่เป็นอัตรากําลังชั่วคราวต่อไปและผู้นั้นยังไม่ออกจากราชการ ให้นายกรัฐมนตรีดําเนินการเพื่อแต่งตั้งผู้นั้นไปดํารงตําแหน่งตามเดิมหรือตําแหน่งอื่นในประเภทเดียวกันและระดับเดียวกัน

ให้สํานักงบประมาณจัดงบประมาณแก่สํานักนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามข้อนี้

ข้อ ๒ ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ ๑ และกลุ่มที่ ๒ ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ระงับการปฏิบัติราชการในตําแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราวและไปปฏิบัติราชการในตําแหน่งประจําสํานักงานปลัดกระทรวงในกระทรวงที่สังกัดโดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิมและให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดมอบหมาย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งให้ผู้นั้นไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐเป็นการชั่วคราวก็ได้

นายกรัฐมนตรีอาจมีคําสั่งเปลี่ยนแปลงคําสั่งข้อนี้ได้ตามที่เห็นสมควร

ข้อ ๓ ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ ๓ และกลุ่มที่ ๔ ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ระงับการปฏิบัติราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดํารงตําแหน่งอยู่เป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนจนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น

ข้อ ๔ ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ ๕ ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นตั้งอยู่หรือสถานที่ราชการอื่นตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกําหนดแต่ต้องมิใช่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ต้องมีคําร้องขอ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายเป็นผู้บังคับบัญชามีอํานาจมอบหมายให้ผู้นั้นปฏิบัติงานตามความเหมาะสมจนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น

ในกรณีนี้ มิให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินประจําตําแหน่งและสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการชั่วคราว ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๕๕ อันเนื่องจากการไปช่วยราชการตามคําสั่งนี้

ข้อ ๕ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อาจประกาศบัญชีรายชื่อบุคคลเพิ่มเติมจากรายชื่อตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ก็ได้ ในกรณีนี้ให้นําความในข้อ ๒ ขอ้ ๓ และข้อ ๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ ๖ ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคําสั่งนี้ ให้สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนหรือกระทรวงมหาดไทยแล้วแต่กรณีเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขให้นายกรัฐมนตรีวินิจฉัยคําวินิจฉัยของนายกรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ




บัญชีแนบท้ายคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๖/๒๕๕๘
-------------------------------


กลุ่มที่ ๑ ข้าราชการ (๒๔ ราย)

๑. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (๔ ราย)

(๑) นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวง
(๒) ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว
(๓) นายพัฒนาชาติกฤติบวร อธิบดีกรมพลศึกษา
(๔) นายนิวัตน์ลิ้มสุขนิรันดร์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา

๒. กระทรวงการคลัง (๖ ราย)

(๑) นายสาธิต รังคศิริ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง
(๒) นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้ตรวจราชการกระทรวง
(๓) นายป้อมเพชร วิทยารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญประจําภาค ๗
(๔) นายศุภกิจ ริยะการ (นายสิริพงษ์ริยะการธีรโชติ) สรรพากรพื้นที่นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
(๕) นายพายุสุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่ปัตตานีจังหวัดปัตตานี
(๖) นายมานิตย์พลรัตน์ สรรพากรอําเภอ สํานักงานสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองตากจังหวัดตาก

๓. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (๒ ราย)

(๑) นายปัญญา ศลปะ ิ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา
(๒) นายอุดร ชมาฤกษ์ เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี

๔. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (๑ ราย)

(๑) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง

๕. กระทรวงมหาดไทย (๑๐ ราย)

(๑) นายแก่นเพชร ช่วงรังษี รองปลัดกระทรวง
(๒) นายกิตติภพ ตราชูวณิช ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง
(๓) นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
(๔) นายเวชสุวรรณ อาจวิชัย หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมุกดาหาร
(๕) นายนิรันดร์บุญสิงห์ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุรินทร์
(๖) นายพรต ภูภักดิ์ นายอําเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
(๗) นายภัลลพ พิลา นายอําเภอเมืองสระบุรีจังหวัดสระบุรี
(๘) นายสมภพ ร่วมญาติ นายอําเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี
(๙) นายอรรณพ อกอุ่น นายอําเภอเมืองอุบลราชธานีจังหวัดอุบลราชธานี
(๑๐) นายวีรชาติผ่องโชติ นายอําเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี

๖. สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (๑ ราย)

(๑) พลตํารวจโท สุรพล ทวนทอง จเรตํารวจ
กลุ่มที่ ๒ หน่วยงานอื่นของรัฐ (๑ ราย)
(๑) นายประเสริฐ อภิปุญญา กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสํานักงาน กสทช.
กลุ่มที่ ๓ นายกและรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล (จํานวน ๑๔ ราย)
(๑) นายชาติกันล้อม นายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าตําหนัก อําเภอนครชัยศรีจังหวัดนครปฐม
(๒) นายเดชาวุธ เสนยะ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ําตก อําเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
(๓) นายสนธยา มีสถิตย์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลลําเลียง อําเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
(๔) นายมนตรีถ้ําเล็บมือ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองเดิ่น อําเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ
(๕) นายสริภพ ภูนิสัย นายกองค์การบริหารส่วนตําบลทองเอน อําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
(๖) นายวรวุฒิยิ้มจันทร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลทองเอน อําเภออินทร์บุรีจังหวัดสิงห์บุรี
(๗) นายประทีป ยั่งยืน นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางเมือง อําเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
(๘) นายภัทรพล จําปารัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางแก้ว อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
(๙) นายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตําบลราชาเทวะ อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
(๑๐) นายมนตรีบุญสุยา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลแกใหญ่อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
(๑๑) นายสมภาร เคนหาญ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลกุดจิก อําเภอเมืองหนองบัวลําภู จังหวัดหนองบัวลําภู
(๑๒) นายทนงทรัพย์ถนอมจิตต์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลจิกเทิง อําเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี
(๑๓) นายสุวรรณ เมฆบุตร นายกองค์การบริหารส่วนตําบลคันไร่อําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
(๑๔) นายวงศ์พิสุทธิ์ดํารงค์สิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลช่องเม็ก อําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
กลุ่มที่ ๔ นายกเทศมนตรี (จํานวน ๓ ราย)
(๑) นางสาวสุนีปูนกลาง นายกเทศมนตรีตําบลใหม่อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา
(๒) นายปัญญา เขยวธง ี นายกเทศมนตรีตําบลต้นธง อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูน
(๓) นายรัชนาท ภูผินผา นายกเทศมนตรีตําบลทุ่งฝน อําเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี
กลุ่มที่ ๕ ปลัดและรองปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ (จํานวน ๓ ราย)
(๑) นางสาวมณีรัตน์ดวงกุณา ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลหนองเดิ่น อําเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ
(๒) นายฟ้าใส เสนาธรรม (นายชยพล เสนาธรรม) ปลัดเทศบาลตําบลบ้านแปะอําเภอจอมทองจังหวัดเชียงใหม่
(๓) นายนพคุณ พรหมพุทธา รองปลัดเทศบาลตําบลต้นธง อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูน


-------------------------------



แก้คําผิด


คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๖/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ และการกําหนด
กรอบอัตรากําลังชั่วคราว ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป[2]


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๑๒ ง
หน้า ๑

วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘
บรรทัดที่ ๑๕ คําว่า “หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ”
ให้แก้เป็น “หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบ
ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ”


เชิงอรรถ

แก้ไข
  1. ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนพิเศษที่ ๑๑๒ ง/หน้า ๑-๒/๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘
  2. ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนพิเศษที่ ๑๑๔ ง/หน้า ๒/๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘



ขึ้น

 

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"