๗ รูปภาพสามก๊ก

ไทยเรารู้เรื่องสามก๊กยิ่งกว่าเรื่องอื่นในพงศาวดารจีนฉันใด อาจจะอ้างต่อออกไปถึงรูปภาพจีนว่า ไทยเราคุ้นกับรูปบุคคลในเรื่องสามก๊กยิ่งกว่าในเรื่องอื่นทั้งนั้นก็ว่าได้ ข้อนี้พึงสังเกตรูปภาพจีนอย่างที่เขียนในแผ่นกระจกสำหรับติดฝาผนังที่ชอบใช้แต่งตำหนักรักษาเหย้าเรือนกันมาแต่ก่อนก็มักเปนรูปเรื่องสามก๊กเปนพื้น[1] ไทยดูงิ้วก็ชอบดูเรื่องสามก๊กชำนาญตากว่าเรื่องอื่น จนเห็นตัวงิ้วก็มักบอกได้ทันทีว่า เปนบุคคลผู้ใดในเรื่องสามก๊ก แต่รูปภาพในเรื่องสามก๊กนั้น เมื่อสืบสวนหาตำรา ได้ความว่า เปนรูปคิดสมมติขึ้นทั้งนั้น น่าสันนิษฐานว่า พวกจีนเล่นงิ้วจะคิดสมมติขึ้นก่อน โดยเอาวิสัยของตัวบุคคลตามที่ปรากฎในเรื่องมาคิดแต่งหน้าแต่งตัวแลทำกิริยาอาการให้เห็นว่า เปนเช่นนั้น ๆ คนดูก็รู้สึกนิยมตาม จนเลยยุติเปนแบบแผนว่า บุคคลนั้นหน้าต้องเปนสีนั้น มีหนวดยาวหรือหนวดสั้น หรือหน้าเกลี้ยง ส่วนเครื่องแต่งตัวนั้น รูปภาพเรื่องสามก๊กซึ่งจีนเขียนก็ดี หรือแต่งเล่นงิ้วก็ดี ได้ความว่า เปนแบบเครื่องแต่งตัวในสมัยราชวงศ์ไต้เหม็ง คือ ในระวาง พ.ศ. ๑๙๑๑ จน พ.ศ. ๒๑๘๖ มิใช่เปนแบบเครื่องแต่งตัวอย่างเก่าถึงสมัยสามก๊ก ข้อนี้ก็เปนเค้าเงื่อนชวนให้สันนิษฐานว่า รูปภาพในเรื่องสามก๊กอย่างเช่นปรากฏทุกวันนี้น่าจะเกิดขึ้นร่วมสมัยกับเมื่อมีหนังสือสามก๊กอ่านนิยมกันแพร่หลาย แต่ประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง สังเกตดูรูปภาพที่จีนทำในเรื่องสามก๊กต่างกันเปน ๒ แบบ ถ้าเปนรูปปั้นระบายสี มักเขียนหน้าสลับสีอย่างงิ้ว ไม่นิยมที่จะให้แม้นเหมือนสีเนื้ออย่างธรรมดา แต่ถ้าเปนรูปเขียน เช่น เขียนในแผ่นกระจกสำหรับติดฝา หรือเขียนในฉาก มักระบายสีหน้าให้คล้ายสีเนื้อธรรมดา แม้ตัวบุคคลซึ่งในเรื่องกล่าวว่า หน้าดำหรือหน้าแดง ก็ประสานสีหน้าพอให้คล้ามหรือให้แดงแปลกกว่าผู้อื่นสักเล็กน้อยพอเปนที่สังเกต ยกตัวอย่างดังเช่น ฉากเขียนรูปกวนอูอันมีรูปจิวฉ่องกับกวนเป๋งยืนสองข้างซึ่งแขวนณะที่บูชาตามบ้านจีนเห็นอยู่แพร่หลายก็เปนเช่นว่า ข้อที่ช่างจีนทำรูปภาพปั้นกับรูปภาพเขียนผิดกันดังว่ามาจะเปนเพราะเหตุใดยังไม่ทราบ จีนทำหนังฉายเรื่องสามก๊ก ก็พยายามจะให้เหมือนคนธรรมดา เปนแต่แต่งหน้าให้เข้าเค้าภาพสามก๊ก ทำดีได้หนักหนา

รูปภาพที่พิมพ์ไว้ในหนังสือสามก๊กฉะบับภาษาจีนมีเปน ๒ ประเภท คือ ภาพรูปตัวคน ประเภท ๑ ภาพเรื่อง ประเภท ๑ ได้จำลองภาพเรื่องพิมพ์ไว้ตรงเรื่องในหนังสือสามก๊กฉะบับงานพระเมรุ ส่วนภาพตัวบุคคลได้จำลองมาพิมพ์ไว้ในหนังสือเล่มตำนานตอนนี้.

สามก๊ก
สารบารพ์รูป
ที่ พระเจ้าเหี้ยนเต้ นางตังกุยหุย นางฮกเฮา
ที่ อ้องอุ้น ตังสิน ฮกอ๋วน
ที่ ตั๋งโต๊ะ ลิโป้ นางเตียวเสียน
ที่ อ้วนเสี้ยว อ้วนสุด บุนทิว งันเหลียง
ที่ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย
ที่ ชีซี บังทอง ขงเบ้ง
ที่ จูล่ง ม้าเฉียว ฮองตง จิวฉอง กวนเป๋ง
ที่ เล่าเจี้ยง เตียวสง หวดเจ้ง
ที่ เงียมหงัน เกียงอุย อองเป๋ง ม้าเจ๊ก
ที่ ๑๐ เบ้งเฮ็ก เลียวฮัว เตียวเปา กวนหิน
ที่ ๑๑ ซุนเกี๋ยน ซุนเซ็ก ซุนกวน
ที่ ๑๒ จิวยี่ โลซก จูกัดกิ๋น
ที่ ๑๓ ฮันต๋ง อุยกาย งำเต๊ก จิวท่าย
ที่ ๑๔ โกะหยง ชีเซ่ง เตียวเจียว เตงฮอง
ที่ ๑๕ โจโฉ กุยแก ซุนฮก
ที่ ๑๖ โจจู๋ อีเกียด เกียดเป๋ง ฮัวโต๋
ที่ ๑๗ เคาทู เตียนอุย ซีหลง
ที่ ๑๘ เตียวคับ งักจิ้น อองสง
ที่ ๑๙ โจจิ๋ว เตียวเลี้ยว อิกิ๋ม บังเต๊ก แฮหัวเอี๋ยน
ที่ ๒๐ แฮหัวตุ้น ฮัวหิม อองลอง
ที่ ๒๑ โจหอง โจหยิน โจเจียง
ที่ ๒๒ โจผี นางเอียนสี โจสิด
ที่ ๒๓ สุมาอี้ สุมาสู สุมาเจียว สุมาหู เตงงาย จงโฮย

๑ นางตังกุยหุย๒ พระเจ้าเหี้ยนเต้๓ นางฮกเฮา

๑ ตังสิน๒ อ้องอุ้น๓ ฮกอ๋วน

๑ ลิโป้๒ ตั๋งโต๊ะ๓ นางเตียวเสียน

๑ อ้วนสุด๒ บุนทิว๓ อ้วนเสี้ยว๔ งันเหลียง

๑ กวนอู๒ เล่าปี่๓ เตียวหุย

๑ บังทอง๒ ชีซี๓ ขงเบ้ง

๑ จิวฉอง๒ ม้าเฉียว๓ จูล่ง๔ ฮองตง๕ กวนเป๋ง

๑ เตียวสง๒ เล่าเจี้ยง๓ หวดเจ้ง

๑ อองเป๋ง๒ เงียมหงัน๓ เกียงอุย๔ ม้าเจ๊ก

๑ เตียวเปา๒ เบ้งเฮ็ก๓ เลียวฮัว๔ กวนหิน

๑ ซุนเซ็ก๒ ซุนเกี๋ยนซุนก๋วน

๑ โลซก๒ จิวยี่๓ จูกัดกิ๋น

๑ จิวท่าย๒ อุยกาย๓ ฮันต๋ง๔ งำเต๊ก๕ กำเหลง

๑ เตียวเจียว๒ โกะหยง๓ ซีเซ่ง๔ เตงฮอง

๑ กุยแก๒ โจโฉ๓ ซุนฮก

๑ เกียดเป๋ง๒ โจจู๋๓ อีเกียด๔ ฮัวโต๋

๑ เตียนอุย๒ เคาทู๓ ซีหลง

๑ งักจิ้น๒ เตียวคับ๓ อองสง

๑ บังเต็ก๒ เตียวเลี้ยว๓ โจจิ๋น๔ อีกิ๋ม๕ แฮหัวเอี๋ยน

๑ ฮัวหิม๒ แฮหัวตุ้น๓ อองลอง

๑ โจหยิน๒ โจหอง๓ โจเจียง

๑ นางเอียนสี๒ โจผี๓ โจสิด

๑ เตงงาย ๒ สุมาเจียว ๓ สุมาเอี๋ยน ๔ สุมาอี้
๕ สุมาสู ๖ จงโฮย

  1. รูปภาพเช่นนั้น ที่เปนเครื่องประดับพระที่นั่งในพระราชวังบวรสถานมงคล ยังรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครก็มีมาก