แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)

หน้า ๗๑–๗๕ สารบัญ



ฝ่ายทหารที่ได้รับคำสั่งชิงชิวนั้นก็เอาไม้ทายาพิษเข้ามา แล้วก็เฆี่ยนเต็กเซงยี่สิบที โลหิตไหล เต็กเซงเจ็บปวดแสนสาหัส แล้วก็ออกไปพ้นสนาม อุตส่าห์เดินไป เห็นมีศาลเจ้าอยู่ริมทางแห่งหนึ่ง ก็แวะเข้าไปอาศัย ฝ่ายเฮียกงผู้รักษาศาลเจ้าเห็นคนเดินเข้ามาจึงถามว่า เจ้ามาแต่ไหน เหตุใดจึงได้ถูกเฆี่ยนตีดังนี้ เต็กเซ็งก็เล่าความตั้งแต่ต้นจนต้องเฆี่ยนตีนั้นให้เฮียกงฟังทุกประการ เฮียกงจึงว่า ชิงชิวคนนี้เฆี่ยนคนด้วยไม้ทายาพิษตายเสียหลายคนแล้ว ท่านนี้มีข้อสาเหตุสิ่งใดกับชิงชิวหรือ จึงต้องตีด้วยไม้ทายาพิษดังนี้ ท่านจงไปหาหมอรักษาเสียโดยเร็วเถิด ถ้าทิ้งไว้หลายวันคงตายเป็นแน่ เต็งเซงจึงว่า ท่านรู้จักหมอดีที่ไหนบ้าง เฮียกงจึงบอกว่า มีหลวงจีนองค์หนึ่งชื่อ อินซิว อยู่วัดเซียงก๊กยี่ มียาวิเศษ ใจกว้างขวาง มีเมตตาแก่คนทั้งหลาย ถึงไม่มีเงินทองเธอก็รักษาให้ เต็กเซงก็ยินดี ลาเฮียกงตรงไปวัดเซียงก๊กยี่ พอถึงวัดเป็นเวลาพลบค่ำ เห็นประตูวัดปิดอยู่ ก็เรียกให้ศิษย์วัดเปิดรับ ศิษย์วัดก็เปิดประตูรับแล้วถามว่า ท่านมาแต่ไหน มีธุระสิ่งใด เต็กเซงบอกว่า เรามาหาอาจารย์ท่าน ท่านจงพาเราไปให้พบสักหน่อยเถิด ศิษย์วัดก็พาเต็กเซงไปหาหลวงจีน เต็กเซงเห็นหลวงจีนนั่งอยู่ก็คำนับแล้วว่า ขอท่านได้ช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วย แล้วเล่าความซึ่งต้องถูกตีนนั้นให้หลวงจีนฟังทุกประการ อินซิวหลวงจีนได้ฟังก็สงสาร จึงว่า เจ้าจงอยู่กับเราเถิด เราจะรักษาให้หาย แล้วจึงค่อยไป แล้วสั่งให้ศิษย์เอายามาให้เต็กเซงกินและทา รักษาได้สี่วัน เต็กเซงก็ค่อยคลายหายขึ้น จึงคิดว่า เรามารักษาตัวอยู่กับหลวงจีนก็ค่อยคลายขึ้นแล้ว แต่หามีสิ่งใดที่จะตอบแทนคุณหลวงจีนไม่ จำเราจะเอานกทำด้วยหยกที่มารดาผูกติดมานี้ให้หลวงจีนเถิด คิดแล้วก็ไปคำนับส่งให้หลวงจีนแล้วว่า ท่านรักษาข้าพเจ้าหาย ข้าพเจ้าหามีสิ่งใดที่จะทดแทนคุณท่านไม่ ซึ่งนกทำด้วยหยกนี้ข้าพเจ้าขอแทนคุณท่าน หลวงจีนรับนกมาพิเคราะห์ดูแล้วถามว่า นกนี้เจ้าได้มาแต่ไหน เต็กเซงก็เล่าความให้ฟังว่า เดิมปู่ข้าพเจ้าเป็นขุนนางนายทหารทำราชการมีความชอบ พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานนกนี้ให้ปู่ข้าพเจ้า ครั้นปู่ข้าพเจ้าตายแล้ว นกนี้ก็ตกอยู่กับบิดามารดาข้าพเจ้า มารดาข้าพเจ้าจึงเอานกนี้ผูกติดตัวข้าพเจ้าไว้ หลวงจีนจึงว่า นกนี้แต่ครั้งปู่และบิดาของเจ้า เราหาเอาไว้ไม่ แต่จะเก็บไว้ให้ เจ้าจะไปเมื่อใดจงมาเอาไปเถิด ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง เจงซันอ๋องไปเที่ยวเล่นที่วัดเซียงก๊กยี่ด้วยอินซิวหลวงจีนนั้นชอบพอกัน หลวงจีนเห็นก็ออกมารับเชิญไปในวัด จัดที่ให้นั่งตามสมควร แล้วก็สนทนากันตามคุ้นเคย เจงซันอ๋องแลดูที่โต๊ะเห็นรัศมีสว่าง จึงถามหลวงจีนว่า ที่หน้าโต๊ะนั้นท่านเอาสิ่งของอะไรไว้หรือ รัศมีจึงได้สว่างอยู่ หลวงจีนจึงไปหยิบเอานกหยกนั้นมาส่งให้เจงซันอ๋องดู เจงซันอ๋องจึงว่า ของนี้มีราคามาก คนพลเรือนหามีไม่ ท่านเอามาแต่ไหน ไยจึงมีแต่นกเดียวเล่า หลวงจีนจึงบอกว่า มีชายผู้หนึ่งมาให้ข้าพเจ้ารักษาแผล แผลหายแล้วจึงให้นกนี้แก่ข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าหาเอาของเขาไว้ไม่ เมื่อเขาจะไปจึงจะคืนให้เขา เจงซันอ๋องจึงว่า คิดดังนี้ชอบแล้ว ท่านเป็นหลวงจีน หาควรจะเอาของเขาไว้ไม่ แล้วเจงซันอ๋องถามต่อไปว่า เจ้าของนกนั้นอยู่ไหน ท่านจงบอกมาหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะถามดู หลวงจีนก็ร้องเรียกเต็กเซง เต็กเซงก็ออกมาคำนับเจงซันอ๋อง เจงซันอ๋องจึงถามเต็กเซงว่า เจ้าแซ่ไร ชื่อไร เป็นชาวเมืองไหน จึงให้เอานกนี้มาให้หลวงจีน เต็กเซงจึงบอกชื่อ และแซ่ ตำบลบ้าน ให้เจงซันอ๋องฟัง แล้วเล่าความตั้งแต่ต้น จนต้องเฆี่ยนตี ได้มาหาหลวงจีนให้รักษา จึงได้เอานกนี้ให้สนองคุณหลวงจีน ให้แจ้งทุกประการ เจงซันอ๋องก็รำลึกขึ้นได้ว่า วันนั้นเราไปดูเขาฝึกหัดทหารที่ท้องสนาม เจ้านี่หรือที่ชิงชิวให้เอาไปฆ่าเสีย พวกเราห้าคนได้ขอไว้หรือมิใช่ เต็กเซงบอกว่า คือตัวข้าพเจ้าเอง เจงซันอ๋องจึงถามต่อไปว่า เจ้ามีข้อสาเหตุสิ่งใดหรือ เขาจึงได้เกลียดชังเจ้าหนักหนา เต็กเซงจึงตอบว่า ข้าพเจ้านี้จะได้มีสาเหตุสิ่งใดกับชิงชิวนั้นหามิได้ แต่ครั้งบิดามารดาข้าพเจ้านั้นข้าพเจ้าหาทราบไม่ เจงซันอ๋องจึงว่า เขาทำกับเจ้าได้ความเจ็บแค้นเป็นอันมาก เจ้าจะแก้แค้นบ้างหรือไม่ เราจะให้กระบี่อาชญาสิทธิ์ไปฆ่าชิงชิวเสีย ท่านจะทำได้หรือ เต็กเซงจึงว่า ถ้าท่านเมตตาแก่ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าก็ฆ่าได้ ขอท่านได้ชุบเลี้ยงข้าพเจ้าไว้ครั้งนี้เถิด เจงซันอ๋องก็ชวนเต็กเซงไปบ้าน เต็กเซงก็มีความยินดี เข้าไปลาหลวงจีน หลวงจีนก็เอานกคืนให้




ตอน ๙ ขึ้น ตอน ๑๑