แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)

หน้า ๑๐๐–๑๐๖ สารบัญ



ขณะนั้น เต็กเซงกำลังเมาสุราถือกระบี่เดินมาตามทาง จึงบอกกับคนใช้ว่า จงพาเราไปบ้านชิงชิว เราจะฆ่าชิงชิวเสีย ด้วยชิงชิวทำแค้นกับเรามากนัก คนใช้สองคนก็ตกใจ จึงห้ามว่า ซึ่งท่านจะฆ่าชิงชิวนั้นไม่ได้ ด้วยเขาเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าทั้งสองจะได้ความผิดด้วย ขอท่านได้เป็นดูแก่ข้าพเจ้าทั้งสองเถิด จะอ้อนวอนสักเท่าไรเต็กเซงก็หาฟังไม่ จะให้พาไปบ้านชิงชิวให้จงได้ คนใช้ต้องพาไป ถึงบ้านชิงชิว เต็กเซงจึงถามหาชิงชิวว่า อยู่หรือไม่ คนในบ้านบอกว่า หาอยู่ไม่ ไปกินโต๊ะที่บ้านเฮงเทียนฮวยยังไม่กลับมา เต็กเซงก็ตามไป ครั้นถึงสะพานเทียนฮันเกีย เต็กเซงเมาสุรามากขึ้น เดินไปไม่ได้ จึงทรุดนั่งลงริมสะพานนั้น คนใช้ทั้งสองก็ถือโคมยืนคอยอยู่ที่นั้น

ฝ่ายชิงชิว ครั้นกินโต๊ะเสร็จแล้ว ก็คำนับลาเฮงเทียนฮวยมาพร้อมกับพังหอง ครั้นเดินมาถึงสะพานเทียนฮันเกีย เห็นโคมมียี่ห้อโลฮวยอ๋องมีคนยืนถืออยู่ ครั้นเข้าไปใกล้ไม่เห็นหน้า แต่เสื้อกางเกงนั้นจำได้ว่า เป็นของโลฮวยอ๋อง สำคัญว่าโลฮวยอ๋อง ก็คุกเข่าคำนับและก้มหน้าอยู่ หาเห็นพูดจาประการใดไม่ พังหอง ชิงชิว จึงพูดว่า ข้าพเจ้าทั้งสองชื่อ พังหอง ชิงชิว มาคำนับท่าน เต็กเซงกำลังเมาสุรา หารู้สึกตัวไม่ เงยหน้าขึ้นดูแล้วก็ก้มลงดังเก่า พังหองเห็นหน้าก็จำได้ว่าเต็กเซง จึงบอกชิงชิวคนนี้คือเต็กเซง เต็กเซงไปลักเอาเสื้อกางเกงเจ้าที่ไหนมาใส่ มีความผิดมาก จึงสั่งให้ทหารที่ตามมาด้วยนั้นให้จับเต็กเซงไว้ เต็กเซงก็หารู้สึกตัวไม่ คนใช้ทั้งสองคนว่า เต็กเซงนี้เป็นหลานนางเต็กไทเฮา ผู้ใดอย่าจับไปเลย ทหารเหล่านั้นก็หาฟังไม่ คนใช้ของเต็กเซกเห็นเขาไม่ฟังตัวห้าม ก็วิ่งกลับไปจะทูลความให้นางเต็กไทเฮาทราบ

ฝ่ายเปาบุ้นจิ้นนั่งอยู่ที่เรือนเห็นเดือนหงายก็ไปเที่ยวเล่นที่ถนน ถึงสะพานเทียนฮันเกีย เห็นผู้คนยืนอยู่เป็นอันมาก จึงให้เตียเหลง เตียเฮา ทหารสองนายไปถามดู เตียเหลง เตียเฮา ก็คำนับลาไป เห็นทหารจับชายผู้หนึ่งไว้ ทหารเหล่านั้นบอกว่า ชายผู้นี้ไปลักเอาเสื้อเจ้ามาใส่ นายข้าพเจ้าเห็นผิด จึงให้จับตัวไว้ เตียเหลง เตียเฮา ได้แจ้งแล้วก็มาเล่าความให้เปาบุ้นจิ้นฟังทุกประการ เปาบุ้นจิ้นแจ้งความแล้วก็รีบไป

ฝ่ายพังหอง ชิงชิว เห็นเปาบุ้นจิ้นมาถึง ต่างคนก็คำนับกันตามธรรมเนียม เปาบุ้นจิ้นจึงถามพังหองว่า ชายผู้นั้นมีความผิดสิ่งใดหรือ ท่านจึงได้จับตัวไว้ พังหองจึงตอบว่า ชายผู้นี้ชื่อ เต็กเซง ลักเอาเครื่องของเจ้ามาใส่ปลอมเป็นเจ้า ข้าพเจ้าเห็นผิด จึงให้จับตัวไว้ จะเอาไปทำโทษ เปาบุ้นจิ้นได้ฟังพังหองบอกชื่อว่า เต็กเซง จึงคิดว่า เต็กเซงนี้เราก็ได้ปล่อยให้ไปครั้งหนึ่งแล้ว ได้ยินข่าวว่า พังหอง ชิงชิว คิดจะทำอันตราย บัดนี้ ไปเอาเครื่องเจ้าที่ไหนมาใส่ พังหอง ชิงชิว จึงจับได้อีก และพังหองกับชิงชิวนี้หาได้ว่าฝ่ายราษฎรไม่ จำเราจะเอาตัวเต็กเซงไปชำระถามเอาความจริงก่อน คิดแล้วจึงว่ากับพังหองว่า ซึ่งท่านจะเอาตัวเต็กเซงไปทำโทษนั้นหาใช่พนักงานของท่านไม่ ด้วยพระเจ้าแผ่นดินโปรดให้เราดูแลว่ากล่าวฝ่ายราษฎร เราจะขอเอาตัวเต็กเซงไปถามเอาความจริงก่อน แล้วจึงทำโทษตามกฎหมาย ชิงชิวจึงตอบว่า ข้าพเจ้าก็ได้รับคำสั่งให้ว่าฝ่ายทหาร ด้วยเต็กเซงนี้เดิมเป็นทหารข้าพเจ้าได้ว่ากล่าวอยู่ ซึ่งท่านจะเอาตัวเต็กเซงไปนั้นไม่ได้

เปาบุ้นจิ้นจึงว่า เต็กเซงนี้เดิมเป็นทหารก็จริงอยู่ แต่ท่านได้หักบัญชีเสียแล้ว เต็กซึงจึงได้ออกเป็นราษฎร มีทุกข์ร้อนสิ่งใดต้องให้เราชำระ ซึ่งท่านจะเอาตัวเต็กเซงไปนั้นไม่ได้ เปาบุ้นจิ้นก็ให้ทหารแย่งเอาตัวเต็กเซงมา พังหองกับชิงชิวก็ให้ทหารของตัวแย่งไว้ เปาบุ้นจิ้นเห็นดังนั้นจึงว่า ถ้ากระนั้น ท่านอย่าเอาตัวไป เราก็ไม่เอาตัวมา จงพาตัวไปถวายพระเจ้าแผ่นดินเถิด เปาบุ้นจิ้น พังหอง ชิงชิว ก็พาตัวไปถึงหน้าพระราชวัง ยังไม่ทันสว่าง ก็นั่งคอยอยู่ที่ประตูพระราชวังนั้น

ฝ่ายคนใช้ของเต็กเซงวิ่งกลับมาถึงวังนำเชงเก๋ง ก็ตรงไปหาโลฮวยอ๋อง เห็นยังไม่ตื่นนอน จึงกลับไปหานางเต็กไทเฮา เห็นยังไม่นอน ก็เข้าไปคำนับแล้วแจ้งความให้ฟังทุกประการ นางเต็กไทเฮาแจ้งความแล้วก็ตกใจ จึงให้คนใช้ไปปลุกโลฮวยอ๋อง โลฮวยอ๋องตื่นนอนแล้ว คนใช้บอกว่า นางเต็กไทเฮาให้หาเป็นการเร็ว โลฮวยอ๋องก็รีบมาคำนับนางเต็กไทเฮา นางเต็กไทเฮาก็เล่าความซึ่งเต็กเซงทำนั้นให้โลฮวยอ๋องฟังทุกประการ แล้วว่า เจ้าจงไปกราบทูลพระเจ้าซ่องยินจงฮ่องเต้ด้วยว่า เต็กเซงนี้เป็นหลานของมารดา ขอให้ตั้งเต็กเซงเป็นเจ้าด้วยเถิด โลฮวยอ๋องก็คำนับลามารดารีบเข้าไปในพระราชวัง พอเป็นเวลาจวนสว่าง

ฝ่ายเต็กเซง ครั้นสร่างเมาลืมตาขึ้นดูหาเห็นกระบี่ไม่ จึงถามคนเหล่านั้นว่า กระบี่ของเราไปอยู่ข้างไหน เหตุใดเราจึงได้มาอยู่ที่นี่เล่า ทหารของเปาบุ้นจิ้นก็เล่าความให้เต็กเซงฟังทุกประการ เต็กเซงจึงว่า เราเมาสุรา หารู้สึกตัวไม่ นี่หากว่าเปาบุ้นจิ้นช่วยเราไว้ ถ้าหาไม่เราก็คงตายด้วยฝีมือพังหอง ชิงชิว ในครั้งนี้ เปาบุ้นจิ้นมีคุณกับเรานักหนา เราหาลืมไม่

ฝ่ายพระเจ้าซ่องยินจงฮ่องเต้ ครั้นรุ่งเข้าก็เสด็จออก ขุนนางเข้าเฝ้าตามตำแหน่งพร้อมกัน พังหองจึงกราบทูลว่า ชายผู้หนึ่งเป็นทหาร หาได้ราชการไม่ จึงยกออกเสียจากราชการ เวลาคืนนี้ ชายผู้นั้นไปลักเอาเครื่องแต่งของเจ้ามาสวมใส่ปลอมเป็นเจ้าไปเที่ยวเล่นตามถนน ข้าพเจ้าพบเข้า จึงให้ทหารจับตัวไว้ จะเอาไปทำโทษ เปาบุ้นจิ้นหายอมให้ข้าพเจ้าทำโทษชายผู้นั้นไม่ ขอพระองค์จงได้โปรด

เปาบุ้นจิ้นจึงกราบทูลขึ้นว่า เวลาคืนนี้ ข้าพเจ้าพาทหารไปตรวจดูตามถนนว่าจะมีโจรผู้ร้ายรบกวนราษฎรประการใดบ้าง ข้าพเจ้าไปพบพังหองกับชิงชิวจับชายผู้นั้นไว้ว่า ปลอมเป็นเจ้า เอาเครื่องเจ้ามาใส่ จะเอาไปทำโทษ ข้าพเจ้าจึงว่า ชายนี้เป็นราษฎร จะเอาตัวไปชำระเอาความจริงก่อน ถ้าได้ความประการใดจึงจะให้ทำโทษต่อภายหลัง พังหองกับชิงชิวหายอมให้ข้าพเจ้าชำระไม่ ว่า ชายผู้นั้นเป็นทหารทำความผิด จะเอาตัวไปชำระโทษเอง ข้าพเจ้าจึงว่า ชายผู้นี้เดิมเป็นทหารจริง แต่บัดนี้ออกเสียจากราชการแล้ว ก็คงเป็นราษฎร ต้องให้ข้าพเจ้าชำระว่ากล่าวจึงจะชอบ พังหองกับชิงชิวก็ไม่ยอม จึงได้พากันมาเฝ้ากราบทูลให้ทรงทราบ




ตอน ๑๖ ขึ้น ตอน ๑๘