พระกวีนิพนธ์ฯ/เรื่อง 6
สารบัญ
คำอธิบาย เมื่อเกิดยุ่งยากกับฝรั่งเศสใน ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) นั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสียพระราชหฤทัยจนประชวรหนก และหยุดเสวยพระโอสถ ทรงพระราชนิพนธ์โคลงฉันท์นี้ส่งไปลายังเจ้านายพี่น้องบางพระองค์ เสด็จพ่อตรัสเล่าว่า "พอได้รับก็เขียนถวายตอบไปทันที ไม่มีร่างเก็บไว้ แต่มีคนเขาบอกว่า พอทรงจบแล้ว ก็กลับเสวยพระโอสถต่อไป และกลับเสด็จออกได้ในไม่ช้า"
เจ็บนานหนักอกผู้ | บริรักษ์ ปวงเฮย | |
คิดใคร่ลาลาญหัก | ปลดเปลื้อง | |
ความเหนื่อยแห่งสูจัก | พลันสร่าง | |
ตูจักสู่ภพเบื้อง | หน้านั้นพลันเขษม | |
เป็นฝีสามยอดแล้ว | ยังราย ส่านอ | |
ปวดเจ็บใครจักหมาย | เชื่อได้ | |
ใช่เป็นแต่ส่วนกาย | เศียรกลัด กลุ้มแฮ | |
ใครต่อเป็นจึ่งผู้ | นั่นนั้นเห็นจริง | |
ตะปูดอกใหญ่ตรึ้ง | บาทา อยู่เฮย | |
จึงบอาจลีลา | คล่องได้ | |
เชิญผู้ที่เมตตา | แก่สัตว์ ปวงแฮ | |
ชักตะปูนี้ให้ | ส่งขาอันขยม | |
ชีวิตมนุษย์นี้ | เปลี่ยนแปลง จริงนอ | |
ทุกข์และสุขพลิกแพลง | มากครั้ง | |
โบราณท่านจึงแสดง | เป็นเยี่ยง อย่างนา | |
ชั่วนับเจ็ดทีทั้ง | เจ็ดข้างฝ่ายดี | |
เป็นเด็กมีสุขคล้าย | ดิรฉาน | |
รู้สุขรู้ทุกข์หาญ | ขลาดด้วย | |
ละอย่างละอย่างพาล | หย่อนเพราะ เผลอแฮ | |
คล้ายกับผู้จวนม้วย | ชีพสิ้นสติสูญ | |
ฉันไปปะเด็กห้า | หกคน | |
โกนเกศนุ่งขาวยล | เคลิเคลิ้ม | |
ถามเขาว่าเป็นคน | เชิญเครื่อง | |
ไปที่หอศพเริ้ม | ริกเร้าเหงาใจ | |
กล้วยผาเหลืองแก่ก้ำ | เกินพระ ลักษณ์นา | |
แรกก็ออกอร่อยจะ | ใคร่กล้ำ | |
นานวันยิ่งเครอะคระ | กลืนยาก | |
ทนจ่อซ่อมจิ้มจ้ำ | แดกสิ้นสุดใบ | |
เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์ | มะนะเรื่องบำรุงกาย | |
ส่วนจิตต์มิสบาย | ศิระกลุ้มอุราตรึง | |
แม้หายก็พลันยาก | จะลำบากฤทัยพึง | |
ตริแต่จะถูกรึง | อุระรัดและอัตรา | |
กลัวเป็นทวิราช | บตริป้องอยุธยา | |
เสียเมืองจึงนินทา | บละเว้นฤว่างวาย | |
คิดใดจะเกี่ยงแก้ | ก็บพบซึ่งเงื่อนสาย | |
สบหน้ามนุษย์อาย | จึงจะอุดและเลยสูญ ฯ | |
ขอเดชะเบื้องบาท | วรราชะปกศี | |
โรตม์ข้าผู้มั่นมี | มานะตั้งกตัญญู | |
ได้รับพระราชทาน | อ่านราชนิพันธ์ดู | |
ทั้งโคลงและฉันท์ตู | ข้าจึงตริดำริห์ตาม | |
อันพระประชวรครั้ง | นี้แท้ทั้งไผทสยาม | |
เหล่าข้าพระบาทความ | วิตกพ้นจะอุปมา | |
ประสาแต่อยู่ใกล้ | ทั้งรู้ใช่ว่าหนักหนา | |
เลือดเนื้อผิเจือยา | ให้หายได้จะชิงถวาย | |
ทุกหน้าทุกตาดู | บพบผู้จะพึงสบาย | |
ปรับทุกข์ทุรนราย | กันมิเว้นทิวาวัน | |
ดุจเหล่าพละนา | วะเหล่ว้ากะปิตัน | |
นายท้ายฉงนงัน | ทิศทางก็คลางแคลง | |
นายกลประจำจักร์ | จะใช้หนักก็หนึกแหนง | |
จะรอก็ระแวง | จะไม่ทันธุระการ | |
อึดอัดทุกหน้าที่ | ทุกข์ทวีทุกวันวาร | |
เหตุห่างบดียาน | อันเคยไว้น้ำใจชน | |
ถ้าจะว่าบรรดากิจ | ก็ไม่ผิดณนิยม | |
เรือแล่นทเลลม | จะเปรียบต่อก็พอกัน | |
ธรรมดามหาสมุทร | มีคราวหยุดพายุผัน | |
มีคราวสลาตัน | ตั้งระลอกกระฉอกฉาน | |
ผิวพอกำลังเรือ | ก็แล่นรอดไม่ร้าวราน | |
หากกรรมจะบันดาล | ก็คงล่มทุกลำไป | |
ชาวเรือก็ย่อมรู้ | ฉนี้อยู่ทุกจิตต์ใจ | |
แต่ลอยอยู่ตราบใด | ต้องจำแก้ด้วยแรงระดม | |
แก้รอดตลอดฝั่ง | จะรอดทั้งจะชื่นชม | |
เหลือแก้ก็จำจม | ให้ปรากฏว่าถึงกรรม | |
ผิวทอดธุระนิ่ง | บวุ่นวิ่งเยียวยาทำ | |
ที่สุดก็สูญลำ | เหมือนที่แก้ไม่หวาดไหว | |
ผิดกันแต่ถ้าแก้ | ให้เต็มแย่จึงจมไป | |
ใครห่อนประมาทใจ | ว่าขลาดเขลาและเมาเมิน | |
เสียทีก็มีชื่อ | ได้เลื่องลือสรรเสริญ | |
สงสารว่ากรรมเกิน | กำลังดอกจึงจมสูญ | |
นี้ในน้ำใจข้า | อุปมาบังคมทูล | |
ทุกวันนี้อาดูร | แต่ที่พระประชวรนาน | |
เปรียบตัวเหมือนอย่างม้า | ที่เป็นพาหนยาน | |
ถูกเครื่องบังเหียนอาน | ประจำหน้าพลับพลาชัย | |
คอยพระประทับอาสน์ | กระหยับบาทจะพาไกล | |
ตามแต่พระทัยไท | ธจะชักไปซ้ายขวา | |
ไกลใกล้บได้เลือก | จะกระเดือกเต็มประดา | |
ตราบเท่าจะถึงวา | ระชีวิตมลายปราณ | |
ขอตายให้ตาหลับ | ด้วยชื่อนับว่าชายชาญ | |
เกิดมาประสบภาร | ธุระได้บำเพ็ญทำ | |
ด้วยเดชะบุญญา | ภิริหาระแห่งคำ | |
สัตย์ข้าจงได้สำ | ฤทธิดังมโนหมาย | |
ขอจงวราพาธ | บรมนาถเร่งเคลื่อนคลาย | |
พระจิตต์พระวรกาย | จงผ่องพ้นที่หม่นหมอง | |
ขอจงสำเร็จรา | ชะประสงค์ที่ทรงปอง | |
ปกข้าฝ่าลออง | พระบาทให้สามัคคี | |
ขอเหตุที่ขุ่นขัด | จะวิบัติพระขันตี | |
จงคลายเหมือนหลายปี | ละลืมเลิกละลายสูญ | |
ขอจงพระชนมา | ยุสถาวรพูน | |
เพิ่มเกียรติอนุกูล | สยามรัฐพิพัฒน์ผล. |