แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)

หน้า ๒๔–๓๔ สารบัญ



ฝ่ายเกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ยกทหารมาใกล้แล้ว รู้ว่า ทัพขงสวนมาตั้งอยู่ที่เนินเขาดิน ก็ให้หยุดทหารตั้งค่ายมั่นไว้ ขงสวนจัดให้ตันเก๋งยกออกมายืนม้าอยู่หน้าค่ายร้องท้าทายให้เกียงจูแหยออกมารบ เกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ให้อึ้งเทียนฮัวออกรบกับตันเก๋งได้สามสิบเพลง อึ้งเทียนฮัวก็ทำเป็นเสียทีชักสิงโตหนี ตันเก๋งก็ขับม้าตามไป อึ้งเทียนฮัวชักกระบี่สั้นซึ่งเหน็บหลีงขว้างถูกคอตันเก๋งตกม้าตาย อึ้งเทียนฮัวก็ตัดเอาศีรษะตันเก๋งไปให้เกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ครั้นเวลารุ่งเช้า ขงสวนก็ให้สุ้นฮับยกออกมายืนอยู่หน้าค่าย เกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ก็ให้บูกิดออกรบกับสุ้นฮับได้สามสิบเพลง บูกิดก็ทำชักม้าหนี สุ้นฮับก็ไล่ตาม บูกิดได้ทีเอาทวนแทนสุ้นฮับตกม้าตาย แล้วตัดเอาศีรษะมาให้เกียงจูแหย

ฝ่ายขงสวนก็ซ้ำให้โกแกเหลงเป็นแม่ทัพขี่ม้าถือทวนออกมายืนอยู่หน้าค่าย เกียงจูแหยให้โลเฉียออกไปรบกับโกแกเหลงได้ห้าเพลง โลเฉียก็เอากำไลขว้างถูกหลังโกแกเหลง โกแกเหลงเจ็บทนมิได้ ชักม้าหนีกลับเข้าค่าย โลเฉียหาได้ศีรษะข้าศึกมาเป็นความชอบไม่ เสียน้ำใจนัก กลับเข้าค่ายแจ้งความแก่เกียงจูแหยว่า ข้าพเจ้าหมายจะเอาศีรษะข้าศึกมาเป็นบำเหน็จมือ ก็หาได้ดังคิดไม่ เกียงจูแหยว่า ท่านอย่าเสียใจ การศึกยังมีมากอยู่ ค่อยแก้มือต่อภายหลัง

ฝ่ายขงสวนจัดทหารออกมาถึงสามครั้ง ตันเก๋ง สุ้นฮับ เสียชีวิตแก่ข้าศึก โกแกเหลงเล่าก็แพ้หนีมา ขงสวนโกรธ ให้ยกทหารสิ้นทั้งสิบหมื่นออกมายืนม้าอยู่หน้าค่าย ร้องท้าทายให้เกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ออกมารบกัน เกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น รู้ว่า ขงสวนมายืนม้าท้าทายอยู่หน้าค่าย ก็โกรธ

จึงจัดอึ้งเทียนฮัวกับอุยผุนคุมทหารคนละสิบห้าหมื่นเป็นปีกขวา บูกิดกับโลเฉียคุมทหารคนละสิบห้าหมื่นเป็นปีกซ้าย ตัวเกียงจูแหยเป็นแม่ทัพ ขี่ซูปุดเสียง ถือกระบี่ ยกออกมายืนอยู่หน้าค่าย แลไปเห็นขงสวนขี่ม้ายืนอยู่ มีรัศมีห้าสีปรากฏอยู่บนศีรษะเหมือนดังรุ้งกินน้ำ ก็ประหลาดใจ จึงคิดว่า ทหารคนนี้เห็นจะมีฤทธิ์

ฝ่ายขงสวนแลเห็นเกียงจูแหยก็ร้องถามว่า ท่านหรือชื่อ เกียงจูแหย เกียงจูแหยก็บอกว่า เราชื่อ เกียงจูแหย ขงสวนจึงว่า ท่านเป็นคนหาดีไม่ ได้ไปพึ่งบุญพระเจ้าติวอ๋อง พระเจ้าติวอ๋องก็เลี้ยงท่านโดยสุจริต ควรหรือกลับทรยศไปคิดการตั้งแต่งกีฮวดเป็นบูอ๋อง ตัวเป็นไต้เจียงกุ๋นให้เกินบรรดาศักดิ์ แล้วมิหนำซ้ำ ยกทหารมาจะตีเมืองจิวโก๋อีกเล่า แม้นรู้ว่าตัวผิดแล้ว เร่งยกกลับไปเสียโดยดี ถ้ายังดื้อดึงอยู่ เราจะตัดศีรษะท่านเสียวันนี้ เกียงจูแหยได้ฟังจึงว่า ท่านเป็นคนหาสติปัญญามิได้ เจ้าแผ่นดินไม่เป็นธรรมแล้ว หาควรจะตั้งอยู่ในสมบัติไม่ เยี่ยงอย่างมีมาแต่ก่อน เหมือนพระเจ้าเงียวสุ้นเต้ผ่านสมบัติในเมืองจิวโก๋อยู่จนแก่ มีราชบุตรชื่อ ตันจู๊ เห็นว่า ตันจู๊บุญน้อย หาสติปัญญามิได้ ไม่ควรจะว่าราชการแผ่นดิน จึงยกสมบัติให้แก่ซุ่นเต้เป็นขุนนาง ซุ่นเต้ก็ได้กินเมืองจนแก่ มีบุตรชายชื่อ สะหยง ก็หายกสมบัติให้แก่สะหยงไม่ มอบสมบัติให้ขุนนางฮูเต้ ขุนนางฮูเต้ได้กินเมือง แล้วยกสมบัติให้แก่ลูกชายชื่อ เด้ เด้ได้ครองสมบัติจนแก่ จึงยกสมบัติให้แก่หลายชายชื่อ เกียดอ๋อง เกียดอ๋องได้สมบัติแล้วหาตั้งอยู่ในยุติธรรมไม่ พระเจ้าเสี่ยงทางเห็นว่า พระเจ้าเกียดอ๋องไม่เป็นธรรม ก็ยกไปตีเอาเมือง ได้ครองสมบัติต่อกันมาหลายชั่วกษัตริย์จนถึงพระเจ้าติวอ๋อง บัดนี้ พระเจ้าติวอ๋องก็หาอยู่ในยุติธรรมไม่ เราจึงยกทหารมาจะตีเอาเมืองจิวโก๋ให้ต้องด้วยอย่างธรรมเนียมแต่ก่อน ขงสวนจึงว่า ท่านอย่าเอาความแต่ก่อนมาพูดกลบลบความของตัวเลย ที่เราจะไว้มือท่านหามิได้ ว่าแล้วขงสวนขับม้าจะเข้ารบกับเกียงจูแหย อังกิ๋มเห็นก็ขับม้าออกรบกับขงสวน ขงสวนรบพลางจึงว่า ท่านหาสัตย์ซื่อต่อแผ่นดินไม่ เราจะประหารชีวิตท่านเสียวันนี้ อังกิ๋มก็ตอบว่า ท่านเป็นคนหาปัญญามิได้ แต่หัวเมืองแปดร้อยเมืองก็มาคำนับพระเจ้าบูอ๋องสิ้น ซึ่งจะมาต่อสู้ บัดนี้ เหมือนเนื้อจะมาสู้กับเสือ ทหารทั้งสองบฝ่ายรบกันเป็นสามารถ อังกิ๋มก็โบกธงสัญญาให้ทหารล้อมเข้า แล้วไว้เป็นช่องประตูแห่งหนึ่งมีทหารถือธงยืนประจำอยู่ อังกิ๋มชักม้าหนีเข้าแอบธงคอยทีอยู่ ขงสวนเห็นเชิงอังกิ๋มทำดังนั้นก็หัวเราะเยาะ แล้วก็ใช้รัศมีไปหุ้มหอบเอาตัวอังกิ๋มพาเข้าไปไว้ในค่าย อังกิ๋มต้องรัศมีก็สิ้นสมประดีเหมือนคนนอนหลับ ขงสวนก็ขับม้าเข้ารบเกียงจูแหย เกียงจูแหยก็ขับซูปุดเสียงออกต่อสู้ เตงจิวก๋งก็จับม้าเข้าช่วยเกียงจูแหย รบกันได้สิบหกเพลง เกียงจูแหยก็ชักอาวุธชื่อว่า ตาสินเปียน รูปเหมือนพระขรรค์ อาวุธอันนี้มีฤทธิ์ ถึงข้าศึกจะซ่อนเร้นอยู่ถึงไหน ก็ไปฆ่าเสียได้ถึงนั่น เกียงจูแหยขว้างไปจะฆ่าขงสวน ขงสวนก็ใช้รัศมีไปยุดอาวุธนั้นไว้ มิได้แพ้ชนะกัน ต่างพาทหารกลับเข้าค่าย ขงสวนให้เอาตัวอังกิ๋มไปจำไว้ เกียงจูแหยเสียอังกิ๋ม ทหารเอก และอาวุธวิเศษ เสียใจนัก ครั้นเวลากลางคืน ก็จัดให้อึ้งเทียนฮัวเป็นปีกซ้าย หลุยจินจู๊เป็นปีกขวา โลเฉียเป็นแม่ทัพ จะไปปล้นค่ายขงสวน ขณะนั้น มีลมพัดมาหมู่หนึ่ง ธงที่ปักไว้ในค่ายขงสวนต้องลมก็สะบัดม้วนเข้าเป็นนิมิต ขงสวนเห็นประหลาด จึงจับยามดูก็รู้ว่า เวลาดึกวันนี้ เกียงจูแหยจะให้ปล้นค่าย ขงสวนจึงสั่งให้โกแกเหลงคุมทหารกองหนึ่งรักษาประตูค่ายข้างซ้าย ให้จิวสินคุมทหารรักษาประตูค่ายข้างขวากองหนึ่ง ตัวขงสวนนั้นคุมทหารคอยรบอยู่ประตูกลาง

ฝ่ายเกียงจูแหย ครั้นเวลาสองยามได้ฤกษ์ ก็ให้จุดประทัดสัญญา อึ้งเทียนฮัว หลุยจินจู๊ โลเฉีย ก็ยกออกจากค่ายพร้อมกันทั้งสามกอง ไปถึงหน้าค่ายขงสวน โกแกเหลงก็ขับม้าออกมารบกับอึ้งเทียนฮัวข้างด้านซ้าย จิวสินขับม้าออกมารบกับหลุยจินจู๊ข้างด้ายขวา ขงสวนก็ออกกลางรบกับโลเฉีย หลุยจินจู๊กับจิวสินต่อสู้กันได้หลายเพลง หลุยจินจู๊ได้ทีเอากระบองตีถูกจิวสินตกม้าตาย แล้วชักม้ามาช่วยโลเฉียรบกับขงสวน ขงสวนก็ให้รัศมีไปหุ้มหอบเอาโลเฉียกับหลุยจินจู๊มาได้ โกแกเหลงรบกับอึ้งเทียนฮัวนั้น เทถุงวิเศษออกเป็นตัวผึ้งนับด้วยร้อยด้วยพันไล่ต่อยอึ้งเทียนฮัวและสิงโตที่อึ้งเทียนฮัวขี่ สิงโตเจ็บก็สะดุ้งโดดหนี อึ้งเทียนฮัวพลัดตกจากหลังสิงโต โกแกเหลงก็เอาทวนแทงอึ้งเทียนฮัวตาย แล้วตัดเอาศีรษะมาให้ขงสวน ขงสวนก็ให้เอาไปเสียบประจานไว้ประตูค่าย แล้วให้เอาโลเฉียกับหลุยจินจู๊ไปจำไว้ ทหารเมืองไซรกีซึ่งแตกหนีไปถึงค่ายก็แจ้งความแก่เกียงจูแหยว่า โลเฉียกับหลุยจินจู๊ออกไปรบ ขงสวนจับไปได้ อึ้งเทียนฮัวตายในที่รบ ข้าศึกตัดศีรษะไปเสียบไว้ประตูค่าย เกียงจูแหยแจ้งดังนั้นก็เสียใจนัก นิ่งตะลึงไป อึ้งปวยฮอครั้นรู้ว่า อึ้งเทียนฮัว ลูกชาย ตาย ก็ร้องไห้ หลำจงกวดเห็นอึ้งปวยฮอร้องไห้จึงว่า ท่านร้องไห้ทำไม ไม่ต้องการ โกแกเหลงฆ่าอึ้งเทียนฮัวตายก็เพราะมีตัวผึ้งวิเศษปล่อยให้ต่อย อึ้งเทียนฮัวจึงเสียที ข้าพเจ้าจะบอกอุบายให้ท่านแก้แค้นโกแกเหลง ยังมีทหารคนหนึ่งชื่อ ซ่องเฮกเฮ้า อยู่เมืองเชาจิวฮู้ เลี้ยงนกอันวิเศษไว้ในลูกน้ำเต้า ถ้าปล่อยออกเมื่อใด ก็บังเกิดเป็นนกขึ้นเป็นอันมาก นกนั้นอาจมาช่วยจิกผึ้ง ก็จะแก้แค้นโกแกเหลงได้ อึ้งปวยฮอได้ฟังก็ดีใจ จึงไปลาเกียงจูแหยว่า จะไปหาซ่องเฮกเฮ้าเมืองเชาจิวฮู้ แล้วมาขึ้นโคห้าสีเดินทางไปวันหนึ่งถึงภูเขาฮุยห่องสัน ได้ยินเสียงปี่กลองม้าล่ออื้ออึงอยู่ที่เชิงเขา จึงขับโคขึ้นภูเขา แลดูก็เห็นทหารสามคน คนหนึ่งถือตรี คนหนึ่งคราดเหล็ก คนหนึ่งถือกระบอง ขี่ม้ารำเพลงอาวุธรบกันเล่น อึ้งปวยฮอก็ชักโคลงมาที่สนามเล่น ทหารที่ถือคราดเหล็กนั้นรู้จักอึ้งปวยฮอมาแต่ก่อน ครั้นแลเห็นอึ้งปวยฮอ ร้องถามว่า ท่านชื่อ อึ้งปวยฮอ หรือ อึ้งปวยฮอก็บอกว่า เราชื่อ อึ้งปวยฮอ ทหารสามคนก็ลงจากม้ามาคำนับอึ้งปวยฮอ อึ้งปวยฮอจึงว่า ท่านทั้งสามคนชื่อไร ทหารที่ถือตรีก็บอกว่า ข้าพเจ้าชื่อ บุนเผง ที่ถือกระบองบอกว่า ข้าพเจ้าชื่อ ซุยเอ๋ง ที่ถือคราดเหล็กบอกว่า ข้าพเจ้าชื่อ เจียวหยง อึ้งปวยฮอจึงถามว่า เหตุไรท่านจึงมาเล่นรบกันอยู่ฉะนี้ ทหารสามคนจึงบอกว่า ข้าพเจ้าไม่มีอะไรจะเล่น ก็เล่นรบกันตามสบาย แล้วก็เชิญอึ้งปวยฮอขึ้นไปบนเขาที่สำนัก แต่งโต๊ะเลี้ยงอึ้งปวยฮอ แล้วถามว่า ท่านจะไปไหน อึ้งปวยฮอจึงบอกว่า จะไปหาซ่องเฮกเฮ้าวานมาช่วยรบกับขงสวน บุนเผงจึงว่า ซึ่งท่านจะไปหาซ่องเฮกเฮ้า ณ เมืองเชาจิวฮู้นั้นเห็นจะไม่สมคิด เพราะว่า ซ่องเฮกเฮ้าจัดแจงทหารจะยกไปตีเมืองจิวโก๋ ท่านจะเชิญเขามาช่วยธุระท่าน การเขาจะเสียไป เห็นจะไม่มา ซุยเอ๋งจึงว่า ซ่องเฮกเฮ้าจัดทัพจะไปตีเมืองจิวโก๋ก็จริง แต่จะไปตั้งอยู่ ณ ด่านเต๋งต๋องก๋วนก่อน คอยท่าพระเจ้าบูอ๋องยกมา จึงจะออกบรรจบทัพเมืองไซรกี ท่านก็เป็นทหารพระเจ้าบูอ๋อง ไปหาแล้วเห็นจะขัดมิได้ วันนี้ ขอเชิญท่านนอนค้างอยู่กับข้าพเจ้าคืนหนึ่งก่อนเถิด พรุ่งนี้ ข้าพเจ้าทั้งสามคนจึงจะพาท่านไป ครั้นรุ่งเช้า ทหารทั้งสามคนก็พาอึ้งปวยฮอไปถึงเมืองเชาจิวฮู้ตรงไปบ้านซ่องเฮกเฮ้า จึงให้อึ้งปวยฮออยู่แต่นอก ทั้งสามคนก็เข้าไปหาซ่องเฮกเฮ้า จึงบอกว่า อึ้งปวยฮอ ทหารเอกในพระเจ้าบูอ๋อง จะมาหาท่าน บัดนี้ ยังพักอยู่นอก ซ่องเฮกเฮ้าได้ฟังก็ดีใจ จึงให้คนไปเชิญอึ้งปวยฮอเข้ามาในตึก แล้วซ่องเฮกเฮ้ากับอึ้งปวยฮอถ้อยทีคำนับกัน ซ่องเฮกเฮ้าจึงถามอึ้งปวยฮอว่า ท่านมาหาข้าพเจ้าด้วยธุระสิ่งใด อึ้งปวยฮอก็เล่าความหลังให้ซ่องเฮกเฮ้าฟัง คิดถึงลูกขึ้นมา ทั้งรักทั้งแค้น เล่าไปมิได้ ก็นั่งกัดฟันอยู่ บุนเผงเห็นดังนั้นจึงว่า อึ้งปวยฮอมาหาท่านครั้งนี้ ด้วยลูกชายออกรบกับโกแกเหลง โกแกเหลงปล่อยผึ้งให้ต่อยสิงโตที่อึ้งเทียนฮัวขี่ สิงโตดิ้นโดดหนี อึ้งปวยฮอตกสิงโตลง โกแหเหลงแทงอึ้งเทียนฮัวตาย อึ้งปวยฮอผู้บิดาจะคิดแก้แค้น รู้ว่า ท่านมีนกอันวิเศษอาจบินไล่จิกผึ้งโกแกเหลงได้ จึงอุตส่าห์มา จะให้ท่านช่วยธุระแก้แค้นโกแกเหลงให้จงได้ ซ่องเฮกเฮ้าได้ฟังก็นิ่งถอนใจใหญ่ ซุนเอ๋งถามว่า ท่านจะรับธุระได้หรือมิได้ ซ่องเฮกเฮ้านิ่งอยู่ ซุยเอ๋งจึงถามว่า ท่านไม่รับธุระอึ้งปวยฮอนั้น ท่านคิดจะไปตั้งอยู่ด่านเต๋งต๋องก๋วนคอยบรรจบกับทัพพระเจ้าบูอ๋องไปตีเมืองจิวโก๋หรือ ถ้าคิดดังนั้น ก็เห็นจะขัด ด้วยบัดนี้ ทัพพระเจ้าบูอ๋องยกมาหาทันถึงด่านเต๋งต๋องก๋วนไม่ กองทัพเมืองจิวโก๋ยกมาสกัดไว้ ณ ป่ากิมเก๋เฉีย ท่านคิดจะไปตั้งด่านเต๋งต๋องก๋วน เห็นจะไปไม่ได้ ถ้ายกไปบรรจบทัพพระเจ้าบูอ๋องที่ป่ากิมเก๋เฉียเห็นจะได้ ซ่องเฮกเฮ้าได้ฟังก็เห็นด้วย จึงว่า ถ้ากระนั้น เราจะรับธุระอึ้งปวยฮอได้ ด้วยเรานี้ตั้งใจจะสามิภักดิ์จะยกทัพไปช่วยพระเจ้าบูอ๋องตีเมืองจิวโก๋ ธุระของอึ้งปวยฮอก็เป็นราชการของพระเจ้าบูอ๋องเหมือนกัน พรุ่งนี้ เราจะไปกับท่านเฝ้าพระเจ้าบูอ๋องฟังข้อราชการก่อน เมื่อจะผันแปรประการใด เราจะกลับมาจัดแจงทหารยกไปช่วยต่อภายหลัง ครั้นเวลารุ่งเช้า ซ่องเฮกเฮ้าก็สั่งซ่องเอ๋งหลวน ลูกชาย ให้อยู่คุมทหารไว้ให้พร้อม แล้วซ่องเฮกเฮ้า กับอึ้งปวยฮอ และทหารทั้งสาม ก็พากันมาตำบลป่ากิมเก๋เฉีย เข้าไปหาเกียงจูแหยทั้งห้าคน เกียงจูแหยจึงถามอึ้งปวยฮอว่า ท่านไปสำเร็จการหรือไม่ อึ้งปวยฮอจึงบอกความว่า ข้าพเจ้าไปหาซ่องเฮกเฮ้า ซ่องเฮกเฮ้าก็ได้จัดทหารไว้คิดจะมาช่วยท่านทำศึกอยู่ก่อนแล้ว ครั้นข้าพเจ้าไปบอกธุระจะให้มาช่วย รู้ว่า เป็นข้อราชการของพระเจ้าบูอ๋อง ก็ดีใจ จึงมากับข้าพเจ้าแต่ตัว จะฟังราชการก่อน แล้วจึงจะกลับไปพาทหารมาภายหลัง อันบุนเผง ซุยเอ๋ง เจียวหยง สามคนนี้ ข้าพเจ้าไปพบกลางทาง รู้ว่า ท่านจะยกไปตีเมืองจิวโก๋ก็ดีใจ สมัครมาจะช่วยท่านทำศึก เกียงจูแหยได้ฟังก็มีความยินดีนัก จึงปราศรัยซ่องเฮกเฮ้าและทหารทั้งสามนายว่า เราจะยกทัพไปตีเมืองจิวโก๋ บัดนี้ ขงสวน ทหารพระเจ้าติวอ๋อง ยกมารบต้านทานทัพเราไว้เป็นสามารถ จะหักทัพขงสวนไปยังไม่ได้ ท่านทั้งสี่มีใจสามิภักดิ์มาช่วยเราทำการศึก ขอบใจนัก ว่าแล้วก็พาซ่องเฮกเฮ้ากับทหารทั้งสามคนเข้าไปเฝ้าพระเจ้าบูอ๋อง เกียงจูแหยจึงกราบทูลถวายรายชื่อทหารทั้งสี่คนว่า ทหารทั้งสี่นี้มีใจจงรักสมัครมาจะอาสาทำราชการสงครามครั้งนี้ พระเจ้าบูอ๋องได้ทรงฟังก็ดีพระทัย จึงตรัสว่า เรายกทัพมาจะไปตีเมืองจิวโก๋ก็หาสะดวกไม่ ข้าศึกซึ่งมาต้านทัพเราไว้เป็นสามารถ เห็นจะเอาชัยชนะยังมิได้ คิดจะยกกลับไปเมืองไซรกีก่อน ต่อไปท่วงทีจึงจะมาตีเมืองจิวโก๋ให้จงได้ ซ่องเฮกเฮ้าได้ฟังดังนั้นจึงกราบทูลว่า กลัวอะไรกับขงสวน ขงสวนนี้กรรมจะถึงที่ตายแล้ว จึงเผอิญให้มารบ พระองค์อย่าวิตกเลย ข้าพระองค์จะอาสาจับขงสวนฆ่าเสียให้ได้ พระเจ้าบูอ๋องได้ทรงฟังก็ดีพระทัย จึงตรัสเรียกซ่องเฮกเฮ้ามากินเลี้ยงร่วมโต๊ะกับพระองค์ เสวยแล้ว เกียงจูแหยก็คำนับลาพาซ่องเฮกเฮ้ามาปรึกษาราชการกัน ครั้นเวลาเช้า ก็จัดให้ซ่องเฮกเฮ้าขี่สัตว์ชื่อ หวยกั๋นกี๋มเจ๋งสิ้ว ตัวเหมือนหมี ลูกตาดังเปลวไฟ ให้บุนเผง ซุยเอ๋ง เจียวหยง ขี่ม้าออกไปยืนอยู่หน้าค่าย ร้องท้าทายขงสวน โกแกเหลง ออกมารบกัน ขงสวน โกแกเหลง ขี่ม้ายกออกไปรบ ทหารทั้งสี่ต่อสู้โกแกเหลงเป็นสามารถ




ตอน ๖๘ ขึ้น ตอน ๗๐