ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร/เอกสาร 18

องค์สมเด็จพระนโรดมกับพระหริราชดนัย
ถวายรายงาน เรื่อง ฝรั่งรบญวน และเขมรรบญวน รบแขกจาม

องค์พระนโรดมพรหมบริรักษารามมหาอุปราช พระหริราชดนัยไกรแก้วฟ้า ขอบอกปรินิบัติมายังพณฯ ลูกขุน ณ ศาลา ด้วยข้าราชการฝรั่งรบกับญวนนั้น คนใช้จีนที่แต่งเป็นลูกค้าให้ไปด้วยประจำ . . . (อ่านไม่ออก) ญวนพูดบอกว่า แม่ทัพฝรั่งที่ไปตีเมืองจีนนั้นกลับมาจากเมืองจีนแล้วเลยไปเมืองคืนว่า ไปเอากระสุนดินดำและเสบียง กำหนดจะกลับมาพร้อม . . . (อ่านไม่ออก) เมืองไซ่ง่อน เมืองสมิถอ ณ ข้างแรม เดือนยี่ ปีวอก โทศกนี้ แลญวนก็ว่า ให้จัดแจงค่ายเมืองสมิภอให้แล้วในเดือนอ้าย ข้างแรม ปีวอก โทศกนี้ คอยรับรบพุ่งกับฝรั่ง แล้วว่า ฝรั่งใช้กำปั่นไฟ ๒ ลำเข้ามาทอดอยู่ปากน้ำเมืองสมิถอ มีเรือลองบดฝรั่ง ๓ ลำเข้ามาถามญวนที่เมืองสมิถอว่า ญวนจัดแจงค่ายแล้วหรือยัง ฝรั่งจะยกกองทัพเข้ามาตี ญวนบอกฝรั่งว่า จัดแจงยังไม่ทันแล้วเบ็ดเสร็จ ฝรั่งว่า ถ้าญวนจัดแจงแล้ววันใด ฝรั่งจะยกกองทัพเข้ามายึดเอาเมืองสมิถอ ถ้าฝรั่งยึดเข้าไปได้ ฝรั่งจะถอยทัพกลับไปเมืองคืน แล้วได้ยินว่า มีหนังสือองบาง แม่ทัพใหญ่เมืองไซ่ง่อน บังคับมา องหุงยอง เมืองโจดก ก็ว่า อย่าให้รบพุ่งกับพระยาราชาเศรษฐี แม่กองเมืองตรังไตรตราด ให้ถอยกองทัพมาให้อยู่แต่ด่านทางลาดตระเวนรักษาค่าย อันหนึ่งว่า องญวนบังคับด่านทางน้ำบันเลตโคนเปนต่อแดนกับด่านเขมร ว่า ตั้งแต่ ณ วัน ค่ำ ปีวอก โทศกนี้ต่อไป ให้ห้ามปราบกักเรือลูกค้าไม่ให้บรรทุกสินค้าทุกอย่างขึ้นมาขายเมืองเขมร ถ้าด่านทางน้ำให้ลูกค้าบรรทุกสินค้าเลตลอดขึ้นมาให้เมืองเขมรได้ จะเอาโทษผิด แลตั้งเท้าจีนใหญ่ไปสืบนี้ขึ้นมาก่อนวันหนึ่ง นายด่านญวนจึงปล่อยให้ขึ้นมา และองหุงยอง เจ้าเมืองโจดก มันว่า คอยจัดแจงตั้งด่านลาดตระเวนแล้ว จะลงไปรบกับฝรั่งช่วยเมืองสมิถอ สืบราชการฝรั่งรบกับญวน สืบครั้งหนึ่งได้ความดังนี้ คนใช้อีกคนหนึ่งสืบได้ความดังนั้น จะกำหนดไถ่ถามพินิจ คนใช้ก็ว่า รู้โดยจีนญวนพูดบอก เมื่อพี่ข้าพระพุทธเจ้ายังไม่ถึงแก่พิราลัย คนใช้สืบรู้ความมาครั้งหนึ่ง ไม่อาจที่จะบอก คนใช้สืบรู้ความมาสองครั้งสามครั้ง ข้อความถูกกันคล้ายคลึงกันบ้าง จึงบอกปรนิบัติเข้ามากระนี้ มีพระบรมราชโองการอนุญาตบังคับไปถึงบิดาข้าพระพุทธเจ้าว่า การเกิดขึ้นได้รู้ได้ยินเมื่อใด ให้บอกปรนิบัติเข้ามาให้เนือง ๆ แม้นเหลือเกินประการใด ก็ทรงพระมหากรุณาเมตตาโปรด ครั้นภายหลัง ข้อราชการผันแปรประการใด จึงค่อยบอกปรนิบัติเข้ามาอีก คนใช้สืบรู้ญวนบอกดังนี้ ปรนิบัติเข้ามาเท็จจริงประการใด ขอทรงพระเมตตาโปรดต่อไป คนใช้ซึ่งจะให้ลงไปสืบข้อราชการฝรั่งรบกับญวน จะไปมายากนัก เขมรจะไปไม่ได้ แต่จีนลอบลักจริง ๆ จึงไปมาได้ สืบข้อราชการไม่ได้ความผันแปรประการใด จึงจะบอกเข้ามาภายหลังอีก แล้วข้าพระพุทธเจ้าได้จัดให้พระยายมราชเป็นแม่กองเมืองตรังข้างเหนือเปลี่ยนพระยาตภาธิบดีตั้งทัพต่อกับทัพญวนคลองขุดช่วยเมืองตรังไตรตราดแต่ ณ วัน ๑๓ ค่ำ ปีวอก โทศก พระยายมราชว่า ได้ใช้คนใช้ไปหยั่งน้ำตามทางแต่เมืองตรังข้างเหนือลงไปชิดค่ายญวน โคกตานบ โคกรังขบ ค่ายโค้ปยาว ตามงั่งคลองขุดนั้น น้ำตามทางเมืองไปลึกสองศอกบ้าง สามศอกบ้าง จนชิดค่ายญวน แต่เป็นน้ำบึง น้ำทุ่ง น้ำทรุดลงทุกวัน ๆ เมืองตรังไตรตราดนั้น เมื่อ ณ วัน ๑๐ ๑๒ ค่ำ ปีวอก โทศก กองทัพอ้ายญวนอ้ายแขกยกกองทัพขึ้นบกเดินลัดป่าอ้อมตามบึงหลังกองทัพพระยาราชาเศรษฐี พระยาพิศณุโลก ลอบไปรบเอาเรือนครัวบ้านโปกระเมียด บ้านพังสำเรียงบ บ้านตาฟูง ครัวเขมรสะดุ้นสะเทือนตกใจ พาบุตรภรรยาเข้าซ่อนในป่าทั้งสิ้น กองทัพญวน กองทัพแขก นอกอยู่ที่นั้นจนรุ่ง ๆ ขึ้น ณ วัน ๑๑ ๑๒ ปีวอก โทศก พระยาราชาเศรษฐี พระยาพิศณุโลก ยกกองทัพไปรบกับอ้ายญวนอ้ายแขกซึ่งขึ้นมาเผาเรือนบ้านข้างด่านนี้ ได้ยินเสียงปืนมาถึงกองทัพเมืองตรังข้างเหนือได้ยกกองทัพไปยังค่ายอ้ายญวนอ้ายแขก โคกตานบ โคกรังขบ ตามฝั่งคลองขุดนั้น กองทัพอ้ายญวนอ้ายแขกซึ่งยกไปรบกับพระยาราชาเศรษฐี พระยาพิศณุโลก ก็ถอยมายังค่ายโคกตานบ โคกรังขบ คืน ครั้น ณ วัน ๑๐ ฯ  ค่ำ ปีวอก โทศก กองทัพเรืออ้ายญวน เรือหวย เรือแง่โอ เรือโกลน ร้อยลำเศษ พลญวนพลแขกประมาณ ๑,๐๐๐ เศษ ยกไปขึ้นบกรบกองทัพพระยาศรีสงครามโสที พระยาราชาเศรษฐี ใช้ให้ไปรักษาค่ายทางพรมชวา พระยาศรีสงครามโสที นายทัพนายกอง ได้สู้รบกับอ้ายญวนอ้ายแขก เขมรยิงถูกอ้ายญวนอ้ายแขกป่วยพิการตายเป็นอันมาก กองทัพอ้ายญวนอ้ายแขกจะยกขึ้นมาไม่ได้ ถึงเวลาค่ำ ณ วัน ๑๑ ฯ  ค่ำ ปีวอก โทศก อ้ายญวนอ้ายแขกยกกองทัพเป็นสองทาง ทางเรือทางหนึ่ง ยกตามบึงข้างตะวันออกบ้าง ทางบก ยกข้างเหนือบ้าง เพลาค่ำยามหนึ่ง เข้าล้อมค่าย พระยาศรีสงครามโสที นายทัพนายกอง ต่อสู้รบกับกองทัพอ้ายญวนอ้ายแขกทางบกนานประมาณยามหนึ่ง กองทัพเรืออ้ายญวนอ้ายแขกเข้ามาข้างตะวันออกถึงตีนค่ายข้างตะวันตก เข้าล้อมรอบกองทัพเขมร ไม่สู้รบฆ่าฟันอ้ายญวนอ้ายแขก ถึงพิการบาดแผลตายเป็นอันมาก อ้ายญวนยิ่งบุกรุกเข้ามา เขมรสู้รบกับอยู่ในค่ายไม่ได้ พระศรีสงครามโสที นายทัพนายกอง รบทำลายค่ายออกมา กองทัพเขมรกับอ้ายญวนอ้ายแขกปะปันกันยิ่งขึ้น ทิ่มแทงฆ่าฟันกันตลุมบอนทั้งในค่ายและนอกค่าย กองทัพอ้ายญวนตายมาก ข้างเขมรตายน้อย กองทัพเขมรซึ่งออกมารอด อ้ายญวนเอาค่ายนั้นได้ ครั้นรุ่งขึ้น ณ วัน ๑๒ ฯ  ค่ำ ปีวอก โทศก กองทัพพระยาราชาเศรษฐี พระยาพิศณุโลก กับนายทัพนายกอง ยกไปรบชิงเอาค่ายนั้นได้คืน กองทัพอ้ายญวนอ้ายแขกถอยออกจากค่ายลงเรือกลับไปเปียมพระสตึงบ้าง กลับไปพนมสว่างบ้าง อยู่แต่ทัพอ้ายญวนอ้ายแขกซึ่งขึ้นไปทำค่ายที่พนมตันลอง กำพงตะโก ต่อกับกองทัพเขมรเมืองตรังไตรตราดกับกองทัพอ้ายญวนครบ ค่ายตามคลองขุดก็คงอยู่เหมือนแต่ก่อน เมืองตรังไตรตราด พระยาราชาเศรษฐี กับพระยาพิศณุโลก กับนายทัพนายกอง ก็คงอยู่รักษาเหมือนแต่ก่อน และทางลำน้ำทั้งสองลงไปต่อแดนกับญวน กับเมืองทโปงขมุม เมืองบาพนม ซึ่งต่อแดนกับญวนนั้น ข้าพระพุทธเจ้าได้แต่งขุนนางมุขมนตรีให้ไปเป็นนายทัพนายกองเกณฑ์ไพร่พลรักษาค่ายตั้งด่านลาดตระเวนระมัดระวังรักษาทุกวันมิได้เพิกเฉย ควรมิควรสุดแล้วแต่จะโปรด ขอบอกปรนิบัติมา ณ วัน ๑๓ ฯ  ค่ำ[1] จุลศักราช ๑๒๒๒ ปีวอก โท

เลขที่ ๑๙*
ใบบอก เมืองอุดงมีไชย ร. ๔ จ.ศ. ๑๒๒๒ และเขียนเป็นภาษาไทย

  1. ตรงกับวันที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๐๓