ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร/เอกสาร 6

ศุภอักษรองค์สมเด็จพระหริรักษ์
ถวายรายงานเรื่องรบญวนแลขอกำปั่นจากกรุงเทพฯ

ศุภอักษรองค์พระหริรักษรามมหาอิศราธิบดีขอปฏิบัติมายัง พณ ลูกขุน ณ ศาลาให้ทราบ ด้วยครั้งด่อน ข้าพระพุทธเจ้ามีศุภอักษรให้พระณรงค์เรืองเดช ยกบัตรเทืองพระตะบอง นำเข้ามาว่า เมืองป่าสัก เมืองพระตะพัง เมืองอุมอ เมืองติกเขมา ทั้ง ๔ เมืองนี้ ได้ยินข่าวเอิกเกริกด้วย แลย่อมเกณฑ์กองทัพ ๕๐๐ คนไปรักษาเมืองทั้ง ๔ นี้ เหมือนยังมีศุภอักษรเข้ามาครั้งก่อนแล้ว ครั้น ณ วัน ๗ ค่ำ ปีวอก โทศก หลวงศรีเสนาเชิญศุภอักษรไปถึงเมืองอุดงมีไชย หลวงศรีเสนาแจ้งความกับข้าพระพุทธเจ้าว่า ด้วยทรงทราบเรื่องความว่า เขมรกับญวรวิวาทกันประการใด ๆ ให้ข้าพระพุทธเจ้าบอกหลวงศรีเสนาให้แจ้งนั้น ข้าพระพุทธเจ้าได้บอกทุกประการ เนื้อความเขมรนั้น ณ วัน ๑๒ ฯ  ค่ำ ปีวอก โทศก พระยาธรรม พระยาศุข พระยาสวด พระยาเพ็ชรพิชัย นายทัพนายกองเมืองป่าสัก ใช้ให้หมื่นนอง หมื่นโสม นายไน นายรด นายสู ถือหนังสือมาถึงสมเด็จฟ้าทะละหะให้บอกข้าพระพุทธเจ้าว่า ได้ยกกองทัพไป ไปไล่ไปฟันแทงญวน กับพระยาธิวงศา เจ้าเมืองป่าสัก พาบุตรภรรยาหนีไปพึ่งญวนเมืองโจดก แล้วตั้งทัพอยู่รักษาเมืองป่าสัก ไม่มีเครื่องศัสตราวุธรักษาเมืองป่าสัก ขอปืนกระสุนดินดำกับนายทัพนายกองไปช่วยเมืองป่าสักนั้น ข้าพระพุทธเจ้าคิดเห็นว่า เมืองป่าสัก เมืองตรังไตรตราด ก็เป็นเขตแดนเมืองเขมร แต่ก่อนญวนคุมเอา บัดนี้ เขมรกำเริบ ฆ่าฟันญวน แล้วขอปืนกระสุนดินดำไปรบกับญวน ข้าพระพุทธเจ้าจัดให้พระยาโสภาธิบดี พระยาณรงค์ธิบดี คุมไพร่ ๑๐๐ คนลงไปช่วยรักษาเมืองป่าสัก ให้พระยาราชาเศรษฐี เจ้าเมืองเปียม พระยาพิศณุโลก เจ้าเมืองตรัง คุมไพร่กองทัพข้ามคลองขุดไปตั้งอยู่บ้านสลา แขวงเมืองตรังไตรตราด ฟากตะวันออก ให้พระยาจักรี พระยาณรงค์เสนา พระยาธนบดี ยกไปตั้งอยู่บ้านไพรกระดอด แขวงเมืองบาพนม พระยาธรมาเดโช เจ้าเมืองบาพนม พระยาฦๅจักรี เจ้าเมืองลำดวน พระยาไชยโยสงคราม เจ้าเมืองสวายพาบ ยกกองทัพไปตีได้ค่ายญวนเปียมพเตีย หนึ่ง เจียนสิว ๑ โดนไทย ๑ แพรกตะกู แห่ง ๑ ทางแต่แพรกตะกูไปเมืองไซ่ง่อน ทางวันหนึ่ง ไม่ทันค่ำ แต่เมืองป่าสักขอปืนกระสุนดินดำนั้น ข้าพระพุทธเจ้าได้จัดปืนกระสุนดินดำไปส่งทางบก เป็นปืนคาบศิลา ๑๕๐ บอก ดินดำหนัก / กระสุน ๒,๐๐๐ กระสุน แต่ทางที่จะไปเมืองป่าสักนั้น ทางลำบาก เป็นหลุมเป็นโคลน แล้วมีคลองขวาง แต่ใต้เมืองโจดกตลอดมาจดทะเลน้ำเค็มตะวันตก มีกองทัพญวนตั้งค่ายรักษาทางไว้ เมืองกระมวนสอกับเมืองป่าสักจะไปมาหากันทุกวันนี้ ก็ต้องลอบลักไปมาจึงจะได้ ข้าพระพุทธเจ้าได้หาจ้างกำปั่นลูกค้าที่เมืองกำปอด จะบรรทุกเครื่องศัสตราวุธไปทางน้ำก็ไม่ได้ ถ้าโปรดเกล้าฯ ได้กำปั่นบรรทุกปืนใหญ่ ปืนน้อย ปืนคาบศิลา กระสุนดินดำ ออกมาจากกรุงเทพฯ ถึงเมืองกำปอด ข้าพระพุทธเจ้าให้พระยาเขมรเมืองอุดงมีไชยลงมานำทางไปส่งจนถึงปากน้ำแขวงเมืองป่าสัก แล้วขอให้กำปั่นทอดรออยู่ปากน้ำเมืองป่าสัก แห่งหนึ่ง เมืองกระมวนสอ แห่งหนึ่ง เขมรเมืองป่าสัก เมืองกระมวนสอ เมืองตรังไตรตราด ซึ่งกระทำกับญวน ก็จะได้มีความอุ่นใจ ที่เมืองพระตะพังเล่า ถ้ารู้ว่า มีกำปั่นไปทอดอยู่ปากน้ำเมืองป่าสักแล้ว จะดีใจ ตั้งใจต่อสู้รบกับญวนเต็มมือ คนใช้ที่เมืองป่าสักได้มาหาข้าพระพุทธเจ้า ได้ถามถึงเมืองพระตะพัง แจ้งว่า พวกเขมรจีนเมืองพระตะพังชักชวนกันเป็นพวกเป็นกอง จะคิดอ่านกำเริบขึ้นสู้รบกับญวน จะกำเริบแล้วหรือยังหาทราบความชัดไม่ ถ้ามีกำปั่นทอดอยู่ปากน้ำเปียม ป่าสัก แล้วจะเลื่องลือไปถึงญวนว่า มีกำปั่นกรุงเทพฯ มาช่วยเมืองป่าสัก เมืองพระตะพัง เมืองกระมวนสอ เมืองตรังไตรตราด ประทานเครื่องศัสตราวุธกองทัพเขมร ญวนก็จะพะว้าพะวัง เขมรก็จะกระทำกับญวนได้ถนัด ข้อราชการเขมรกับญวนนอกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้แจ้งความมากับหลวงศรีเสนาถี่ถ้วนทุกประการแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าได้คัดสำเนาต้นหนังสือพระยาณรงค์เสนากับนายทัพนายกอง ฉบับหนึ่ง หนังสือพระยาฦๅจักรี ฉบับหนึ่ง รวมกัน ๒ ฉบับ เรื่อง ความซึ่งตีได้ค่ายญวน สำเนาหนังสือพระยาธรมาเดโช ฉบับหนึ่ง คำคนใช้ซึ่งให้ไปสืบราชการญวน ๒ ฉบับ รวมกัน ๔ ฉบับ ให้หลวงศรีเสนานำเข้ามา.

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

ปรนนิบัติมา ณ วัน ค่ำ ปีวอกนักษัตร โท[1]


  1. ตรงกับวันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๓