นิทานที่ ๒๓ เรื่อง หมาจิ้งจอกกับเม่น

หมาจิ้งจอกตัวหนึ่งกำลังระหายน้ำ วิ่งหอบมาแต่ไกล มาเห็นลำธารขวางหน้าอยู่ ไม่ทันพิจารณาว่า น้ำกำลังไหลเชี่ยว ก็กระจนลงไปจะกินน้ำ กระแสน้ำในลำธารนั้นจึงพัดเอาหมาจิ้งจอกลอยไปติดอยู่ในซอกหินแห่งหนึ่งซึ่งเป็นตลิ่งสูงชัน หมาจะปีนขึ้นไปไม่ได้ ก็เกาะก้อนหินนิ่งอยู่แต่พอไม่ให้จมน้ำตาย ฝ่ายตัวเหลือฝูงหนึ่งได้กลิ่นหมาจิ้งจอก ก็มาตอมกัดกินเลือดกลุ้มอยู่ ในขณะนั้น มีเม่นตัวหนึ่งลงมาจากป่าจะกินน้ำ พอแลเห็นหมาจิ้งจอกก็นึกสมเพชจึงร้องไปว่า "ตัวเหลือบตอมกัดท่านอยู่ออกเป็นกลุ่ม ทำไมจึงนิ่งทนอยู่ได้ เราจะลงไปช่วยปัดให้ จะเอาหรือไม่" หมาจิ้งจอกได้ฟังก็ตอบไปแก่เม่นว่า "อย่าเลยท่านเอ๋ย เหลือบฝูงนี้มันกินเลือดเราอิ่มทุกตัวแล้ว ถึงมันจะตอมเราต่อไป มันก็เป็นแต่ตอมอยู่เปล่า ๆ จะกัดกินเลือดเราอีกมิได้ ถ้าท่านไล่เหลือบฝูงนี้ไปเสีย เหลือบฝูงอื่นที่ยังหิวก็จะพากันมากัดกินเลือดเราแทนเหลือบฝูงนี้อีก"

***

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถึงเราได้รับความทุกข์อยู่บ้างเพียงใด การที่จะคิดหลีกเลี่ยงความทุกข์นั้นควรพิจารณาเสียก่อน บางทีหลีกความทุกข์น้อย จะถูกความทุกข์ใหญ่ อย่าให้เป็นได้เช่นนั้น