ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 61
ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๖๑
พิมพ์แจกในงานฌาปนกิจศพ
นางชื่น ราชพินิจจัย
เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๙
ณ เมรุเชิงบรมบรรพตวัดสระเกศ.
สารบัญ | |||
หน้า | (๑) | ||
” | ก | ||
” | (๑) | ||
” | (๑๔) | ||
หน้า | ๑ | ||
ลวะจังกราชเนรมิตบันไดเงิน |
” | ๑ | |
ลวะจังกราชและบริวารลงมาตามบันไดเงิน |
” | ๑ | |
ตำนานเมืองเชียงสา |
” | ๒ | |
พระยาตรีจักษุตัดศักราช |
” | ๒ | |
ลวะจังกราชอุปบัติ |
” | ๒ | |
ลวะจังกราชครองเมืองเงินยาง |
” | ๓ | |
เจ้าเมืองยวนถวายบรรณาการ |
” | ๓ | |
พระมเหษีลวะจังกราชอธิษฐานขอโอรส |
” | ๔ | |
ประสูติโอรส |
” | ๔ | |
ประสูติลาวเกลาแก้วมาเมือง |
” | ๕ | |
โอรสทั้ง ๓ ไปจับปู |
” | ๕ | |
ลวะจังกราชให้โอวาทโอรสทั้ง ๓ |
” | ๖ | |
ลาวเกลาแก้วมาเมืองยกพลไปฆ่าปู |
” | ๖ | |
ลาวเลาแก้วมาเมืองทูลบิดาให้แยกกันไปอยู่คนละเมือง |
” | ๗ | |
ลาวเกลาแก้วมาเมืองเสวยราชย์ |
” | ๘ | |
ลาวเคียงสร้างเมืองเงินยาง |
” | ๘ | |
สันตติวงศ์ของลาวก่อ ลาวเถือะ พี่ลาวเกลาแก้วมาเมือง |
” | ๙ | |
ขุนจอมธรรมไปเสวยเมืองภุกามยาว |
หน้า | ๑๐ | |
ขุนจอมธรรมทรงสุบินนิมิตต์ |
” | ๑๑ | |
ขุนจอมธรรมรู้นิมิตต์ |
” | ๑๒ | |
จดหมายกำหนดคน |
” | ๑๓ | |
อปริหานิยธรรม ๗ ประการ |
” | ๑๔ | |
ขุนเจียง ขุนจอม เกิด |
” | ๑๘ | |
ขุนเจียงเรียนวิชา |
” | ๑๙ | |
ขุนเจียงเสวยราชย์ |
” | ๒๐ | |
ขุนเจียงรบกับพระยาแกว |
” | ๒๑ | |
เหตุที่จะเกิดศึกพระยาแกว |
” | ๒๒ | |
ถวายพระนามขุนเจียงว่าพระเจืองฟ้าสธรรมิกราช |
” | ๒๓ | |
พระยาธรรมิกราช (ขุนเจียง) ส่งโอรสทั้ง ๕ ไปครองเมือง |
” | ๒๕ | |
อัครเทวีพระยาธรรมิกราชเห็นอัศจรรย์ ๑๐ ประการ |
” | ๒๖ | |
พระยาแมนตาตอกขอกฟ้าตายืนฆ่าพระยาธรรมิกราช |
” | ๒๖ | |
สันตติวงศ์ขุนจองเมืองพระยา |
” | ๒๗ | |
พระยางำเมืองเกิด |
” | ๒๗ | |
พระยางำเมืองเรียนวิชา |
” | ๒๘ | |
พระยางำเมืองเสวยราชย์ |
” | ๒๘ | |
เชื้อวงศ์พระยามังราย |
” | ๒๘ | |
พระยามังรายสร้างเมืองเชียงราย |
” | ๒๙ | |
พระร่วงเข้าหาเทวีงำเมือง |
หน้า | ๓๐ | |
พระยางำเมืองตามจับพระร่วงได้ |
” | ๓๑ | |
พระยามังรายตัดสินความพระยางำเมืองกับพระร่วง |
” | ๓๒ | |
พระยามังรายแผ่อำนาจ |
” | ๓๓ | |
พระยามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่ |
” | ๓๓ | |
สันตติวงศ์พระยางำเมือง |
” | ๓๕ | |
สองยายตาสร้างพระประธาน |
” | ๓๖ | |
ตำนานการสร้างพระประธาน |
” | ๓๘ | |
นิทานเค้ามูลทุ่งเอี้ยง หนองเอี้ยง |
” | ๔๘ | |
คำถามคำตอบ |
” | ๕๑ | |
หน้า | ๕๖ | ||
เทวกาลเสวยราชย์เมืองนครไทยเทศ |
” | ๕๖ | |
โอรสธิดาของเทวกาล |
” | ๕๖ | |
สิงหนวติกุมารไปหาที่ตั้งเมือง |
” | ๕๖ | |
สิงหนวิตกุมารสร้างเมืองนาคพันธุ์สิงหนวตินคร |
” | ๕๙ | |
สิงหนวติกุมารได้เมืองอุโมงคเสลา |
” | ๖๐ | |
พระยาอชุตราชเสวยราชย์เมืองโยนก |
” | ๖๑ | |
พระยาอชุตราชได้นางปทุมวดีเป็นมเหษี |
” | ๖๒ | |
มหากัสสปเถรเจ้านำพระมหาธาตุเจ้ามายังเมืองโยนก |
หน้า | ๖๓ | |
พระยาอชุตราชพระราชทานที่แก่มหาธาตุเจ้า |
” | ๖๔ | |
พระยาอชุตราชให้ช่างคำมาหล่อรูปกัมมโลฤาษี |
” | ๖๕ | |
มหากัสสปเถรเจ้าเสด็จเข้าสู่นิพพาน |
” | ๖๕ | |
มหากัจจายนเถรเจ้านำมหาธาตุเจ้ามาสู่โยนกนคร |
” | ๖๕ | |
พระยาอชุตธรรมิกราชตาย |
” | ๖๗ | |
พระมังรายราชโอรสเสวยราชสมบัติแทน |
” | ๖๗ | |
มหาวิชรโพธิเจ้ากับฤาษีนำพระบรมธาตุจากเมืองราชคฤห์มาสู่เมืองโยนก |
” | ๖๗ | |
พระมังรายราชเจ้าซื้อมิลักขุรักษาพระบรมธาตุ |
” | ๖๘ | |
พระมังรายราชเจ้ามีราชบุตร ๒ คน ราชธิดา ๒ คน |
” | ๗๐ | |
พระมังรายราชเจ้าแบ่งราชสมบัติ |
” | ๗๐ | |
ตั้งเวียงไชยนารายณ์ |
” | ๗๑ | |
สันตติวงศ์พระมังรายราชเจ้า |
” | ๗๒ | |
เสียเมืองโยนกนครแก่พระยาขอมดำ |
” | ๗๘ | |
พระองค์พังเจ้าถูกขอมขับไปอยู่เวียงศรีทวง |
” | ๗๙ | |
เทวีพระองค์พังประสูติโอรส |
” | ๗๙ | |
คำอธิษฐานของสามเณร |
” | ๘๐ | |
ความฝันแห่งเทวีของพระยาศรีทวง |
” | ๘๑ | |
เทวีศรีทวงประสูติโอรสให้ชื่อว่าพรหมกุมาร |
” | ๘๒ | |
ความฝันของพรหมกุมาร |
หน้า | ๘๓ | |
พรหมกุมารได้ช้างตามฝัน |
” | ๘๔ | |
พรหมกุมารห้ามบิดาไม่ให้ส่งส่วยพระยาขอม |
” | ๘๔ | |
พรหมกุมารเตรียมสู้พระยาขอม |
” | ๘๕ | |
พรหมกุมารยกพลมาต่อรบพระยาขอมดำ |
” | ๘๖ | |
พระยาขอมดำพ่ายหนีแก่พรหมกุมาร |
” | ๘๖ | |
พระยาอินทร์เนรมิตกำแพงหิน |
” | ๘๗ | |
พระองค์พังเจ้าได้ครองเมืองโยนกครั้งที่ ๒ |
” | ๘๘ | |
พรหมกุมารยกให้ทุกขิตตนพี่เป็นอุปราชา |
” | ๘๘ | |
พรหมกุมารได้เทวี |
” | ๘๙ | |
พรหมกุมารกับเทวีไปสร้างเวียงไชยปราการ |
” | ๘๙ | |
พุทธโฆษาจารย์มหาเถรเจ้าชำระพระธรรม |
” | ๘๙ | |
บรรจุพระมหาธาตุเจ้าไว้กลางเวียงไชยนารายณ์ |
” | ๙๐ | |
การสืบสันตติวงศ์พระองค์พัง |
” | ๙๑ | |
พระองค์ไชยศิริโอรสได้ครองเวียงไชยปราการต่อจากพระองค์พรหมราชเจ้า |
” | ๙๑ | |
กษัตริย์เมืองสุธรรมวดีเมืองเมงยกรี้พลมารบเวียงไชยปราการ |
” | ๙๒ | |
พระองค์ไชยศิริเจ้าเสียเวียงไชยปราการ |
” | ๙๓ | |
พระองค์ไชยศิริสร้างเมืองกำแพงเพ็ชร์ |
” | ๙๔ | |
พระองค์มหาไชยชนะเจ้าราชโอรสเป็นกษัตริย์เมืองโยนก |
” | ๙๔ | |
ชาวโยนกนครกินปลาตะเพียนเผือกตัวใหญ่ |
หน้า | ๙๔ | |
ความพินาศของเวียงโยนก |
” | ๙๕ | |
ขุนลังได้เป็นใหญ่ |
” | ๙๗ | |
การสืบต่อกันมา |
” | ๙๘ | |
พระอินทร์ได้ลวะจังกราชเทวบุตรลงมาเป็นเจ้า |
” | ๑๐๐ | |
ลวะจังกราชตัดศักราช |
” | ๑๐๑ | |
ลวะจังกราชสร้างเวียงเหรัญญนครเงินยางเชียงแสน |
” | ๑๐๒ | |
ญาณรังสีมาหาเถรเจ้านิมนต์มหาธาตุเจ้ามายังเวียงเหรัญญนครเงินยางเชียงแสน |
” | ๑๐๓ | |
เวียงฝาง |
” | ๑๐๔ | |
เวียงเชียงราย เวียงเชียงของ |
” | ๑๐๕ | |
ลวะจังกราชมีโอรส ๓ องค์ |
” | ๑๐๕ | |
โอรสทั้ง ๓ ไปจับปู |
” | ๑๐๖ | |
โอรสทั้ง ๓ ไปกินเวียง |
” | ๑๐๖ | |
ลวะจังกราชตาย |
” | ๑๐๗ | |
เจ้าลาวเก้าเสวยราชสมบัติแทน |
” | ๑๐๗ | |
สันตติวงศ์ของลวะจังกราช |
” | ๑๐๘ | |
ท้าวกีคำลานเจ้าเมืองน่านฆ่าพระยาลาวจังกวาเรือนคำแก้วตาย |
” | ๑๐๘ | |
พระยาควักวาวโอรสพระยาลาวจังกวาเรือนคำแก้วฆ่าท้าวกีคำลานตาย |
” | ๑๐๙ | |
พระยาควักวาวได้ครองเมืองเงินยางเชียงแสน |
หน้า | ๑๑๐ | |
ขุนเทืองโอรสครองเมืองต่อมา |
” | ๑๑๐ | |
ขุนเทืองได้นายแอกไค่ |
” | ๑๑๑ | |
นางแอกไค่ให้บุตรแก่ขุนเทือง |
” | ๑๑๒ | |
ขุนทึงโอรสได้กินเมืองแทน |
” | ๑๑๒ | |
นางแอกไค่ได้เห็นโอรส |
” | ๑๑๒ | |
ขุนทึงได้ของวิเศษจากปู่ย่าตายาย |
” | ๑๑๓ | |
ขุนทึงสร้างเวียงเชียงเรือง |
” | ๑๑๓ | |
ขุนทึงประกาศไม่ให้ทำร้ายสัตว์ |
” | ๑๑๔ | |
จอมผาเรืองหลานครองเมืองแทนขุนทึง |
” | ๑๑๕ | |
โอรสของเจ้าจอมผาเรือง |
” | ๑๑๕ | |
ธิดาของพระยาลาวชิน |
” | ๑๑๖ | |
พระยาอ้ายเจืองกับเจ้าอุปราชาขุนเจืองชนช้างชนะ |
” | ๑๑๗ | |
เจ้าขุนเจืองได้อัครมเหษี |
” | ๑๑๘ | |
เจ้าขุนเจืองได้เป็นพระยาเจืองฟ้าธรรมิกราชาเสวยราชสมบัติเมืองเหรัญญนครไชยบุรีเงินยางเชียงแสน |
” | ๑๑๙ | |
พระยาเจืองฟ้าธรรมิกราชได้เครื่องบรรณาการและเมืองต่าง ๆ |
” | ๑๑๙ | |
พระยาเจืองฟ้ารู้ข่าวศึก |
” | ๑๒๐ | |
พระยาเจืองฟ้าธรรมิกราชส่งบุตรไปครองเมือง |
” | ๑๒๑ | |
ลาง ๑๐ ประการปรากฎแก่อัครเทวีขุนเจือง |
” | ๑๒๑ | |
พระยาแมนตาตอกขอกฟ้าตายืนฆ่าพระยาธรรมิกราช |
หน้า | ๑๒๒ | |
สันตติวงศ์ต่อจากพระยาธรรมิกราช |
” | ๑๒๓ | |
โอรสพระยาลาวเมง |
” | ๑๒๓ | |
คำทำนายของปัทมังกรฤาษีเกี่ยวกับโอรส |
” | ๑๒๔ | |
มังรายราชโอรสครองเมืองเชียงราย |
” | ๑๒๔ | |
มังรายได้เศวตฉัตรในเวียงเงินยางเชียงแสน |
” | ๑๒๕ | |
ฤาษี ๔ ตน ลูกพระยาวองตีฟางโพธิญาณ |
” | ๑๒๕ | |
ฤาษีทั้ง ๔ สรงเกศาธาตุแห่งพระพุทธเจ้า |
” | ๑๒๖ | |
ฤาษีแยกกันกระทำสมณธรรม |
” | ๑๒๙ | |
ผู้เป็นใหญ่ในเมืองจอมตุงค์ |
” | ๑๓๑ | |
ท้าวมังรายทรงสร้างรูปไว้ที่ดอยจอมหงส์ |
” | ๑๓๒ | |
ท้าวมังรายทรงไล่กวาง |
” | ๑๓๓ | |
ท้าวมังรายรบกับชาวลวะ |
” | ๑๓๕ | |
มางคุ้มมางเคียนทำอุบายเอาชะนะลวะไว้ |
” | ๑๓๖ | |
ท้าวมังรายให้อุตรพราหมณ์มาดูที่จะสร้างเมือง |
” | ๑๓๗ | |
เหตุผลในการตั้งชื่อเมืองต่าง ๆ |
” | ๑๓๘ | |
ท้าวมังรายให้มางคุ้มมางเคียงกินเมือง |
” | ๑๓๙ | |
โอรสธิดาของพระยามังราย |
” | ๑๔๐ | |
พระยามังรายใช้ให้หมื่นฟ้าทำกลศึก |
” | ๑๔๑ | |
พระยายีบาเมืองลำพูนหลงเชื่อเลี้ยงหมื่นฟ้าไว้ |
” | ๑๔๒ | |
การกระทำต่าง ๆ ของหมื่นฟ้า |
หน้า | ๑๔๓ | |
พระยามังรายได้เมืองลำพูน |
” | ๑๔๔ | |
พระยามังรายครองเมืองหริภุญไชย |
” | ๑๔๕ | |
พระยามังรายกับพวกรบชะนะพระยายีบากับพวก |
” | ๑๔๖ | |
พระยามังรายให้โอรสครองเมืองต่าง ๆ |
” | ๑๔๗ | |
พระยามังรายให้หมื่นฟ้าครองเมืองหริภุญไชย |
” | ๑๔๗ | |
พระยามังรายออกไปอยู่ไชยปราการ |
” | ๑๔๘ | |
พระยาแสนพูหลานไปแต่งเมืองเชียงราย |
” | ๑๔๙ | |
เขตต์แดนเมืองเชียงแสน |
” | ๑๕๒ | |
พระยาแสนพูได้พระบรมธาตุ |
” | ๑๕๗ | |
บริจาคที่ให้แก่พระบรมธาตุ |
” | ๑๕๘ | |
เขตต์แดนพันนาเชียงราย |
” | ๑๖๐ | |
เขตต์แดนพันนาเงินยางเชียงแสน |
” | ๑๖๐ | |
พวกฮ่อรบเมืองเขินเชียงตุง |
” | ๑๖๒ | |
ฮ่อพากันพ่ายหนีไป |
” | ๑๖๓ | |
เจ้าน้ำน่านกินเมืองเชียงตุงแทนพระยาน้ำท่วม |
” | ๑๖๔ | |
ฟุงตายังแก้วฮ่อยกพลมารบเมืองเขินเชียงตุง |
” | ๑๖๔ | |
ฟุงตายังแก้วตายในสนามรบ |
” | ๑๖๕ | |
ฮ่อพ่ายหนี |
” | ๑๖๕ | |
พระยาแสนพูนสร้างเวียงเงินยางเชียงแสนใหม่ |
” | ๑๖๗ | |
พระยาแสนพูให้โอรสครองเมืองต่าง ๆ |
หน้า | ๑๗๐ | |
พระยาแสนพูตาย |
” | ๑๗๐ | |
สันตติวงศ์ต่อจากพระยาแสนพู |
” | ๑๗๑ | |
ท้าวมหาพรหมสร้างวัดและเจดีย์บรรจุพระมหาธาตุ |
” | ๑๗๒ | |
พระราชเจ้ากือนาผู้ครองเมืองพิงเชียงใหม่รบชะนะฮ่อ |
” | ๑๗๓ | |
พระมหาเถรเจ้าศิริวังโส |
” | ๑๗๔ | |
ฮ่อยกมารบลานนา |
” | ๑๗๕ | |
ศิริวังโสมหาเถรเจ้าเป็นราชครู |
” | ๑๗๕ | |
พระยาสามปะยาให้ขุนแสงรบฮ่อ |
” | ๑๗๗ | |
สามพระยาทำสัตย์สาบานกัน |
” | ๑๗๗ | |
อุปัฎฐากมหาธาตุเจ้าจอมยอง |
” | ๑๗๗ | |
ขุนแสงได้เป็นพระยาสุวรรณคำลานนาครองเมืองไชยบุรีนครเชียงแสน |
” | ๑๗๘ | |
หมื่นพร้าวได้ครองเมืองเชียงแสน |
” | ๑๘๒ | |
หมื่นเชียงสงหรือหมื่นพร้าวสร้างวัด |
” | ๑๘๒ | |
หมื่นงั๊วหลานอติโลกราชได้ครองต่อมา |
” | ๑๘๒ | |
หมื่นงั๊วสร้างวัด |
” | ๑๘๓ | |
พระยาอติโลกราชเป็นพระยาหลวงเมืองสาด |
” | ๑๘๓ | |
การครองเมืองเชียงแสนสืบต่อกันมา |
” | ๑๘๕ | |
เจ้าฟ้ามังทลารบได้เมืองเชียงใหม่ |
” | ๑๘๘ | |
เจ้าฟ้ามังทลาให้เจ้าฟ้าสาวัตถีมากินเมืองเชียงใหม่ |
หน้า | ๑๘๘ | |
พระหัวระมังทลาครองเมืองเชียงใหม่ |
” | ๑๘๙ | |
เจ้าฟ้าสุทโธเกิดทะเลาะกันกับเจ้าอุปราชามังแลจ่อเจ่า |
” | ๑๙๑ | |
แสนหลวงเรือดอนเป็นเจ้าฟ้าหลวงทิพเนตร |
” | ๑๙๑ | |
เจ้าฟ้าหลวงทิพเนตรถูกจับขัง |
” | ๑๙๒ | |
เจ้าฟ้าสุทโธธรรมราชตีได้เมืองฝาง |
” | ๑๙๓ | |
จิมฟ้าหมวกคำลูกเจ้าฟ้าหลวงทิพเนตรได้ครองเมืองเชียงแสน |
” | ๑๙๔ | |
เจ้าฟ้าหลวงทิพเนตรกับเจ้าฟ้าหมวกคำลูกได้เป็นใหญ่ในลานนาทั้งมวล |
” | ๑๙๕ | |
วัดในเวียงไชยบุรีเชียงแสนทั้งหลาย |
” | ๑๙๕ | |
วัดนอกเวียงไชยบุรีเชียงแสนทั้งหลาย |
” | ๑๙๗ | |
วัดที่ดอนมูลกวาว |
” | ๑๙๘ | |
พระเจ้าศรีสุทโธธรรมราชตาย |
” | ๑๙๙ | |
นัญชะได้เป็นกษัตริย์แทน |
” | ๑๙๙ | |
การสืบต่อกันมาของเจ้าฟ้าหลวงทิพเนตร |
” | ๑๙๙ | |
ศึกฮ่อมาติดเมืองอังวะ |
” | ๑๙๙ | |
พระเจ้าเมืองเบ่พ่ายแก่ชาวอโยธยา |
” | ๒๐๐ | |
เอกาทศรถปราบได้เมืองเชียงใหม่ |
” | ๒๐๐ | |
การครองเมืองเชียงแสนสืบต่อกันมา |
” | ๒๐๑ | |
โปแมงชาระเจ้าเมืองเชียงใหม่ฆ่ามณีหงวนเชียงแสน |
” | ๒๐๓ | |
มหาธรรมครองเมืองเชียงแสน |
หน้า | ๒๐๓ | |
เมืองเชียงตุงคืนเป็นข้าม่าน |
” | ๒๐๔ | |
ฉลองธาตุเจ้าจอมกิตติ |
” | ๒๐๕ | |
เจ้าฟ้าลักทีกินเมืองเชียงแสน |
” | ๒๐๕ | |
พระเจ้าหาญวังตีนตีทัพเชียงใหม่แตก |
” | ๒๐๗ | |
พระยาหาญเมืองพงครองเมืองเชียงแสน |
” | ๒๐๘ | |
องค์นกได้เป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ |
” | ๒๐๘ | |
เชียงใหม่เป็นอิสสระ |
” | ๒๐๘ | |
งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
- ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
- แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก