หน้า ๒๑๒–๒๑๕ สารบัญ
อยู่มาวันหนึ่ง พระเจ้าติวอ๋องเสด็จออกพระที่นั่งเตียะแซเหลากับนางขันกี เสวยสุราอยู่ จึงสั่งให้พวกพนักงานทำมโหรีขึ้น แล้วให้นางขันกีขึ้นรำร้อง นางนักสนมทั้งปสงก็นั่งฟังพร้อมกันอยู่ พระเจ้าติวอ๋องจึงตรัสชมว่า นางขันกีทำเพลงขับรับมโหรีเพราะนักหนา นางสนมทั้งปวงใครฟังเพราะหรือไม่ นางสนมพวกหนึ่งก็กราบทูลสรรเสริญว่า ขับเพราะ แต่นางสนามพวกหนึ่งเจ็ดสิบห้าคนเป็นพวกเจียงเหนียวที่ตาย ต่างคนคิดถึงนาย หน้าตาโศกเศร้า นิ่งเสีย หาได้กราบทูลว่าเพราะไม่ นางขันกีจึงว่า อีเหล่านี้มึงชังกู มึงยังจะคิดถึงนายมึงซึ่งทำผิดโทษถึงตายให้ฆ่าเสียนั้นหรือ ว่าแล้วก็กราบทูลว่า อีพวกเหล่านี้จะเลี้ยงไว้ในพระราชวังเห็นจะไม่ได้ นานไปก็จะทำอันตรายแก่ข้าพเจ้า พระเจ้าติวอ๋องก็สั่งให้เอาพวกสนมเจ็ดสิบห้าคนไปประหารชีวิตเสีย นางขันกีจึงกราบทูลว่า อย่าประหารชีวิตด้วยหอกดาบเลย ขอให้ขุดหลุมให้ลึกสักยี่สิบยา กว้างสี่สิบแปดวา ที่ตรงหน้าเตียะแซเหลา แล้วป่าวร้องให้ราษฎรจับงูมาบ้านละสี่ตัวห้าตัวปล่อยลงไว้ในหลุดมขุด จึงเอาอีเจ็ดสิบห้าคนทิ้งลงไปให้งูกินเสียให้หมด เบื้องหน้าไปจะไม่ได้ดูเยี่ยงอย่างกัน พระเจ้าติวอ๋องกำลังรักนางขัน ก็เห็นด้วย จึงสั่งให้ขุดเหวและป่าวร้องราษฎรจับงูมาใส่
ขณะนั้น ชาวเมืองทั้งปวงก็ไปเที่ยวคล้องงูได้ใส่ข้องเดินมาตามทาง พอเสี้ยงไต้หู เกาเก๊ก ขุนนางผู้หนึ่ง เห็นจึงร้องเรียกเข้ามาถามว่า เอ็งทั้งปวงพากันจับงูใส่ข้องใส่ตะกร้ามาทำไม ชาวเมืองบอกว่า มีรับสั่งให้เอาไปปล่อยส่งในวัง จะทำประการใดข้าพเจ้ามิได้รู้ เสี้ยงไต้หูได้ฟังก็สงสัย จึงรับเข้าไปในวัง สืบดูรู้ความชัด จึงกลับมาบ้าน ไม่มีความสบาย นอนเป็นทุกข์ถอนใจใหญ่อยู่
ฝ่ายชาวเมืองจับงูไปปล่อยในเหวสิ้นทุกบ้านแล้ว พระเจ้าติวอ๋องก็ให้เอานางสนมเจ็ดสิบห้าคนไปทิ้งลงในเหวให้งูกิน พระเจ้าติวอ๋องก็เสด็จนั่งทอดพระเนตรดูเล่นอยู่กับนางขันกี ณ ตำหนักเตียะแซเหลา ฝ่ายเสี้ยงไต้หูก็คิดทำเรื่องราวเข้าไปเฝ้า ณ ข้างใน พระเจ้าติวอ๋องกำลังทอดพระเนตรดูงูกินนางสนามอยู่กับนางขันกี พอแลเห็นเสี้ยงไต้หูเข้ามาเฝ้า ก็ทรงพระโกรธ ตรัสว่า เรามิได้ให้หา และตัวบังอาจเข้ามาผิดตำแหน่งดังนี้ จะว่าประการใด เสี้ยงไต้หูร้องไห้พลางกราบทูลว่า ข้าพเจ้าทำล่วงเกินทั้งนี้โทษถึงสิ้นชีวิต แต่น้ำใจข้าพเจ้าสัตย์ซื่อต่อพระองค์ พระองค์เอานางสนมทิ้งลงในเหวให้งูกินเล่น แล้วก็ไม่เสด็จออกว่าราชการบ้านเมือง ทำให้ผิดประเพณีกษัตริย์แต่ก่อน พระเจ้าติวอ๋องจึงว่า อีคนเหล่านี้จะเฆี่ยนตีทำอย่างไรมันก็ไม่ฟัง จึงเอาใส่เหวให้งูกิน ความทั้งนี้มันเกิดขึ้นริมตีนมือเรา กงการอะไรของมึง อ้ายนี่ใจใหญ่บังอาจเข้ามาเซ้าซี้สั่งสอนกูอีกเล่า แล้วสั่งบูซูให้ถอดเสื้อหมวกเสี้ยงไต้หูออกเสีย เอาตัวไปทิ้งลงในเหวให้งูกิน เสี้ยงไต้หู เกาเก๊ก ก็ขัดใจ ลุกขึ้นยืนชี้หน้าว่า ติวอ๋องเป็นคนใจบาปหยาบช้า กลับจะให้ฆ่าเราเสียอีกเล่า บูซูก็เข้าคร่าเอาตัวเสี้ยงไต้หู เกาเก๊ก ไปทิ้งลงในเหว เสี้ยงไต้หูก็ด่าพระเจ้าติวอ๋องจนบูซูทิ้งลงในเหวขาดใจตาย พระเจ้าติวอ๋องจึงยื่นพระหัตถ์ไปลูบหลังนางขันกี ตรัสชมว่า เจ้าคิดทำเหวใส่งูไว้สำหรับทำโทษคนผิดดีนัก ตั้งแต่นั้นมา นางสนมทั้งปวงต่างคนระวังตัวกลัวนางขันกีจะเอาผิด เวลาวันหนึ่ง นางขันกีทูลพระเจ้าติวอ๋องว่า ขอให้ขุดสระสองข้างเหวซึ่งปล่อยงูนั้น สระข้างซ้ายให้ก่ออิฐโบกปูน แล้วตวงน้ำสุราใส่ให้เต็มสระ สระข้างขวาให้ก่อภูเขาปลูกต้นไม้ แล้วเอาเนื้อสุกร กวาง ทราย มาแขวนไว้ที่กิ่งไม้ให้ทานแร้งกากิน จะได้เป็นกุศลแก่พระองค์ พระเจ้าติวอ๋องก็สั่งให้ทำตามคำนางขันกี ครั้นเวลาค่ำดึกสงัดคน นางขันกีก็หายตัวไปตามลมเที่ยวบอกปิศาจพวกพ้องว่า เวลาพรุ่งนี้ จงพากันแปลงกายเป็นเป็นแร้งกาเข้าไปกินสุราและเนื้อในเมืองจิวโก๋จงทุกวัน แล้วนางขันกีก็กลับเข้าวัง ครั้นเช้า ปิศาจทั้งปวงก็พากันแปลงตัวเป็นกา เหยี่ยว แร้ง นกตะกรุม รุมกันมากินเนื้อและสุราเป็นผาสุกทุกวันไป นางขันกีก็พาพระเจ้าติวอ๋องมาทอดพระเนตรเล่น