พจนานุกรมกฎหมาย/ก
คำนำ · คำชี้แจง · ก · ข · ค · ฆ · ง · จ · ฉ · ช · ซ · ฌ · ญ · ฎ · ฏ · ฐ · ฑ · ฒ · ณ · ด · ต · ถ · ท · ธ · น · บ · ป · ผ · ฝ · พ · ฟ · ภ · ม · ย · ร · ล · ว · ศ · ษ · ส · ห · ฬ · อ · ฮ
กงสุล · กฎ · กฎยุทธวินัย · กฎมณเฑียรบาล · กฎเสนาบดี · กฎหมาย · กฎหมายนานาประเทศ · กฎหมายปิดปาก · กฎหมายสันนิษฐาน · กฎหมายระวางประเทศ · กฎหมายลักษณะแพ่ง · กฎหมายลักษณะอาชญา · กฎอัยยการศึก · กติกา · กบฎ · กรณีย์ · กรม · กรมการ · กรมตำรวจภูธร · กรมธรรม์ · กรมธรรม์ประกันภัย · กรมธรรม์สัญญา · กรมรักษาทรัพย์ · กรมอัยยการ · กรรม · กรรมกร · กรรมกรณ์ · กรรมการ · กรรมการฎีกา · กรรมสิทธิ์ · กรรมสิทธิ์ผู้แต่งหนังสือ · กระทรวง · กระทรวงกลาโหม · กระทรวงการต่างประเทศ · กระทรวงเกษตราธิการ · กระทรวงทหารเรือ · กระทรวงธรรมการ · กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ · กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม · กระทรวงยุตติธรรม · กระทรวงมหาดไทย · กระทรวงวัง · กระทำ · กระทำทุจริต · กระทำความผิด · กระทำพะยานเท็จ · กระทำมิชอบ · กระทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ · กระทู้ · กระบิล · กระษาปณ์ · กฤษฎีกา · กลฉ้อฉล · กลพะยาน · กล้องสูบฝิ่น · กลางคืน · กสิกรรม · ก่อการจลาจล · กองหมาย · กะเกณฑ์ · กะทง · กะทงแถลง · กะบิล · กัก · กักห้ามเรือ · กันโชก · กานไม้ · การ · การค้าขาย · การณ์ · การณรงค์สงคราม · การพะนัน · การพิจารณาคดีล้มละลาย · การพิมพ์ · การสมรส · การสุขาภิบาล · กำนัน · กำนล · กำนัล · กำเนิด · กำปั่นใบ · กำปั่นไฟ · กำปั่นยนตร์ · กำมะลอ · กำไร · กิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค · กิจการภายในกฎหมาย · กุมเกาะเบาะฉะแลง · กุมมือ · กู้เงิน · กู้ยืม · เกณฑ์ · เกณฑ์จ้าง · เกณฑ์เมืองรั้ง · เกาะ · เกาะกุม · เกวียน · เกียรติยศ · เกษียณ · แกงได · แก้ต่าง · แก้ฟ้อง · แก้ฟ้องแย้ง · แกล้งฟ้อง · โก่นสร้างเลิกรั้ง
กงสุล | ผู้แทนรัฐบาลในส่วนค้าขาย | |
กฎ | ข้อบังคับที่ได้ตั้งขึ้นไว้ เช่น กฎวางระเบียบเครื่องแต่งกายผู้พิพากษาตุลาการ พ.ศ. ๒๔๕๙ | |
กฎยุทธวินัย | ข้อบังคับที่ว่าด้วยวินัยแลการลงอาชญาแก่ทหาร เช่น กฎว่าด้วยยุทธวินัยแลการลงอาชญาทหารบกฐานละเมิดยุทธวินัย พ.ศ. ๒๔๖๔ | |
กฎมณเฑียรบาล | ข้อบังคับว่าด้วยระเบียบการปกครองและรักษาการในพระราชสถาน เช่น กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยครอบครัวข้าราชการในพระราชสำนัก พ.ศ. ๒๔๕๗ | |
กฎเสนาบดี | ข้อบังคับของเจ้ากระทรวงที่ตั้งขึ้นไว้โดยได้รับอำนาจจากกฎหมายที่ได้บ่งบัญญัติไว้ และถือเป็นส่วนหนึ่งแห่งกฎหมายที่ได้ตั้งขึ้น เช่น กฎเสนาบดีมหาดไทย เรื่อง การตรวจคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๔๗๐ | |
กฎหมาย | มีผู้แปลกันต่าง ๆ เช่น ออสบอน (Osborn) ว่า "กฎหมายเป็นข้อบังคับที่ผูกพันความประพฤติให้จำต้องกระทำ" ฮอบบส์ (Hobbes) แปลว่า "คำสั่งของบุคคลผู้หนึ่งหรือหลายคนที่มีอำนาจบังคับประจำตัว" ออสติน (Austin) อธิบายว่า "กฎหมาย คือ เป็นข้อบังคับสำหรับความประพฤติ ซึ่งรฐาธิปัตย์ได้บัญญัติและบังคับไว้" แซลมอนด์ (Salmond) แก้ศัพท์ว่า "กฎหมายเป็นองค์กำหนดการปฏิบัติ ซึ่งบ้านเมืองถือกำหนดและนำมาใช้ในการอำนวยความยุตติธรรม" แบลกสะโตน (Blackstone) ถือว่า "ข้อบังคับแห่งกฎหมายซึ่งได้ทำขึ้นตามประเพณีที่เคยมีมาแต่ก่อน ให้เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย นอกจากผู้ตั้งกฎหมาย หรือตุลาการ" เมน (Maine) นั้น ชี้แจงว่า "มีกฎหมายในระวางประชุมชนมาแต่ครั้งโบราณ" ซาวิญีย์ (Savigny) ถือว่า "กฎหมายนั้นย่อมเจริญขึ้นในตนเองได้โดยตามลำดับ แต่ไม่เป็นไปตามใจของผู้ออกกฎหมาย" เจอริง (Jhering) เห็นผลที่สุดของกฎหมายว่า เป็น "กำหนดเขตต์ของผลประโยชน์" วิโนกราดอฟฟ์ (Vinogradoff) เห็นว่า กฎหมายเป็น "ข้อบังคับชุดหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นและบังคับฝูงชน เนื่องด้วยการถืออำนาจและใช้อำนาจเหนือบุคคลแลสิ่งของ" เดอ มอนต์โมเรนซี (De Montmorency) กระจายศัพท์กฎหมายลงว่า "เป็นข้อบังคับซึ่งรัดรึงคนทั้งหลายให้เข้าเป็นหมู่คณะ ในการที่จะต่อต้านกับธรรมชาติที่ห้อมล้อมโดยรอบกาย" | |
แต่ถ้าจะแปลกันอย่างสั้น ๆ แล้ว ก็ควรจะต้องกล่าวว่า "กฎหมาย เป็นคำสั่งหรือข้อบังคับของผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดสูงสุดในประเทศเอกราช ได้บัญชาลงไว้ให้ผู้ที่อยู่ใต้บังคับประพฤติตาม ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน ผู้นั้นจะต้องถูกบังคับให้ต้องรับโทษหรือสำนอง" | ||
กฎหมายแบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ— | ||
(๑) สารบัญญัติ คือ กฎหมายที่ว่าด้วยสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของบุคคลทั่วไป เช่น ประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา (ฉะเพาะความใน ภาคที่ ๒) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ในส่วนที่มิใช่เกี่ยวแก่วิธีพิจารณา) เป็นต้น | ||
(๒) สบัญญัติ คือ กฎหมายที่ว่าด้วยกระบวนพิจารณาสำหรับชำระความในศาล เพื่อดำเนิรการบังคับให้เป็นผลตามสิทธิที่มีอยู่ กล่าวคือ การพิจารณาให้ล่วงรู้ว่า กิจการใดที่บุคคลใดได้ทำไปเป็นผิดหรือชอบด้วยสารบัญญัติประการใด เช่น พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความแพ่ง ร.ศ. ๑๒๗, พระราชบัญญัติลักษณะพะยาน ร.ศ. ๑๑๓ เป็นต้น | ||
สารบัญญัติยังแบ่งออกได้อีก ๒ อย่าง คือ— | ||
(๑) อาชญา คือ กฎหมายที่ลงโทษคนในทางอาชญา (ดู กฎหมายลักษณะอาชญา) | ||
(๒) แพ่ง คือ กฎหมายที่บังคับ ปรับปรุง หรือใช้สินไหมทดแทน เพราะเหตุที่กระทำละเมิดหรือผิดสัญญาต่อกัน (ดู กฎหมายลักษณะแพ่ง) | ||
แพ่งนั้น ยังแบ่งออกได้เป็นอีก ๒ ชะนิด คือ— | ||
(๑) สัญญา (ดู สัญญา) | ||
(๒) ละเมิด (ดู ละเมิด) | ||
กฎหมายที่ใช้กันอยู่ในบัดนี้ มี ๒ อย่าง คือ อย่างหนึ่งออกบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษร ที่เรียกว่า "ประมวล" (Code) เช่น ประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ของไทยเรา เป็นต้น อีกอย่างหนึ่ง ไม่ได้ออกบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างที่เรียกว่า "กฎหมายธรรมดา" (Common Law) มีของอังกฤษเป็นอาทิ พระสารสาสน์ประพันธ์ (ชื้น จารุวัสตร์) เรียกกฎหมายที่ประกาศเป็นบทมาตราแล้วว่า "บทกฎหมาย" ตรงกับภาษาละตินว่า "Lex" เรียกกฎหมายทั่ว ๆ ไป จะประกาศเป็นบทมาตราแล้วหรือยังก็ตาม ว่า "กฎหมาย" ตรงกับภาษาละตินว่า "Jus" (ดู ฟุตโน๊ตในคำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉะบับเก่า) ตอนที่ ๓ หน้า ๓๑๘ ของท่านผู้นี้) | ||
กฎหมายนานาประเทศ | ดู กฎหมายระวางประเทศ | |
กฎหมายปิดปาก | ดู บทตัดสำนวน | |
กฎหมายสันนิษฐาน | ความสันนิษฐานของกฎหมาย ในเมื่อมีเหตุการณ์อันเป็นข้อเท็จจริงอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแล้ว ให้ถือว่า ผลต้องฤๅควรเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ฤๅเท่ากับเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ | |
ข้อสันนิษฐานในทางกฎหมายนั้น พอแบ่งออกได้เป็น ๒ อย่าง คือ– | ||
(๑) สันนิษฐานโดยข้อกฎหมาย เช่น กฎหมายลักษณะอาชญา มาตรา ๕๖ สันนิษฐานว่า เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ ไม่รู้เดียงสา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๔–๖๕ สันนิษฐานว่า คนที่สาบสูญไปตั้ง ๗ ปีนั้น ตาย | ||
ข้อนี้ยังแบ่งออกได้อีก ๒ ประการ คือ— | ||
(ก) สันนิษฐานเด็ดขาด คือ ไม่ยอมให้สืบพะยานหักล้าง เช่น เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ ที่กฎหมายสันนิษฐานว่า ไม่รู้เดียงสา จะนำสืบว่า รู้เดียงสา ไม่ได้ (ป.ก.อ. มาตรา ๕๖) | ||
(ข) สันนิษฐานไม่เด็ดขาด คือ ยอมให้สืบพะยานหักล้างได้ เช่น ผู้ที่มิได้เล่นการพะนัน แต่ถูกจับในวงการพะนันที่เล่นกันโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กฎหมายสันนิษฐานก่อนว่าผู้ถูกจับเป็นผู้เล่น แต่ผู้ถูกจับสืบหักล้างได้ว่าไม่ได้เล่น (พ.ร.บ. การพะนัน พ.ศ. ๒๔๗๓ มาตรา ๖) | ||
(๓) สันนิษฐานโดยข้อเท็จจริง เช่น ใช้ปืนยิงคน ตามธรรมดาต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ยิงตั้งใจจะฆ่าผู้ถูกยิงให้ตาย เพราะปืนเป็นอาวุธร้ายแรงมาก (ดู คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๐๔/๑๒๘, ๕๔๗/๑๒๘) แต่นำสืบหักล้างได้ | ||
กฎหมายระวางประเทศ | แบบธรรมเนียม ประเพณี และกฎข้อบังคับ สำหรับความประพฤติของประเทศต่าง ๆ ต่อกันแลกัน(ดู พระราชนิพนธ์ หัวข้อกฎหมายนานาประเทศแผนกคดีเมือง ของ พระมงกุฎเกล้าฯ หน้า ๓) | |
บางคนเรียก กฎหมายระวางประเทศ ว่า "ธรรมะระวางประเทศ" เพราะไม่เป็นกฎหมายบริบูรณ์ คือ ขาดการบังคับได้อย่างจริงจังในเมื่อมีผู้กระทำผิด | ||
กฎหมายลักษณะแพ่ง | กฎหมายที่กำหนดอำนาจและหน้าที่ของบุคคลผู้ที่กระทำผิด เป็นการกระทำผิดต่อเอกชน จะได้รับผลเพียงถูกบังคับใช้ทรัพย์ฤๅใช้สินไหมทดแทน เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ | |
กฎหมายลักษณะอาชญา | กฎหมายที่บัญญัติความผิด ซึ่งโดยมากเป็นการกระทำผิดต่อประชาชน ฤๅประชาชนได้รับความเสียหาย โดยกำหนดการลงโทษผู้กระทำผิดไว้เป็นอาชญา เช่น ประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา | |
กฎอัยยการศึก | กฎหมายที่ใช้บังคับเหนือกฎหมายธรรมดาโดยอำนาจศาลทหารชั่วครั้งคราวเพื่อการปกครองท้องที่ เช่น พระราชบัญญัติกฎอัยยการศึก พ.ศ. ๒๔๕๗ (ดู ศาลสนาม) | |
กติกา | การกำหนด, การนัดหมาย | |
กบฎ | ดู ขบถ | |
กรณีย์ | คดีความ, เรื่อง, กิจการที่กระทำ | |
กรม | ราชการแผนกหนึ่ง ๆ ที่แบ่งออกจากทะบวงการ ซึ่งมีหัวหน้าเป็นเจ้ากรมหรืออธิบดีปกครองบังคับบัญชา เช่น กรมตำรวจภูธร | |
กรมการ | ดู กรรมการ | |
กรมตำรวจภูธร | ราชการแผนกหนึ่งซึ่งมีอธิบดีเป็นหัวหน้า มีหน้าที่ในการจัดตั้งตำรวจฯ ขึ้นปราบปรามโจรผู้ร้ายและรักษาศานติสุขแห่งประชาชน (ดู ตำรวจ) | |
กรมธรรม์ | หนังสือสัญญาที่ทำขึ้นตามแบบ และจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ | |
มีหนังสืออีกชะนิดหนึ่งซึ่งมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน กฎหมายก็เรียกว่า "กรมธรรม์" คือ หนังสือตราสารที่ผู้รับประกันภัยทำให้แก่ผู้เอาประกันภัยในเรื่องประกันภัย แต่เรียกว่า "กรมธรรม์ประกันภัย" (ป.ก.พ. มาตรา ๘๖๗) | ||
กรมธรรม์ประกันภัย | หนังสือตราสารที่ผู้รับประกันภัยทำให้แก่ผู้เอาประกันภัยในการประกันภัย | |
กรมธรรม์ประกันภัยนี้ต้องลงลายมือชื่อผู้รับประกันภัย แลมีรายการดังต่อไปนี้— | ||
(๑) วัตถุที่เอาประกันภัย | ||
(๒) ภัยใดซึ่งผู้เอาประกันภัยรับเสี่ยง | ||
(๓) ราคาแห่งมูลประกันภัย ถ้าหากได้กำหนดกันไว้ | ||
(๔) จำนวนเงินซึ่งเอาประกันภัย | ||
(๕) จำนวนเบี้ยประกันภัย และวิธีส่งเบี้ยประกันภัย | ||
(๖) ถ้าหากสัญญาประกันภัยมีกำหนดเวลา ต้องลงเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดไว้ด้วย | ||
(๗) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับประกันภัย | ||
(๘) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้เอาประกันภัย | ||
(๙) ชื่อของผู้รับประโยชน์ ถ้าจะพึงมี | ||
(๑๐) วันทำสัญญาประกันภัย | ||
(๑๑) สถานที่และวันที่ได้ทำกรมธรรม์ประกันภัย | ||
(ป.ก.พ. มาตรา ๘๖๗) | ||
กรมธรรม์สัญญา | ดู กรมธรรม์ | |
กรมรักษาทรัพย์ | ราชการแผนกหนึ่งซึ่งมีเจ้ากรมเป็นหัวหน้า มีหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สมบัติของผู้ที่ต้องล้มละลายตามคำสั่งของศาล กับทั้งเป็นผู้จัดการทรัพย์สมบัติของผู้ที่ถูกล้มละลายด้วย | |
กรมอัยยการ | ราชการแผนกหนึ่งที่มีอธิบดีเป็นหัวหน้า มีหน้าที่เป็นทนายแทนแผ่นดินและฟ้องความแทนราษฎรในคดีอาชญาและคดีแพ่งที่กฎหมายกำหนดไว้ฤๅที่ราษฎรไม่สามารถจะฟ้องด้วยตนเองได้ (ดู อัยยการ) | |
กรรม | การ, กระทำ, เจตนา, งาร, กิจ, ธุระ, หน้าที่ | |
กรรมกร | บุคคลผู้มีอาชีพในทางทำการงาร, คนงาร | |
กรรมกรณ์ | เครื่องสำหรับลงอาชญา เครื่องจองจำ เช่น โซ่ ตรวน เป็นต้น | |
กรรมการ | บุคคลผู้มีหน้าที่ประชุดจัดการงารของนิติบุคคล เช่น กรรมการของบริษัท กรรมการของสมาคม เป็นต้น และคนที่มีหน้าที่ตัดสินกรณีย์หรือพฤติการณ์อย่างใด ๆ เช่น กรรมการของศาลทหาร, กรรมการจัดการกิฬา เป็นอาทิ | |
กรรมการฎีกา | ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาศาลนี้ที่จะเป็นองค์คณะตรวจตัดสินฎีกาได้ต้องมีไม่น้อยกว่า ๓ คน (พ.ธ.ย. มาตรา ๖) | |
กรรมสิทธิ์ | อำนาจแห่งความสำเร็จเด็ดขาดในการที่จะยึดถือ ใช้ เก็บประโยชน์ ซื้อ ขาย จำหน่าย หรือทำลายทรัพย์นั้นได้ เมื่อไม่มีกฎหมายห้าม | |
กรรมสิทธิ์เกิดขึ้นได้ดังนี้— | ||
(๑) โดยเข้ายึดถือ | ||
(๒) โดยอายุความ | ||
(๓) โดยทำขึ้น | ||
(๔) โดยเป็นส่วนหนึ่งแห่งของเดิม | ||
(๕) โดยเจ้าของโอนให้ | ||
(๖) โดยทางมฤดก | ||
อำนาจกรรมสิทธิ์นี้ ตามธรรมดาย่อมมีอยู่แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์เสมอไป เว้นไว้แต่— | ||
(๑) เจ้าของสละ เช่น ขายทรัพย์ให้แก่ผู้อื่นโดยถูกต้องตามกฎหมาย อำนาจกรรมสิทธิ์นี้ขาดทันที xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
กรรมสิทธิ์ผู้แต่งหนังสือ | xxxxxx | |
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
กระทรวง | xxx | |
กระทรวงกลาโหม | xxx | |
กระทรวงการต่างประเทศ | xxx | |
กระทรวงเกษตราธิการ | xxx | |
กระทรวงทหารเรือ | xxx | |
กระทรวงธรรมการ | xxx | |
กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ | xxx | |
กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม | xxx | |
กระทรวงยุตติธรรม | xxx | |
กระทรวงมหาดไทย | กระทรวงที่มีหน้าที่ในการจัดการปกครองรักษาประชาชนในพระราชอาณาจักร์ | |
กระทรวงวัง | กระทรวงที่มีหน้าที่จัดการต่าง ๆ ในพระราชสำนักอันเกี่ยวในส่วนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแลพระบรมราชวงศ์ กับจัดการงารในพระราชพิธีต่าง ๆ | |
กระทำ | xxx | |
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxxxxx | ||
กระทำการทุจริต | xxx | |
กระทำความผิด | xxx | |
กระทำพยานเท็จ | xxx | |
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
กระทำมิชอบ | xxx | |
กระทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ | xxx | |
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
กระทู้ | xxx | |
กระบิล | xxx | |
กระษาปณ์ | xxx | |
กฤษฎีกา | xxx | |
กลฉ้อฉล | xxx | |
กลพะยาน | xxx | |
กล้องสูบฝิ่น | xxx | |
กลางคืน | xxx | |
กสิกรรม | xxx | |
ก่อการจลาจล | xxx | |
กองหมาย | xxx | |
กะเกณฑ์ | xxx | |
กะทง | xxx | |
กะทงแถลง | xxx | |
กะบิล | xxx | |
กัก | xxx | |
กักห้ามเรือ | xxx | |
กันโชก | xxx | |
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
xxx | ||
กานไม้ | xxx | |
การ | xxx | |
การค้าขาย | xxx | |
การณ์ | xxx | |
การณรงค์สงคราม | xxx | |
การพะนัน | xxx | |
xxx | ||
xxxxxx | ||
xxx | ||
การพิจารณาคดีล้มละลาย | xxx | |
การพิมพ์ | xxx | |
การสมรส | xxx | |
การสุขาภิบาล | xxx | |
กำนัน | xxx | |
กำนล | xxx | |
กำเนิด | xxx | |
กำปั่นใบ | xxx | |
กำปั่นไฟ | xxx | |
กำปั่นยนตร์ | xxx | |
กำมะลอ | xxx | |
กำไร | xxx | |
กิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค | xxx | |
กิจการในกฎหมาย | xxx | |
กุมเกาะเบาะฉะแลง | xxx | |
กุมมือ | xxx | |
กู้เงิน | xxx | |
กู้ยืม | xxx | |
xxxแต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ออกใช้อยู่ในบัดนี้ รวมเรียกว่า "กู้ยืม" เป็นคำเดียว ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า "Loan" | ||
เกณฑ์ | ดู กะเกณฑ์ | |
เกณฑ์จ้าง | การเกณฑ์สัตว์พาหนะหรือยานพาหนะ หรือเกณฑ์แรงราษฎร ให้ช่วยในทางราชการ โดยราชการให้ค่าจ้างแก่ผู้ถูกเกณฑ์ตามสมควร (พ.ร.บ. เกณฑ์จ้าง ร.ศ. ๑๑๙ มาตรา ๕–๖) | |
เกณฑ์เมืองรั้ง | ตำแหน่งสำรองผู้ว่าราชการจังหวัด | |
เกาะ | แผ่นดินที่มีน้ำล้อมรอบ, จับ, กุม, ปรับ | |
เกาะกุม | จับกุม, ควบคุม | |
เกวียน | ยานพาหนะประเภทหนึ่ง มีล้อสองล้อ ใช้ไม้ประกอบเป็นเครื่องผูก มีหลังคาก็ดี หรือไม่มีหลังคาก็ดี ใช้เทียมด้วยสัตว์พาหนะ เช่น โค กระบือ เป็นต้น หรือเกวียนซึ่งเรียกในท้องที่บางแห่งว่า ระแทะ ก็ดี รวมเรียกว่า เกวียน เว้นไว้แต่เกวียนบรรทุกอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีล้อทำด้วยเหล็กทั้งตัว หรือล้อมีเครื่องเหล็กประกอบใช้ฉะเพาะท้องที่มีถนนแล้ว เกวียนชนิดนี้เรียกว่า เกวียนล้อเหล็ก ไม่นับเป็นเกวียนตามพระราชบัญญัติขนาดเกวียนนี้ (พ.ร.บ. ขนาดเกวียน พ.ศ. ๒๔๕๙ มาตรา ๓) | |
เกียรติยศ | ยศคือความสรรเสริญ | |
เกษียณ | เสื่อมไป, หมดไป | |
แกงได | รอยขีดเขียนซึ่งบุคคลไม่รู้หนังสือเขียนลงไว้ในจดหมาย (ป.ก.อ. มาตรา ๖ (๒๑)) | |
แก้ต่าง | ทนายผู้ว่าความต่างจำเลย (ดู ผู้แก้ต่าง และ ทนายความ) | |
แก้ฟ้อง | (๑) ให้การแก้ฟ้องโจทก์ (ดู ให้การ) (๒) แก้ข้อความในฟ้อง ก่อนเวลาจำเลยรับหมายและให้การ โจทก์มีโอกาศจะแก้ฟ้องได้ แต่ถ้าจำเลยได้รับหมายและยื่นคำให้การแล้ว โจทก์จะต้องขออนุญาตต่อศาลและแจ้งความให้จำเลยทราบก่อน เพื่อให้จำเลยมีโอกาศค้าน ศาลมีอำนาจที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ได้ สุดแต่ศาลจะเห็นสมควร (พ.ร.บ. วิธีพิจารณาความแพ่ง ร.ศ. ๑๒๗ มาตรา ๖๓ และดู มาตรา ๒๔ ใน พ.ร.บ. นี้ด้วย) | |
ฟ้องข้อใดที่โจทก์ขอแก้วแล้ว จะกลับขอแก้ข้อที่แก้แล้วอีกหนหนึ่งไม่ได้ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๕๐/๑๒๗) | ||
แก้ฟ้องแย้ง | ดู แก้ฟ้อง | |
แกล้งฟ้อง | นำเอาความที่ไม่จริงขึ้นฟ้องร้องผู้อื่นยังโรงศาลฤๅเจ้าพนักงานธุระการ | |
ผู้ใดนำเอาความเท็จไปฟ้องผู้อื่นในทางอาชญายังโรงศาล ผู้นั้นมีความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา มาตรา ๑๕๘ ถ้านำเอาความเท็จไปฟ้องร้องผู้อื่นในทางอาชญายังเจ้าพนักงานธุระการ ผู้ฟ้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา มาตรา ๑๕๙ (ควรดู ป.ก.อ มาตรา ๑๑๘ ด้วย) ผู้ที่แกล้งฟ้องผู้อื่น นอกจากจะต้องมีโทษในทางอาชญาดังได้กล่าวมาแล้วนั้นก็ดี ฤๅฟ้องในชนิดที่ไม่มีโทษในทางอาชญาก็ดี ผู้นั้นยังจะต้องรับผิดชอบในทางแพ่งอีกด้วย (ดู ลักษณะละเมิดใน ป.ก.พ.) | ||
โก่นสร้างเลิกรั้ง | เข้าทำในที่ดินที่ว่างเปล่า เพื่อจะปกครองหวงห้าม |










