สารบัญ

คำนำ · คำชี้แจง · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · · ·


กงสุล · กฎ · กฎยุทธวินัย · กฎมณเฑียรบาล · กฎเสนาบดี · กฎหมาย · กฎหมายนานาประเทศ · กฎหมายปิดปาก · กฎหมายสันนิษฐาน · กฎหมายระวางประเทศ · กฎหมายลักษณะแพ่ง · กฎหมายลักษณะอาชญา · กฎอัยยการศึก · กติกา · กบฎ · กรณีย์ · กรม · กรมการ · กรมตำรวจภูธร · กรมธรรม์ · กรมธรรม์ประกันภัย · กรมธรรม์สัญญา · กรมรักษาทรัพย์ · กรมอัยยการ · กรรม · กรรมกร · กรรมกรณ์ · กรรมการ · กรรมการฎีกา · กรรมสิทธิ์ · กรรมสิทธิ์ผู้แต่งหนังสือ · กระทรวง · กระทรวงกลาโหม · กระทรวงการต่างประเทศ · กระทรวงเกษตราธิการ · กระทรวงทหารเรือ · กระทรวงธรรมการ · กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ · กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม · กระทรวงยุตติธรรม · กระทรวงมหาดไทย · กระทรวงวัง · กระทำ · กระทำทุจริต · กระทำความผิด · กระทำพะยานเท็จ · กระทำมิชอบ · กระทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ · กระทู้ · กระบิล · กระษาปณ์ · กฤษฎีกา · กลฉ้อฉล · กลพะยาน · กล้องสูบฝิ่น · กลางคืน · กสิกรรม · ก่อการจลาจล · กองหมาย · กะเกณฑ์ · กะทง · กะทงแถลง · กะบิล · กัก · กักห้ามเรือ · กันโชก · กานไม้ · การ · การค้าขาย · การณ์ · การณรงค์สงคราม · การพะนัน · การพิจารณาคดีล้มละลาย · การพิมพ์ · การสมรส · การสุขาภิบาล · กำนัน · กำนล · กำนัล · กำเนิด · กำปั่นใบ · กำปั่นไฟ · กำปั่นยนตร์ · กำมะลอ · กำไร · กิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค · กิจการภายในกฎหมาย · กุมเกาะเบาะฉะแลง · กุมมือ · กู้เงิน · กู้ยืม · เกณฑ์ · เกณฑ์จ้าง · เกณฑ์เมืองรั้ง · เกาะ · เกาะกุม · เกวียน · เกียรติยศ · เกษียณ · แกงได · แก้ต่าง · แก้ฟ้อง · แก้ฟ้องแย้ง · แกล้งฟ้อง · โก่นสร้างเลิกรั้ง

พจนานุกรมกฎหมาย

ก.
กงสุล
กงสุล  ผู้แทนรัฐบาลในส่วนค้าขาย
กฎ  ข้อบังคับที่ได้ตั้งขึ้นไว้ เช่น กฎวางระเบียบเครื่องแต่งกายผู้พิพากษาตุลาการ พ.ศ. ๒๔๕๙
กฎยุทธวินัย  ข้อบังคับที่ว่าด้วยวินัยแลการลงอาชญาแก่ทหาร เช่น กฎว่าด้วยยุทธวินัยแลการลงอาชญาทหารบกฐานละเมิดยุทธวินัย พ.ศ. ๒๔๖๔
กฎมณเฑียรบาล  ข้อบังคับว่าด้วยระเบียบการปกครองและรักษาการในพระราชสถาน เช่น กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยครอบครัวข้าราชการในพระราชสำนัก พ.ศ. ๒๔๕๗
กฎเสนาบดี  ข้อบังคับของเจ้ากระทรวงที่ตั้งขึ้นไว้โดยได้รับอำนาจจากกฎหมายที่ได้บ่งบัญญัติไว้ และถือเป็นส่วนหนึ่งแห่งกฎหมายที่ได้ตั้งขึ้น เช่น กฎเสนาบดีมหาดไทย เรื่อง การตรวจคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๔๗๐
กฎหมาย  มีผู้แปลกันต่าง ๆ เช่น ออสบอน (Osborn) ว่า "กฎหมายเป็นข้อบังคับที่ผูกพันความประพฤติให้จำต้องกระทำ" ฮอบบส์ (Hobbes) แปลว่า "คำสั่งของบุคคลผู้หนึ่งหรือหลายคนที่มีอำนาจบังคับประจำตัว" ออสติน (Austin) อธิบายว่า "กฎหมาย คือ เป็นข้อบังคับสำหรับความประพฤติ ซึ่งรฐาธิปัตย์ได้บัญญัติและบังคับไว้" แซลมอนด์ (Salmond) แก้ศัพท์ว่า "กฎหมายเป็นองค์กำหนดการปฏิบัติ ซึ่งบ้านเมืองถือกำหนดและนำมาใช้ในการอำนวยความยุตติธรรม" แบลกสะโตน (Blackstone) ถือว่า "ข้อบังคับแห่งกฎหมายซึ่งได้ทำขึ้นตามประเพณีที่เคยมีมาแต่ก่อน ให้เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย นอกจากผู้ตั้งกฎหมาย หรือตุลาการ" เมน (Maine) นั้น ชี้แจงว่า "มีกฎหมายในระวางประชุมชนมาแต่ครั้งโบราณ" ซาวิญีย์ (Savigny) ถือว่า "กฎหมายนั้นย่อมเจริญขึ้นในตนเองได้โดยตามลำดับ แต่ไม่เป็นไปตามใจของผู้ออกกฎหมาย" เจอริง (Jhering) เห็นผลที่สุดของกฎหมายว่า เป็น "กำหนดเขตต์ของผลประโยชน์" วิโนกราดอฟฟ์ (Vinogradoff) เห็นว่า กฎหมายเป็น "ข้อบังคับชุดหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นและบังคับฝูงชน เนื่องด้วยการถืออำนาจและใช้อำนาจเหนือบุคคลแลสิ่งของ" เดอ มอนต์โมเรนซี (De Montmorency) กระจายศัพท์กฎหมายลงว่า "เป็นข้อบังคับซึ่งรัดรึงคนทั้งหลายให้เข้าเป็นหมู่คณะ ในการที่จะต่อต้านกับธรรมชาติที่ห้อมล้อมโดยรอบกาย"
 แต่ถ้าจะแปลกันอย่างสั้น ๆ แล้ว ก็ควรจะต้องกล่าวว่า "กฎหมาย เป็นคำสั่งหรือข้อบังคับของผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดสูงสุดในประเทศเอกราช ได้บัญชาลงไว้ให้ผู้ที่อยู่ใต้บังคับประพฤติตาม ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน ผู้นั้นจะต้องถูกบังคับให้ต้องรับโทษหรือสำนอง"
 กฎหมายแบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ—
 (๑) สารบัญญัติ คือ กฎหมายที่ว่าด้วยสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของบุคคลทั่วไป เช่น ประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา (ฉะเพาะความใน ภาคที่ ๒) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ในส่วนที่มิใช่เกี่ยวแก่วิธีพิจารณา) เป็นต้น
 (๒) สบัญญัติ คือ กฎหมายที่ว่าด้วยกระบวนพิจารณาสำหรับชำระความในศาล เพื่อดำเนิรการบังคับให้เป็นผลตามสิทธิที่มีอยู่ กล่าวคือ การพิจารณาให้ล่วงรู้ว่า กิจการใดที่บุคคลใดได้ทำไปเป็นผิดหรือชอบด้วยสารบัญญัติประการใด เช่น พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความแพ่ง ร.ศ. ๑๒๗, พระราชบัญญัติลักษณะพะยาน ร.ศ. ๑๑๓ เป็นต้น
 สารบัญญัติยังแบ่งออกได้อีก ๒ อย่าง คือ—
 (๑) อาชญา คือ กฎหมายที่ลงโทษคนในทางอาชญา (ดู กฎหมายลักษณะอาชญา)
 (๒) แพ่ง คือ กฎหมายที่บังคับ ปรับปรุง หรือใช้สินไหมทดแทน เพราะเหตุที่กระทำละเมิดหรือผิดสัญญาต่อกัน (ดู กฎหมายลักษณะแพ่ง)
 แพ่งนั้น ยังแบ่งออกได้เป็นอีก ๒ ชะนิด คือ—
 (๑) สัญญา (ดู สัญญา)
 (๒) ละเมิด (ดู ละเมิด)
 กฎหมายที่ใช้กันอยู่ในบัดนี้ มี ๒ อย่าง คือ อย่างหนึ่งออกบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษร ที่เรียกว่า "ประมวล" (Code) เช่น ประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ของไทยเรา เป็นต้น อีกอย่างหนึ่ง ไม่ได้ออกบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างที่เรียกว่า "กฎหมายธรรมดา" (Common Law) มีของอังกฤษเป็นอาทิ พระสารสาสน์ประพันธ์ (ชื้น จารุวัสตร์) เรียกกฎหมายที่ประกาศเป็นบทมาตราแล้วว่า "บทกฎหมาย" ตรงกับภาษาละตินว่า "Lex" เรียกกฎหมายทั่ว ๆ ไป จะประกาศเป็นบทมาตราแล้วหรือยังก็ตาม ว่า "กฎหมาย" ตรงกับภาษาละตินว่า "Jus" (ดู ฟุตโน๊ตในคำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉะบับเก่า) ตอนที่ ๓ หน้า ๓๑๘ ของท่านผู้นี้)
กฎหมายนานาประเทศ  ดู กฎหมายระวางประเทศ
กฎหมายปิดปาก  ดู บทตัดสำนวน
กฎหมายสันนิษฐาน  ความสันนิษฐานของกฎหมาย ในเมื่อมีเหตุการณ์อันเป็นข้อเท็จจริงอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแล้ว ให้ถือว่า ผลต้องฤๅควรเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ฤๅเท่ากับเป็นเช่นนั้นเช่นนี้
 ข้อสันนิษฐานในทางกฎหมายนั้น พอแบ่งออกได้เป็น ๒ อย่าง คือ–
 (๑) สันนิษฐานโดยข้อกฎหมาย เช่น กฎหมายลักษณะอาชญา มาตรา ๕๖ สันนิษฐานว่า เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ ไม่รู้เดียงสา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๔–๖๕ สันนิษฐานว่า คนที่สาบสูญไปตั้ง ๗ ปีนั้น ตาย
 ข้อนี้ยังแบ่งออกได้อีก ๒ ประการ คือ—
 (ก) สันนิษฐานเด็ดขาด คือ ไม่ยอมให้สืบพะยานหักล้าง เช่น เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ ที่กฎหมายสันนิษฐานว่า ไม่รู้เดียงสา จะนำสืบว่า รู้เดียงสา ไม่ได้ (ป.ก.อ. มาตรา ๕๖)
 (ข) สันนิษฐานไม่เด็ดขาด คือ ยอมให้สืบพะยานหักล้างได้ เช่น ผู้ที่มิได้เล่นการพะนัน แต่ถูกจับในวงการพะนันที่เล่นกันโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กฎหมายสันนิษฐานก่อนว่าผู้ถูกจับเป็นผู้เล่น แต่ผู้ถูกจับสืบหักล้างได้ว่าไม่ได้เล่น (พ.ร.บ. การพะนัน พ.ศ. ๒๔๗๓ มาตรา ๖)
 (๓) สันนิษฐานโดยข้อเท็จจริง เช่น ใช้ปืนยิงคน ตามธรรมดาต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ยิงตั้งใจจะฆ่าผู้ถูกยิงให้ตาย เพราะปืนเป็นอาวุธร้ายแรงมาก (ดู คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๐๔/๑๒๘, ๕๔๗/๑๒๘) แต่นำสืบหักล้างได้
กฎหมายระวางประเทศ  แบบธรรมเนียม ประเพณี และกฎข้อบังคับ สำหรับความประพฤติของประเทศต่าง ๆ ต่อกันแลกัน(ดู พระราชนิพนธ์ หัวข้อกฎหมายนานาประเทศแผนกคดีเมือง ของ พระมงกุฎเกล้าฯ หน้า ๓)
 บางคนเรียก กฎหมายระวางประเทศ ว่า "ธรรมะระวางประเทศ" เพราะไม่เป็นกฎหมายบริบูรณ์ คือ ขาดการบังคับได้อย่างจริงจังในเมื่อมีผู้กระทำผิด
กฎหมายลักษณะแพ่ง  กฎหมายที่กำหนดอำนาจและหน้าที่ของบุคคลผู้ที่กระทำผิด เป็นการกระทำผิดต่อเอกชน จะได้รับผลเพียงถูกบังคับใช้ทรัพย์ฤๅใช้สินไหมทดแทน เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
กฎหมายลักษณะอาชญา  กฎหมายที่บัญญัติความผิด ซึ่งโดยมากเป็นการกระทำผิดต่อประชาชน ฤๅประชาชนได้รับความเสียหาย โดยกำหนดการลงโทษผู้กระทำผิดไว้เป็นอาชญา เช่น ประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา
กฎอัยยการศึก  กฎหมายที่ใช้บังคับเหนือกฎหมายธรรมดาโดยอำนาจศาลทหารชั่วครั้งคราวเพื่อการปกครองท้องที่ เช่น พระราชบัญญัติกฎอัยยการศึก พ.ศ. ๒๔๕๗ (ดู ศาลสนาม)
กติกา  การกำหนด, การนัดหมาย
กบฎ  ดู ขบถ
กรณีย์  คดีความ, เรื่อง, กิจการที่กระทำ
กรม  ราชการแผนกหนึ่ง ๆ ที่แบ่งออกจากทะบวงการ ซึ่งมีหัวหน้าเป็นเจ้ากรมหรืออธิบดีปกครองบังคับบัญชา เช่น กรมตำรวจภูธร
กรมการ  ดู กรรมการ
กรมตำรวจภูธร  ราชการแผนกหนึ่งซึ่งมีอธิบดีเป็นหัวหน้า มีหน้าที่ในการจัดตั้งตำรวจฯ ขึ้นปราบปรามโจรผู้ร้ายและรักษาศานติสุขแห่งประชาชน (ดู ตำรวจ)
กรมธรรม์  หนังสือสัญญาที่ทำขึ้นตามแบบ และจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่
 มีหนังสืออีกชะนิดหนึ่งซึ่งมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงาน กฎหมายก็เรียกว่า "กรมธรรม์" คือ หนังสือตราสารที่ผู้รับประกันภัยทำให้แก่ผู้เอาประกันภัยในเรื่องประกันภัย แต่เรียกว่า "กรมธรรม์ประกันภัย" (ป.ก.พ. มาตรา ๘๖๗)
กรมธรรม์ประกันภัย  หนังสือตราสารที่ผู้รับประกันภัยทำให้แก่ผู้เอาประกันภัยในการประกันภัย
 กรมธรรม์ประกันภัยนี้ต้องลงลายมือชื่อผู้รับประกันภัย แลมีรายการดังต่อไปนี้—
 (๑) วัตถุที่เอาประกันภัย
 (๒) ภัยใดซึ่งผู้เอาประกันภัยรับเสี่ยง
 (๓) ราคาแห่งมูลประกันภัย ถ้าหากได้กำหนดกันไว้
 (๔) จำนวนเงินซึ่งเอาประกันภัย
 (๕) จำนวนเบี้ยประกันภัย และวิธีส่งเบี้ยประกันภัย
 (๖) ถ้าหากสัญญาประกันภัยมีกำหนดเวลา ต้องลงเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดไว้ด้วย
 (๗) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับประกันภัย
 (๘) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้เอาประกันภัย
 (๙) ชื่อของผู้รับประโยชน์ ถ้าจะพึงมี
 (๑๐) วันทำสัญญาประกันภัย
 (๑๑) สถานที่และวันที่ได้ทำกรมธรรม์ประกันภัย
 (ป.ก.พ. มาตรา ๘๖๗)
กรมธรรม์สัญญา  ดู กรมธรรม์
กรมรักษาทรัพย์  ราชการแผนกหนึ่งซึ่งมีเจ้ากรมเป็นหัวหน้า มีหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สมบัติของผู้ที่ต้องล้มละลายตามคำสั่งของศาล กับทั้งเป็นผู้จัดการทรัพย์สมบัติของผู้ที่ถูกล้มละลายด้วย
กรมอัยยการ  ราชการแผนกหนึ่งที่มีอธิบดีเป็นหัวหน้า มีหน้าที่เป็นทนายแทนแผ่นดินและฟ้องความแทนราษฎรในคดีอาชญาและคดีแพ่งที่กฎหมายกำหนดไว้ฤๅที่ราษฎรไม่สามารถจะฟ้องด้วยตนเองได้ (ดู อัยยการ)
กรรม  การ, กระทำ, เจตนา, งาร, กิจ, ธุระ, หน้าที่
กรรมกร  บุคคลผู้มีอาชีพในทางทำการงาร, คนงาร
กรรมกรณ์  เครื่องสำหรับลงอาชญา เครื่องจองจำ เช่น โซ่ ตรวน เป็นต้น
กรรมการ  บุคคลผู้มีหน้าที่ประชุดจัดการงารของนิติบุคคล เช่น กรรมการของบริษัท กรรมการของสมาคม เป็นต้น และคนที่มีหน้าที่ตัดสินกรณีย์หรือพฤติการณ์อย่างใด ๆ เช่น กรรมการของศาลทหาร, กรรมการจัดการกิฬา เป็นอาทิ
กรรมการฎีกา  ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาศาลนี้ที่จะเป็นองค์คณะตรวจตัดสินฎีกาได้ต้องมีไม่น้อยกว่า ๓ คน
กรรมสิทธิ์  อำนาจแห่งความสำเร็จเด็ดขาดในการที่จะยึดถือ ใช้ เก็บประโยชน์ ซื้อ ขาย จำหน่าย หรือทำลายทรัพย์นั้นได้ เมื่อไม่มีกฎหมายห้าม
 กรรมสิทธิ์เกิดขึ้นได้ดังนี้—
 (๑) โดยเข้ายึดถือ
 (๒) โดยอายุความ
 (๓) โดยทำขึ้น
 (๔) โดยเป็นส่วนหนึ่งแห่งของเดิม
 (๕) โดยเจ้าของโอนให้
 (๖) โดยทางมฤดก
 อำนาจกรรมสิทธิ์นี้ ตามธรรมดาย่อมมีอยู่แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์เสมอไป เว้นไว้แต่—
 (๑) เจ้าของสละ เช่น ขายทรัพย์ให้แก่ผู้อื่นโดยถูกต้องตามกฎหมาย อำนาจกรรมสิทธิ์นี้ขาดทันที xxx
 xxx
 xxx
กรรมสิทธิ์ผู้แต่งหนังสือ  xxxxxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
กระทรวง  xxx
กระทรวงกลาโหม  xxx
กระทรวงการต่างประเทศ  xxx
กระทรวงเกษตราธิการ  xxx
กระทรวงทหารเรือ  xxx
กระทรวงธรรมการ  xxx
กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ  xxx
กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม  xxx
กระทรวงยุตติธรรม  xxx
กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงที่มีหน้าที่ในการจัดการปกครองรักษาประชาชนในพระราชอาณาจักร์
กระทรวงวัง  กระทรวงที่มีหน้าที่จัดการต่าง ๆ ในพระราชสำนักอันเกี่ยวในส่วนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแลพระบรมราชวงศ์ กับจัดการงารในพระราชพิธีต่าง ๆ
กระทำ  xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxxxxx
กระทำการทุจริต  xxx
กระทำความผิด  xxx
กระทำพยานเท็จ  xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
กระทำมิชอบ  xxx
กระทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ  xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
กระทู้  xxx
กระบิล  xxx
กระษาปณ์  xxx
กฤษฎีกา  xxx
กลฉ้อฉล  xxx
กลพะยาน  xxx
กล้องสูบฝิ่น  xxx
กลางคืน  xxx
กสิกรรม  xxx
ก่อการจลาจล  xxx
กองหมาย  xxx
กะเกณฑ์  xxx
กะทง  xxx
กะทงแถลง  xxx
กะบิล  xxx
กัก  xxx
กักห้ามเรือ  xxx
กันโชก  xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
 xxx
กานไม้  xxx
การ  xxx
การค้าขาย  xxx
การณ์  xxx
การณรงค์สงคราม  xxx
การพะนัน  xxx
 xxx
 xxxxxx
 xxx
การพิจารณาคดีล้มละลาย  xxx
การพิมพ์  xxx
การสมรส  xxx
การสุขาภิบาล  xxx
กำนัน  xxx
กำนล  xxx
กำเนิด  xxx
กำปั่นใบ  xxx
กำปั่นไฟ  xxx
กำปั่นยนตร์  xxx
กำมะลอ  xxx
กำไร  xxx
กิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค  xxx
กิจการในกฎหมาย  xxx
กุมเกาะเบาะฉะแลง  xxx
กุมมือ  xxx
กู้เงิน  xxx
กู้ยืม  xxx
 xxxแต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ออกใช้อยู่ในบัดนี้ รวมเรียกว่า "กู้ยืม" เป็นคำเดียว ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า "Loan"
เกณฑ์  ดู กะเกณฑ์
เกณฑ์จ้าง  การเกณฑ์สัตว์พาหนะหรือยานพาหนะ หรือเกณฑ์แรงราษฎร ให้ช่วยในทางราชการ โดยราชการให้ค่าจ้างแก่ผู้ถูกเกณฑ์ตามสมควร (พ.ร.บ. เกณฑ์จ้าง ร.ศ. ๑๑๙ มาตรา ๕–๖)
เกณฑ์เมืองรั้ง  ตำแหน่งสำรองผู้ว่าราชการจังหวัด
เกาะ  แผ่นดินที่มีน้ำล้อมรอบ, จับ, กุม, ปรับ
เกาะกุม  จับกุม, ควบคุม
เกวียน  ยานพาหนะประเภทหนึ่ง มีล้อสองล้อ ใช้ไม้ประกอบเป็นเครื่องผูก มีหลังคาก็ดี หรือไม่มีหลังคาก็ดี ใช้เทียมด้วยสัตว์พาหนะ เช่น โค กระบือ เป็นต้น หรือเกวียนซึ่งเรียกในท้องที่บางแห่งว่า ระแทะ ก็ดี รวมเรียกว่า เกวียน เว้นไว้แต่เกวียนบรรทุกอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีล้อทำด้วยเหล็กทั้งตัว หรือล้อมีเครื่องเหล็กประกอบใช้ฉะเพาะท้องที่มีถนนแล้ว เกวียนชนิดนี้เรียกว่า เกวียนล้อเหล็ก ไม่นับเป็นเกวียนตามพระราชบัญญัติขนาดเกวียนนี้ (พ.ร.บ. ขนาดเกวียน พ.ศ. ๒๔๕๙ มาตรา ๓)
เกียรติยศ  ยศคือความสรรเสริญ
เกษียณ  เสื่อมไป, หมดไป
แกงได  รอยขีดเขียนซึ่งบุคคลไม่รู้หนังสือเขียนลงไว้ในจดหมาย (ป.ก.อ. มาตรา ๖ (๒๑))
แก้ต่าง  ทนายผู้ว่าความต่างจำเลย (ดู ผู้แก้ต่าง และ ทนายความ)
แก้ฟ้อง  (๑) ให้การแก้ฟ้องโจทก์ (ดู ให้การ) (๒) แก้ข้อความในฟ้อง ก่อนเวลาจำเลยรับหมายและให้การ โจทก์มีโอกาศจะแก้ฟ้องได้ แต่ถ้าจำเลยได้รับหมายและยื่นคำให้การแล้ว โจทก์จะต้องขออนุญาตต่อศาลและแจ้งความให้จำเลยทราบก่อน เพื่อให้จำเลยมีโอกาศค้าน ศาลมีอำนาจที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ได้ สุดแต่ศาลจะเห็นสมควร (พ.ร.บ. วิธีพิจารณาความแพ่ง ร.ศ. ๑๒๗ มาตรา ๖๓ และดู มาตรา ๒๔ ใน พ.ร.บ. นี้ด้วย)
 ฟ้องข้อใดที่โจทก์ขอแก้วแล้ว จะกลับขอแก้ข้อที่แก้แล้วอีกหนหนึ่งไม่ได้ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๕๐/๑๒๗)
แก้ฟ้องแย้ง  ดู แก้ฟ้อง
แกล้งฟ้อง  นำเอาความที่ไม่จริงขึ้นฟ้องร้องผู้อื่นยังโรงศาลฤๅเจ้าพนักงานธุระการ
 ผู้ใดนำเอาความเท็จไปฟ้องผู้อื่นในทางอาชญายังโรงศาล ผู้นั้นมีความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา มาตรา ๑๕๘ ถ้านำเอาความเท็จไปฟ้องร้องผู้อื่นในทางอาชญายังเจ้าพนักงานธุระการ ผู้ฟ้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาชญา มาตรา ๑๕๙ (ควรดู ป.ก.อ มาตรา ๑๑๘ ด้วย) ผู้ที่แกล้งฟ้องผู้อื่น นอกจากจะต้องมีโทษในทางอาชญาดังได้กล่าวมาแล้วนั้นก็ดี ฤๅฟ้องในชนิดที่ไม่มีโทษในทางอาชญาก็ดี ผู้นั้นยังจะต้องรับผิดชอบในทางแพ่งอีกด้วย (ดู ลักษณะละเมิดใน ป.ก.พ.)
โก่นสร้างเลิกรั้ง  เข้าทำในที่ดินที่ว่างเปล่า เพื่อจะปกครองหวงห้าม