พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา/ภาค 1
พระราชพงษาวดาร
ฉบับพระราชหัดถเลขา
ภาค ๑
ฉบับพระราชหัดถเลขา
ภาค ๑
พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์
กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
พิมพ์ขึ้นเปนส่วนพระกุศลทานมัยในงานพระศพ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ (ชั้น ๓) กรมหลวงวรเสฐสุดา
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค
กรมขุนอรรควรราชกัญญา
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร
กรมขุนพิจิตรเจษฎจันทร์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล
กรมขุนสวรรคโลกย์ลักษณวดี
สารบานเรื่อง | |||
น่า
|
๑ | ||
”
|
๑ | ||
แผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ จุลศักราช ๗๑๒–๗๓๑ | |||
สร้างกรุงศรีอยุธยา |
น่า
|
๑ | |
สร้างพระที่นั่งไพฑูริย์มหาปราสาท |
”
|
๑ | |
สร้างพระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาท |
”
|
๑ | |
สร้างพระที่นั่งไอสวรรย์มหาปราสาท |
”
|
๑ | |
ให้พระบรมราชาพี่พระมเหษีครองเมืองสุพรรณบุรี |
”
|
๑ | |
ให้พระราเมศวรราชโอรสครองเมืองลพบุรี |
”
|
๑ | |
ชื่อเมืองประเทศราชขึ้นกรุงศรีอยุทธยา |
”
|
๑ | |
ให้พระราเมศวรไปตีกรุงกัมพูชา |
”
|
๑ | |
ให้สมเด็จพระบรมราชาธิราชไปตีกรุงกัมพูชา |
”
|
๒ | |
ถวายตำหนักเวียงเหล็กเปนวัดพุทไธสวรรย์ |
”
|
๒ | |
สร้างวัดป่าแก้ว |
”
|
๒ | |
สมเด็จพระรามาธิบดีสวรรคต |
”
|
๒ | |
แผ่นดินสมเด็จพระราเมศวร ครั้งที่ ๑ จุลศักราช ๗๓๑–๗๓๒ | |||
สมเด็จพระบรมราชาธิราชชิงราชสมบัติ |
น่า
|
๓ | |
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ จุลศักราช ๗๓๒–๗๔๔ | |||
เสด็จไปเอาเมืองฝ่ายเหนือ |
น่า
|
๓ | |
ได้เมืองเหนือทั้งปวง |
”
|
๓ | |
เสด็จไปเอาเมืองนครพังคา เมืองแซงเซรา |
”
|
๓ | |
เสด็จไปเอาเมืองชากังราว ครั้งที่ ๑ |
”
|
๓ | |
สร้างพระศรีรัตนมหาธาตุ |
”
|
๓ | |
เสด็จไปเอาเมืองพิศณุโลก |
”
|
๓ | |
เสด็จไปเอาเมืองชากังราว ครั้งที่ ๒ |
”
|
๔ | |
เสด็จไปเอาเมืองชากังราว ครั้งที่ ๓ |
”
|
๔ | |
เสด็จไปเอาเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๔ | |
ได้เมืองนครลำปาง |
”
|
๔ | |
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ สวรรคต |
”
|
๔ | |
แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทองจันทร์ ๑๕ วัน | |||
พระราเมศวรจับพระเจ้าทองจันทร์ปลงพระชนม์ |
น่า
|
๔ | |
แผ่นดินสมเด็จพระราเมศวร ครั้งที่ ๒ จุลศักราช ๗๔๔–๗๔๙ | |||
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ |
น่า
|
๔ | |
ได้เมืองเชียงใหม่ |
”
|
๕ | |
เสด็จกลับ ทำพิธีประเวศพระนคร ครั้งที่ ๑ |
”
|
๖ | |
ส่งเชลยเชียงใหม่ไปไว้หัวเมืองชายทเล |
น่า
|
๖ | |
สร้างวัดมหาธาตุ |
”
|
๖ | |
เฉลิมพระราชมณเฑียร |
”
|
๖ | |
พระยากัมพูชามาตีเมืองชลบุรี |
”
|
๖ | |
เสด็จไปตีกรุงกัมพูชา |
”
|
๖ | |
ได้กรุงกัมพูชา |
”
|
๖ | |
เสด็จกลับ ทำพิธีประเวศพระนคร |
”
|
๗ | |
ญวนมารบ รักษากรุงกัมพูชายาก จึงให้กวาดครัวขอมมาสู่พระนคร |
”
|
๗ | |
สร้างวัดภูเขาทอง |
”
|
๗ | |
สมเด็จพระราเมศวรสวรรคต |
”
|
๗ | |
แผ่นดินสมเด็จพระเจ้ารามราชาธิราช จุลศักราช ๗๔๙–๗๖๓ | |||
เจ้าพระยามหาเสนาเปนขบถ |
น่า
|
๗ | |
พระนครอินทรเข้ามาจากสุพรรณ ชิงราชสมบัติ |
”
|
๗ | |
แผ่นดินสมเด็จพระอินทราชาธิราชที่ ๑ จุลศักราช ๗๖๓–๗๘๐ | |||
ให้สมเด็จพระเจ้ารามไปอยู่เมืองปทาคูจาม |
น่า
|
๗ | |
เมืองเหนือเปนจลาจล |
”
|
๘ | |
เสด็จขึ้นไปปราบเมืองเหนือถึงเมืองพระบาง |
”
|
๘ | |
ตั้งลูกหลวงครองเมืองสุพรรณ เมืองแพรกศรีราชา แลเมืองไชยนาท |
น่า
|
๘ | |
สมเด็จพระอินทราชาธิราชสวรรคต |
”
|
๘ | |
เจ้าอ้ายพระยา เจ้ายี่พระยา ชิงราชสมบัติกัน |
”
|
๘ | |
เจ้าสามพระยาได้ราชสมบัติ |
”
|
๘ | |
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ จุลศักราช ๗๘๐–๗๙๖ | |||
สร้างวัดราชบุรณะ |
น่า
|
๘ | |
ก่อพระเจดีย์ตรงที่เจ้าอ้าย เจ้ายี่ ชนช้าง |
”
|
๙ | |
เสด็จไปกรุงกัมพูชา (พระนครหลวง) |
”
|
๙ | |
ได้กรุงกัมพูชา |
”
|
๙ | |
ขนรูปสัตวของโบราณมาจากกรุงกัมพูชา |
”
|
๙ | |
สร้างวัดมเหยงค์ |
”
|
๙ | |
ตั้งพระราเมศวรราชโอรสไปครองเมืองพิศณุโลก |
”
|
๙ | |
ไฟไหม้พระราชมณเฑียร |
”
|
๙ | |
ไฟไหม้พระที่นั่งตรีมุข |
”
|
๙ | |
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๑ |
”
|
๙ | |
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๒ |
”
|
๙ | |
ได้เมืองเชียงใหม่ |
”
|
๙ | |
สมเด็จพระบรมราชาธิราชสวรรคต |
”
|
๙ | |
แผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ จุลศักราช ๗๙๖–๘๑๑[1] | |||
ย้ายพระราชวังมาตั้งริมน้ำ |
น่า
|
๑๐ | |
สร้างพระที่นั่งเบญจรัตนปราสาท |
”
|
๑๐ | |
สร้างพระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท |
”
|
๑๐ | |
ตั้งตำแหน่งอรรคมหาเสนาแลจตุสดมภ์ |
”
|
๑๐ | |
ตั้งตำแหน่งศักดินา |
”
|
๑๐ | |
สร้างวัดพระราม |
”
|
๑๐ | |
คนออกทรพิศม์ตายมาก |
”
|
๑๐ | |
แต่งทัพไปตีเมืองมะละกา |
”
|
๑๐ | |
แต่งทัพไปตีเมืองศรีสพเถิน เสด็จหนุนทัพไปถึงบ้านโคน |
”
|
๑๐ | |
เข้าแพง |
”
|
๑๐ | |
หล่อรูปพระโพธิสัตว ๕๕๐ ชาติ |
”
|
๑๐ | |
สร้างวัดจุฬามณี (ที่เมืองพิศณุโลก) |
”
|
๑๐ | |
พระยาชะเลียงขบถ เอาครัวไปขึ้นเชียงใหม่ |
”
|
๑๐ | |
พระยาชะเลียงนำทัพเชียงใหม่มาตีเมืองเหนือ |
”
|
๑๑ | |
สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถกับพระอินทราชารบทัพเชียงใหม่ที่เมืองกำแพงเพ็ชร |
”
|
๑๑ | |
พระอินทราชาชนช้างด้วยหมื่นนคร |
”
|
๑๑ | |
สร้างวิหารวัดจุฬามณี |
น่า
|
๑๑ | |
สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถทรงผนวชที่วัดจุฬามณี |
”
|
๑๑ | |
สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถสวรรคต |
”
|
๑๑ | |
แผ่นดินสมเด็จพระอินทราชาที่ ๒ จุลศักราช ๘๑๑–๘๓๕[2] | |||
มหาราชเชียงใหม่ชิงราชสมบัติกับท้าวลูก (ท้าวลก คือ ติโลกราช) |
น่า
|
๑๑ | |
ได้ช้างเผือกพัง |
”
|
๑๑ | |
สมภพ (พระบรมราชา) พระราชโอรส |
”
|
๑๑ | |
เสด็จไปเมืองชะเลียง |
”
|
๑๑ | |
ตั้งเมืองนครไทย |
”
|
๑๒ | |
พระราชทานอภิเศกพระยาเมืองขวาเปนพระยาล้านช้าง |
”
|
๑๒ | |
ฉลองพระศรีรัตนมหาธาตุ |
”
|
๑๒ | |
พระบรมราชาราชโอรสทรงผนวช (สามเณร) |
”
|
๑๒ | |
ตั้งพระบรมราชาเปนพระมหาอุปราช |
”
|
๑๒ | |
มหาราชเชียงใหม่ท้าวลูกพิราไลย |
”
|
๑๒ | |
พระบรมราชาเสด็จไปตีเมืองทวาย |
”
|
๑๒ | |
แรกก่อกำแพงเมืองพิไชย |
”
|
๑๒ | |
สมเด็จพระอินทราชาสวรรคต |
”
|
๑๒ | |
แผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ จุลศักราช ๘๓๕–๘๗๑[3] | |||
ประดิษฐานพระอัฐิสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถแลสมเด็จพระอินทราชาในมหาสถูป (วัดพระศรีสรรเพชญ์) |
น่า
|
๑๓ | |
ทำพระราชพิธีเบญจาเพศ เล่นการดึกดำบรรพ์ |
”
|
๑๓ | |
ทำพระราชพิธีปฐมกรรม |
”
|
๑๓ | |
หล่อพระพุทธรูปศรีสรรเพชญ์ |
”
|
๑๓ | |
สร้างพระวิหารวัดศรีสรรเพชญ์ |
”
|
๑๓ | |
ทำตำราพิไชยสงคราม |
”
|
๑๓ | |
แรกทำสารบาญชี |
”
|
๑๓ | |
ชำระคลองสำโรงไปศีศะจรเข้ |
”
|
๑๓ | |
ชำระคลองทับนางไปปากน้ำเจ้าพระยา |
”
|
๑๓ | |
ขุดได้เทวรูปโบราณ สร้างศาลไว้ที่เมืองพระประแดง |
”
|
๑๓ | |
เกิดเหตุเรื่องบัตรสนเท่ห์ ให้ฆ่าขุนนางมาก |
”
|
๑๔ | |
น้ำน้อย เข้าตายฝอย |
”
|
๑๔ | |
ตั้งพระอาทิตยวงษ์ราชโอรสเปนพระมหาอุปราชครองเมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๔ | |
สมเด็จพระรามาธิบดีสวรรคต |
”
|
๑๔ | |
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชามหาพุทธางกูร จุลศักราช ๘๗๑–๘๗๕ | |||
สมเด็จพระบรมราชามหาพุทธางกูรสวรรคต |
น่า
|
๑๔ | |
แผ่นดินสมเด็จพระรัฏฐาธิราช ๕ เดือน | |||
พระไชยราชาปลงพระชนม์สมเด็จพระรัฏฐาธิราช |
น่า
|
๑๕ | |
แผ่นดินสมเด็จพระไชยราชาธิราช จุลศักราช ๘๗๖–๘๘๙ | |||
แรกให้พูนดินวัดชีเชียง |
น่า
|
๑๕ | |
เสด็จไปเชียงกราน |
”
|
๑๕ | |
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๑ |
”
|
๑๕ | |
ไฟไหม้ใหญ่ในพระนคร |
”
|
๑๕ | |
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๒ |
”
|
๑๖ | |
สมเด็จพระไชยราชาธิราชสวรรคต |
”
|
๑๖ | |
แผ่นดินสมเด็จพระยอดฟ้า จุลศักราช ๘๘๙–๘๙๐ | |||
พระเทียรราชาออกทรงผนวช |
น่า
|
๑๗ | |
มีช้างบำรูงา |
”
|
๑๗ | |
ท้าวศรีสุดาจันทร์เปนชู้กับพันบุตรศรีเทพ |
”
|
๑๗ | |
ตั้งพันบุตรศรีเทพเปนขุนวรวงษาว่าราชการแผ่นดิน |
”
|
๑๘ | |
แผ่นดินขุนวรวงษาธิราช ๔ เดือน | |||
ราชาภิเศกขุนวรวงษาธิราช |
น่า
|
๑๙ | |
ขุนวรวงษาธิราชปลงพระชนม์สมเด็จพระแก้วฟ้า |
”
|
๑๙ | |
ขุนพิเรนทรเทพกับข้าราชการคิดถวายราชสมบัติแก่พระเทียรราชา |
”
|
๑๙ | |
พระเทียรราชาเสี่ยงเทียน |
”
|
๒๐ | |
ขุนพิเรนทรเทพกับข้าราชการกำจัดขุนวรวงษาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์ |
”
|
๒๓ | |
ถวายราชสมบัติแก่พระเทียรราชา |
”
|
๒๔ | |
แผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราช ครั้งที่ ๑ จุลศักราช ๘๙๑–๙๑๔ | |||
ราชาภิเศกสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ |
น่า
|
๒๔ | |
ตั้งขุนพิเรนทรเทพเปนพระมหาธรรมราชา |
”
|
๒๔ | |
พระราชทานพระวิสุทธิกระษัตรีราชธิดาเปนมเหษีพระมหาธรรมราชา |
”
|
๒๕ | |
ปูนบำเหน็จข้าราชการที่กำจัดขุนวรวงษาธิราช |
”
|
๒๕ | |
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๑ พระเจ้าหงษาวดีตเบงชเวตี หรือสุวรรณเอกฉัตร ยกมาถึงกรุงฯ แล้วกลับ |
”
|
๒๖ | |
พระยาลแวกยกมาตีเมืองปาจิณบุรี |
”
|
๒๗ | |
ถวายวังเดิมสร้างเปนวัดวังไชย |
”
|
๒๗ | |
ทำพระราชพิธีปฐมกรรมที่ตำบลท่าแดง |
”
|
๒๗ | |
เสด็จไปตีเมืองลแวก |
”
|
๒๘ | |
พระยาลแวกยอมแพ้ ถวายนักพระสุโท นักพระสุทัน ราชบุตร |
น่า
|
๒๘ | |
แปลงเรือแซเปนเรือไชยแลเรือศีศะสัตว |
”
|
๒๙ | |
ทำพระราชพิธีมัธยมที่ไชยนาทบุรี |
”
|
๒๙ | |
ได้ช้างเผือกพลายเมืองกาญจนบุรีชื่อ พระคเชนทโรดม |
”
|
๒๙ | |
แต่งกองทัพให้นักพระสุทันไปรบญวนที่เมืองลแวก |
”
|
๓๐ | |
ไฟไหม้ในพระราชวัง |
”
|
๓๐ | |
ทำพระราชพิธีอาจาริยาภิเศก |
”
|
๓๐ | |
ทำพระราชพิธีอินทราภิเศก |
”
|
๓๐ | |
พระราชทานสัตตสดกมหาทาน |
”
|
๓๐ | |
ทัพหงษาวดี ครั้งที่ ๒ พระเจ้าหงษาวดีสุวรรณเอกฉัตรยกมาตีกรุง |
”
|
๓๑ | |
ขุดคลองมหานาค |
”
|
๓๒ | |
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิชนช้างกับพระเจ้าแปร |
”
|
๓๕ | |
สมเด็จพระสุริโยไทยชนช้างสิ้นพระชนม์ |
”
|
๓๕ | |
พระมหาธรรมราชายกทัพเมืองเหนือลงมาตั้งที่เมืองไชยนาท |
”
|
๓๘ | |
พระเจ้าหงษาวดีขัดเสบียง ยกกองทัพกลับทางเหนือ |
”
|
๔๐ | |
พระราเมศวร พระมหินทราธิราช พระสุนทรสงคราม ยกกองทัพตามพระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๔๑ | |
ทัพพระเจ้าแปรตีทัพน่าพระมหาธรรมราชาแตกที่เมืองอินทบุรี |
”
|
๔๓ | |
พระมหาธรรมราชายกหนีทัพหงษาวดี |
”
|
๔๓ | |
มอญจับพระราเมศวรกับพระมหินทราธิราชได้ |
”
|
๔๔ | |
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิให้ข้าหลวงขึ้นไปขอพระราเมศวรพระมหินทราธิราช |
น่า
|
๔๕ | |
พระเจ้าหงษาวดีขอช้างพลายศรีมงคล พลายมงคลทวีป |
”
|
๔๖ | |
พระเจ้าหงษาวดีคืนช้างพลายศรีมงคล พลายมงคลทวีป |
”
|
๔๗ | |
พระมหาธรรมราชาลงมาเฝ้า |
”
|
๔๗ | |
ทำการพระศพสมเด็จพระสุริโยไทย |
”
|
๔๗ | |
สร้างวัดสบสวรรค์ |
”
|
๔๗ | |
ตั้งบ้านท่าจีนเปนเมืองสาครบุรี |
”
|
๔๗ | |
ตั้งบ้านตลาดขวัญเปนเมืองนนทบุรี |
”
|
๔๗ | |
ตั้งเมืองนครไชยศรี |
”
|
๔๗ | |
รื้อกำแพงเมืองลพบุรี เมืองนครนายก เมืองสุพรรณบุรี |
”
|
๔๘ | |
พิจารณาเลขสังกัดสมพรรค์ |
”
|
๔๘ | |
พระศรีศิลป์เปนขบถ |
”
|
๔๘ | |
ได้ช้างเผือกพลายที่ตำบลไทรย้อยชื่อ พระรัตนากาศ |
”
|
๔๙ | |
ได้ช้างเผือกพลายเมืองเพ็ชรบุรีชื่อ พระแก้วทรงบาศ |
”
|
๕๐ | |
ได้ช้างเผือกแม่ลูกที่ตำบลป่ามหาโพธิ์ |
”
|
๕๐ | |
ได้ช้างเผือกพลายที่ป่าทเลชุบศรชื่อ พระบรมไกรสร |
”
|
๕๐ | |
ได้ช้างเผือกพลายที่ตำบลป่าน้ำทรงชื่อ พระสุริยกุญชร |
”
|
๕๐ | |
ถวายพระนามพระเจ้าช้างเผือกเพิ่มในท้ายพระนามเดิม |
”
|
๕๐ | |
พระเจ้าหงษาวดีกยอดินนรทา หรือกฤษดานุรุทธ ให้มาขอช้างเผือก ไม่ได้ |
”
|
๕๐ | |
กองทัพหงษาวดียกมารบ ครั้งที่ ๓ พระเจ้าหงษาวดียกทัพหลวงมา |
น่า
|
๕๓ | |
พระเจ้าหงษาวดียกไปติดเมืองพิศณุโลก |
”
|
๕๕ | |
พระมหาธรรมราชายอมแพ้แก่พระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๕๖ | |
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิยอมทำไมตรี |
”
|
๖๑ | |
พระเจ้าหงษาวดีขอช้างเผือก ๔ ช้างกับพระราเมศวร พระยาจักรี พระสุนทรสงคราม ได้แล้วยกทัพกลับไป |
”
|
๖๒ | |
พระยาตานีเข้ามาช่วยราชการทัพ กลับเปนขบถ |
”
|
๖๓ | |
(พระไชยเชษฐา) พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตทูลขอพระเทพกษัตรีย์เปนพระมเหษี |
”
|
๖๓ | |
พระมหาจักรพรรดิส่งพระแก้วฟ้าไปแทนพระเทพกษัตรีย์ |
”
|
๖๔ | |
พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตคืนพระแก้วฟ้า |
”
|
๖๕ | |
ส่งพระเทพกษัตรีย์ไปล้านช้าง |
”
|
๖๕ | |
พระเจ้าหงษาวดีคิดกับพระมหาธรรมราชาแย่งพระเทพกษัตรีย์ไปหงษาวดี |
”
|
๖๖ | |
แผ่นดินสมเด็จพระมหินทราธิราช ครั้งที่ ๑ จุลศักราช ๙๑๔–๙๑๖ | |||
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิละราชสมบัติ เสด็จออกไปอยู่วังหลัง |
น่า
|
๖๖ | |
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสด็จขึ้นไปปฏิสังขรณ์พระมหาธาตุเมืองลพบุรี |
”
|
๖๗ | |
สมเด็จพระมหินทราธิราชเกิดวิวาทกับพระมหาธรรมราชา |
น่า
|
๖๗ | |
สมเด็จพระมหินทราธิราชให้พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตยกมาตีเมืองพิศณุโลก แลส่งพระยาสีหราชเดโชกับพระท้ายน้ำขึ้นไปเปนไส้ศึก |
”
|
๖๗ | |
กองทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตยกมาตีเมืองพิศณุโลก |
”
|
๖๘ | |
สมเด็จพระมหินทราธิราชยกทัพเรือขึ้นไปเมืองพิศณุโลก |
”
|
๖๘ | |
พระมหาธรรมราชาเผาทัพเรือสมเด็จพระมหินทราธิราช |
”
|
๖๙ | |
พระเจ้าหงษาวดีให้มาช่วยเมืองพิศณุโลก |
”
|
๗๐ | |
กองทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตถอยจากเมืองพิศณุโลก |
”
|
๗๐ | |
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงผนวช |
”
|
๗๑ | |
แผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ครั้งที่ ๒ จุลศักราช ๙๑๖–๙๑๗ | |||
สมเด็จพระมหินทราธิราชถวายราชสมบัติคืนแก่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ |
น่า
|
๗๒ | |
พระมหาธรรมราชาไปกรุงหงษาวดี |
”
|
๗๓ | |
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิขึ้นไปรับพระวิสุทธิกษัตรีย์กับพระเอกาทศรฐมาจากเมืองพิศณุโลก |
”
|
๗๓ | |
สมเด็จพระมหินทราธิราชให้ไปตีเมืองกำแพงเพ็ชร |
”
|
๗๔ | |
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๔ พระเจ้าหงษาวดียกทัพหลวงมา |
”
|
๗๕ | |
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิสวรรคต |
”
|
๘๐ | |
แผ่นดินสมเด็จพระมหินทราธิราช ครั้งที่ ๒ จุลศักราช ๙๑๗–๙๑๘ | |||
พระยารามบัญชาการรักษาพระนคร |
น่า
|
๘๑ | |
พระมหาธรรมราชาลวงขอพระยารามไปถวายพระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๘๕ | |
พระศรีเสาวราชลูกเธอบัญชาการรักษาพระนคร |
”
|
๘๙ | |
สมเด็จพระมหินทราธิราชสงไสยพระศรีเสาวราช ให้ปลงพระชนม์เสีย |
”
|
๘๙ | |
กองทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตยกมาช่วยสมเด็จพระมหินทราธิราช |
”
|
๙๐ | |
ทัพหงษาวดีตีทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตแตก |
”
|
๙๒ | |
พระมหาธรรมราชาแต่งพระยาจักรีเข้าไปเปนไส้ศึกในพระนคร |
”
|
๙๒ | |
พระยาจักรีได้บัญชาการรักษาพระนคร แกล้งให้แพ้พระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๙๓ | |
เสียพระนครแก่พระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๙๔ | |
แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๑ (พระมหาธรรมราชา) จุลศักราช ๙๑๘–๙๔๐ | |||
พระเจ้าหงษาวดีอภิเศกพระมหาธรรมราชาธิราช |
น่า
|
๙๕ | |
พระมหินทราธิราชสวรรคต |
”
|
๙๖ | |
ตั้งข้าราชการผู้ใหญ่ |
”
|
๙๗ | |
ศึกลแวก ครั้งที่ ๑ พระยาลแวกยกมาตีพระนคร |
”
|
๙๗ | |
พระเพ็ชรรัตนเจ้าเมืองเพ็ชรบูรณ์เปนขบถ |
”
|
๙๘ | |
ศึกลแวก ครั้งที่ ๒ พระยาลแวกให้มาตีหัวเมืองตวันออก |
”
|
๙๙ | |
พระนเรศวรเสด็จไปครองเมืองพิศณุโลก |
น่า
|
๑๐๐ | |
เสด็จไปช่วยพระเจ้าหงษาวดีตีเมืองล้านช้าง |
”
|
๑๐๐ | |
ศึกลแวก ครั้งที่ ๓ พระยาลแวกยกมาตีพระนคร |
”
|
๑๐๐ | |
พระยาลแวกเอาเทวรูปที่เมืองพระประแดงไป |
”
|
๑๐๑ | |
ศึกลแวก ครั้งที่ ๔ พระยาลแวกให้มาตีเมืองเพ็ชรบุรี |
”
|
๑๐๒ | |
พระยาจีนจันตุเมืองลแวกเข้ามาสวามิภักดิ์แล้วหนี |
”
|
๑๐๒ | |
ให้ขุดขื่อน่าพระนครแต่ป้อมมหาไชยไปบางกะจะ |
”
|
๑๐๓ | |
ญาณพิเชียรเปนขบถ |
”
|
๑๐๓ | |
ศึกลแวก ครั้งที่ ๕ พระยาลแวกยกมาตีเมืองเพ็ชรบุรี |
”
|
๑๐๔ | |
ศึกลแวก ครั้งที่ ๖ พระยาลแวกให้มาตีหัวเมืองตวันออก |
”
|
๑๐๕ | |
พระเจ้าหงษาวดี (กฤษดานุรุทธ) สิ้นพระชนม์ |
”
|
๑๐๖ | |
มังเอิงราชโอรสเปนพระเจ้าหงษาวดี (มีพระนามว่า นันบุเรง คือ นันทราชา หรือไชยสิงห์) |
”
|
๑๐๖ | |
พระนเรศวรไปช่วยพระเจ้าหงษาวดีตีเมืองรุม เมืองคัง |
”
|
๑๐๖ | |
พระเจ้าหงษาวดีลวงพระนเรศวรจะเอาไปทำร้าย |
”
|
๑๐๙ | |
ไทยใหญ่ที่อยู่เมืองกำแพงเพ็ชรหนีพม่ามอญเข้ามาอยู่เมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๑๐ | |
พระเจ้าหงษาวดีอุบายให้พระยาเกียรติ์ พระยาพระราม มารับพระนเรศวร |
”
|
๑๑๑ | |
พระมหาเถรคันฉ่องทูลพระนเรศวรให้ทราบอุบายพระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๑๑๑ | |
พระนเรศวรประกาศการสงครามกับกรุงหงษาวดี |
”
|
๑๑๒ | |
พระนเรศวรยิงสุรกรรมาแม่ทัพหงษาวดีตายที่แม่น้ำสโตง |
”
|
๑๑๓ | |
ตั้งพระมหาเถรคันฉ่องเปนสมเด็จพระสังฆราช |
น่า
|
๑๑๔ | |
แรกแบ่งคณะสงฆ์เปนคณะเหนือ คณะใต้ |
”
|
๑๑๔ | |
ให้พระยาเกียรติ์ พระยาพระราม กับครัวที่ตามเสด็จพระนเรศวรมาจากเมืองมอญ ตั้งอยู่บ้านขมิ้นขุนแสน |
”
|
๑๑๔ | |
พระนเรศวรให้จับพม่ามอญที่เข้ามาตั้งอยู่เมืองเหนือ |
”
|
๑๑๕ | |
พระนเรศวรยกไปตีทัพพม่ามอญที่ตั้งอยู่ณเมืองกำแพงเพ็ชร |
”
|
๑๑๕ | |
พระยาพิไชย พระยาสวรรคโลก เปนขบถ |
”
|
๑๑๖ | |
พระนเรศวรยกไปตีเมืองสวรรคโลก |
”
|
๑๑๗ | |
เชิญรูปพระร่วง พระฦๅ เมืองสวรรคโลก มาไว้เมืองพิศณุโลก |
”
|
๑๑๙ | |
พระยาลแวกขอเปนไมตรี |
”
|
๑๑๙ | |
ส่งครัวไทยใหญ่ลงมาพระนคร ให้ตั้งอยู่ตำบลวัดป้อม |
”
|
๑๒๐ | |
เลิกหัวเมืองเหนือ เทครัวอพยพมารวมอยู่พระนคร |
”
|
๑๒๑ | |
พระนเรศวรเสด็จลงมาอยู่พระนคร เตรียมรบศึกหงษาวดี |
”
|
๑๒๑ | |
ทำไมตรีกับพระยาลแวก |
”
|
๑๒๑ | |
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๑ พระเจ้าหงษาวดีให้พระเจ้าเชียงใหม่กับพระยาพสิมยกมาตีพระนคร |
”
|
๑๒๒ | |
ทัพไทยตีพระยาพสิมแตกที่เมืองสุพรรณ |
”
|
๑๒๓ | |
พระราชมานูตีทัพน่าเชียงใหม่แตก ทัพเชียงใหม่เลิกกลับไป |
”
|
๑๒๔ | |
แต่งข้าหลวงไปปันแดนกับพระยาลแวก |
”
|
๑๒๕ | |
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๒ พระเจ้าหงษาวดีให้พระเจ้าเชียงใหม่ยกลงมาตีพระนคร |
”
|
๑๒๖ | |
พระยาลแวกให้พระศรีสุพรรณมาธิราชคุมพลเข้ามาช่วย |
”
|
๑๒๗ | |
พระเจ้าหงษาวดีให้พระมหาอุปราชายกหนุนมาตั้งอยู่เมืองกำแพงเพ็ชร |
น่า
|
๑๒๘ | |
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ ตีทัพน่าเชียงใหม่ที่ปากโมกน้อย |
”
|
๑๒๙ | |
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ ตีทัพพระเจ้าเชียงใหม่แตกที่บ้านแห |
”
|
๑๓๑ | |
สมเด็จพระมหาธรรมราชายกทัพหลวงหนุนขึ้นไป |
”
|
๑๓๓ | |
พระนเรศวรยกตามไปตีได้ค่ายหลวงของพระเจ้าเชียงใหม่ที่ตำบลชะไว |
”
|
๑๓๔ | |
พระนเรศวรเกิดอริกับพระศรีสุพรรณมาธิราช |
”
|
๑๓๕ | |
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๓ พระเจ้าหงษาวดียกมาตีพระนคร |
”
|
๑๓๗ | |
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ รบกองทัพพระมหาอุปราชาที่ตำบลชายเคือง |
”
|
๑๓๙ | |
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ จะปลอมเข้าค่ายพระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๑๔๐ | |
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ ตีทัพพระเจ้าหงษาวดีที่ปากโมกใหญ่ |
”
|
๑๔๑ | |
พระเจ้าหงษาวดีเลิกทัพกลับไป |
”
|
๑๔๒ | |
ศึกลแวก ครั้งที่ ๗ พระยาลแวกให้มาตีหัวเมืองตวันออก |
”
|
๑๔๒ | |
กองทัพกรุงไปตีทัพลแวกแตก |
”
|
๑๔๒ | |
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๔ พระเจ้าหงษาวดียกมาตีพระนคร |
”
|
๑๔๓ | |
พระนเรศวรปีนค่ายพระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๑๔๔ | |
พระเจ้าหงษาวดีเลิกทัพกลับไป |
”
|
๑๔๕ | |
สมเด็จพระมหาธรรมราชาสวรรคต |
”
|
๑๔๕ | |
แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๒ (พระนเรศวรมหาราช) จุลศักราช ๙๔๐–๙๕๕ | |||
เตรียมทัพหลวงจะไปตีกรุงกัมพูชา (เมืองลแวก) |
น่า
|
๑๔๖ | |
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๑ พระเจ้าหงษาวดีให้พระมหาอุปราชายกมาตีพระนคร |
”
|
๑๔๗ | |
สมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรฐยกทัพหลวงไปตั้งรบทัพมอญที่ปากโมก |
”
|
๑๕๐ | |
กองทัพหลวงรบทัพหงษาวดี |
”
|
๑๕๖ | |
สมเด็จพระนเรศวรทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา |
”
|
๑๕๘ | |
ทัพหงษาวดีแตก |
”
|
๑๕๙ | |
สมเด็จพระนเรศวรให้ก่อพระเจดีย์สรวมศพพระมหาอุปราชาที่ตะพังตรุ |
”
|
๑๕๙ | |
มีรับสั่งให้ปฤกษาโทษนายทัพนายกองที่ตามเสด็จไม่ทันยุทธหัตถี |
”
|
๑๖๐ | |
สมเด็จพระพนรัตนถวายพระพรขอโทษนายทัพนายกอง |
”
|
๑๖๐ | |
มีรับสั่งให้ข้าราชการที่พ้นโทษคุมกองทัพไปตีเมืองทวาย เมืองตะนาวศรี แก้ตัว |
”
|
๑๖๒ | |
กลับตั้งหัวเมืองเหนืออย่างเดิม |
”
|
๑๖๓ | |
พระเจ้าหงษาวดีให้นายทัพนายกองที่แตกทัพไปรักษาเมืองทวาย เมืองตะนาวศรี |
”
|
๑๖๔ | |
พระเจ้าเชียงใหม่ยอมมาสวามิภักดิ์ |
”
|
๑๖๔ | |
ทัพล้านช้างมาตีเมืองเชียงแสน พระเจ้าเชียงใหม่ขอกองทัพกรุงขึ้นไปช่วย |
น่า
|
๑๖๖ | |
กองทัพกรุงขึ้นไปห้ามทัพล้านช้างเลิกกลับไป |
”
|
๑๖๗ | |
ให้พระยารามเดโชเปนข้าหลวงประจำอยู่เมืองเชียงแสน |
”
|
๑๖๗ | |
กองทัพไทยตีได้เมืองทวาย เมืองตะนาวศรี |
”
|
๑๖๗ | |
กองทัพไทยที่เมืองทวาย เมืองตะนาวศรี แต่งทัพเรือออกตีทัพมอญที่มาช่วยแตก |
”
|
๑๖๘ | |
กองทัพไทยตีทัพมอญที่ยกมาทางบกแตกที่ใกล้เมืองกลิอ่อง |
”
|
๑๗๐ | |
จัดการเมืองทวายแล้ว กองทัพกรุงยกกลับ |
”
|
๑๗๐ | |
กองทัพไทยก่อพระเจดีย์ ๓ องค์ที่ต่อแดน |
”
|
๑๗๐ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตีกรุงกัมพูชา ครั้งที่ ๑ |
”
|
๑๗๑ | |
กองทัพหลวงขัดเสบียง ต้องยกกลับ |
”
|
๑๗๒ | |
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๒ พระเจ้าหงษาวดีให้พระเจ้าแปรยกมา |
”
|
๑๗๓ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตีพระเจ้าแปรแตกที่ตำบลสังขล่า |
”
|
๑๗๔ | |
พระเจ้าหงษาวดีให้ถอดพระเจ้าแปร |
”
|
๑๗๕ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปตีกรุงกัมพูชา ครั้งที่ ๒ |
”
|
๑๗๕ | |
ได้กรุงกัมพูชา จับพระยาลแวกแลพระศรีสุพรรณมาธิราชได้ |
”
|
๑๘๙ | |
ทำพระราชพิธีปฐมกรรมประหารชีวิตรพระยาลแวก (นักพระสัฏฐา) |
”
|
๑๙๐ | |
กวาดครัวเขมรมากรุง |
”
|
๑๙๑ | |
พระยาศรีไสยณรงค์ผู้รั้งราชการเมืองตะนาวศรีเปนขบถ |
”
|
๑๙๒ | |
ให้สมเด็จพระเอกาทศรฐยกกองทัพออกไปปราบพระยาศรีไสยณรงค์ |
น่า
|
๑๙๒ | |
ได้เมืองตะนาวศรี จับตัวพระยาศรีไสยณรงค์ได้ |
”
|
๑๙๕ | |
เจ้าเมืองเมาะลำเลิงวิวาทกับเจ้าเมืองเมาะตมะ เจ้าเมืองเมาะลำเลิงสวามิภักดิ์ ขอกองทัพยกไปช่วยป้องกันเมือง |
”
|
๑๙๖ | |
แต่งกองทัพไปช่วยรักษาเมืองเมาะลำเลิง |
”
|
๑๙๖ | |
พระสุธรรมราชาราชบุตรนักพระสัฎฐาได้เปนพระยาลแวก |
”
|
๑๙๗ | |
พระยาลแวกสวามิภักดิ์ |
”
|
๑๙๗ | |
เตรียมกองทัพไปตีเมืองหงษาวดี |
”
|
๑๙๙ | |
กองทัพเจ้าพระยาจักรียกไปตั้งที่เมืองเมาะลำเลิง |
”
|
๒๐๐ | |
เมืองตองอูแลหัวเมืองมอญอิกหลายเมืองสวามิภักดิ์ |
”
|
๒๐๐ | |
พระมหาเถรเสียมเพรียมบอกอุบายให้พระยาตองอูคิดตั้งตัวเปนใหญ่ |
”
|
๒๐๑ | |
พระยาตองอูยุให้หัวเมืองมอญแตกกับไทย |
”
|
๒๐๕ | |
พวกมอญหลงอุบายพระยาตองอู จับไทยที่ออกไปเกี่ยวเข้า |
”
|
๒๐๕ | |
เจ้าพระยาจักรีจะเร่งเอาผู้ร้ายมอญกับเจ้าเมืองเมาะลำเลิง เจ้าเมืองเมาะลำเลิงเอาใจออกหาก อพยหนี |
”
|
๒๐๖ | |
มอญที่สวามิภักดิ์เกิดเปนขบถ |
”
|
๒๐๗ | |
เสด็จยกทัพหลวงไปเมืองเมาะตมะ |
”
|
๒๐๘ | |
พระยาตองอูยกไปรักษาเมืองหงษาวดี |
”
|
๒๑๒ | |
ทัพหลวงตีได้เมืองเมาะตมะ |
น่า
|
๒๑๔ | |
พระยาตองอูเผาเมืองหงษาวดีแล้วพาพระเจ้าหงษาวดีหนีไปเมืองตองอู |
”
|
๒๑๕ | |
ทัพหลวงเสด็จถึงเมืองหงษาวดี |
”
|
๒๑๖ | |
ทัพหลวงยกไปเมืองตองอู |
”
|
๒๑๖ | |
พระยาตองอูแต่งทูตคุมบรรณาการมาถวาย |
”
|
๒๑๗ | |
พระมหาเทพจับทูตของพระยาตองอู |
”
|
๒๑๘ | |
พระยาตองอูทำอุบายหน่วงกองทัพหลวงไม่ให้ตีเมือง |
”
|
๒๑๘ | |
ทัพหลวงเข้าตีเมืองตองอู |
”
|
๒๑๙ | |
พระเจ้าเชียงใหม่วิวาทกับพระยารามเดโชข้าหลวง |
”
|
๒๒๑ | |
เมืองแสนหวีสวามิภักดิ์ |
”
|
๒๒๒ | |
กองทัพหลวงขัดเสบียง ต้องยกกลับ |
”
|
๒๒๒ | |
ให้สมเด็จพระเอกาทศรฐไประงับวิวาทเมืองเชียงใหม่ |
”
|
๒๒๒ | |
ตั้งพระยาทละอยู่ครองเมืองเมาะลำเลิง เมืองเมาะตมะ ควบคุมหัวเมืองมอญที่ขึ้นไทย |
”
|
๒๒๓ | |
สมเด็จพระเอกาทศรฐทรงสมัคสมานเมืองเชียงใหม่กับหัวเมืองที่ใกล้เคียง |
”
|
๒๒๓ | |
สมเด็จพระนเรศวรกลับจากเมืองตองอูไปประทับที่เมืองสุพรรณ |
”
|
๒๒๙ | |
สมเด็จพระเอกาทศรฐเสด็จกลับมาเฝ้าที่เมืองสุพรรณ |
”
|
๒๓๕ | |
พระยาลแวกพิราไลย เขมรทูลขอพระศรีสุพรรณมาธิราชออกไปครองกรุงกัมพูชา |
”
|
๒๓๕ | |
พระยาอ่อนเปนขบถต่อพระยาลแวก โปรดให้พระมหาธรรมราชาราชโอรสยกกองทัพไปช่วยตีพระยาอ่อนแตก |
น่า
|
๒๓๖ | |
สมเด็จพระนเรศวรเสด็จจากเมืองสุพรรณบุรีไปประทับเมืองราชบุรี |
”
|
๒๓๗ | |
สมเด็จพระเอกาทศรฐเสด็จขึ้นไปเมืองพิศณุโลก ปิดทองพระพุทธชินราช |
”
|
๒๓๗ | |
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์เสด็จจากเมืองราชบุรีไปประพาศทางฝั่งทเลถึงสามร้อยยอด |
”
|
๒๓๙ | |
กลับจากประพาศ เสด็จมาประทับเมืองเพ็ชรบุรี |
”
|
๒๓๙ | |
เตรียมทัพจะยกไปตีเมืองตองอู |
”
|
๒๓๙ | |
พระยาอังวะยกมาตีเมืองหน่าย แล้วจะตีเมืองแสนหวี |
”
|
๒๓๙ | |
เสด็จยกทัพหลวงจะไปตีเมืองอังวะ |
”
|
๒๔๐ | |
ทัพหลวงถึงเมืองเชียงใหม่ ทรงระงับวิวาทในระหว่างพระเจ้าเชียงใหม่กับพระยารามเดโช |
”
|
๒๔๐ | |
ทัพหลวงสมเด็จพระนเรศวรยกไปทางเมืองห้างหลวงสมเด็จพระเอกาทศรฐยกไปทางเมืองฝาง |
”
|
๒๔๑ | |
สมเด็จพระนเรศวรเสด็จถึงเมืองห้างหลวง ทรงพระประชวรสวรรคต |
”
|
๒๔๑ | |
สมเด็จพระเอกาทศรฐได้ข่าวประชวร ตามไปเมืองห้างหลวง |
”
|
๒๔๑ | |
แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๓ (พระเอกาทศรฐ) จุลศักราช ๙๕๕–๙๖๓ | |||
เชิญพระบรมศพสมเด็จพระนเรศวรยกทัพกลับคืนพระนคร |
น่า
|
๒๔๓ | |
ตั้งพระทุลองลูกพระเจ้าเชียงใหม่เปนพระศรีสุมหาธรรมราชา |
”
|
๒๔๔ | |
เมืองไทรแต่งทูตแลเครื่องบรรณาการเข้ามาถวาย ขึ้นไปเฝ้าที่เมืองกำแพงเพ็ชร |
”
|
๒๔๔ | |
ทำพระราชพิธีสงครามาภิเศก แห่เสด็จจากปากโมก ประเวศพระนคร |
”
|
๒๔๔ | |
สร้างวัดวรเชษฐาราม |
”
|
๒๔๗ | |
หัวเมืองมอญเปนขบถต่อพระยาตองอู |
”
|
๒๔๙ | |
พระยาตองอูแอบอ้างรับสั่งพระเจ้าหงษาวดีลวงหัวเมืองมอญ |
”
|
๒๔๙ | |
นักสร้างบุตรพระยาตองอูลอบปลงพระชนม์พระเจ้าหงษาวดี |
”
|
๒๕๐ | |
พระยาตองอูกลัวหัวเมืองมอญจะขบถ ประกาศว่า จะมาขึ้นกรุงศรีอยุทธยา |
”
|
๒๕๑ | |
หัวเมืองมอญออกหากจากพระยาตองอูมาสวามิภักดิ์พระยาทละ ขึ้นกรุงศรีอยุทธยา |
”
|
๒๕๒ | |
พระยาตองอูแต่งทูตคุมเครื่องบรรณาการเข้ามาถวาย ขอขึ้นกรุงศรีอยุทธยา |
”
|
๒๕๒ | |
แต่งเรือทำพระราชพิธีอาศวยุช |
”
|
๒๕๒ | |
สร้างพระพุทธรูปสนองพระองค์ แลทำพระราชพิธีไล่เรือรับพระพุทธรูป |
”
|
๒๕๔ | |
ตั้งพระราชกำหนดกฎพระไอยการ |
น่า
|
๒๕๖ | |
ตั้งส่วยแลอากรขนอนตลาด |
”
|
๒๕๖ | |
พระราชทานที่กัลปนาเปนนิตยภัตรสงฆ์ |
”
|
๒๕๖ | |
ตั้งเจ้าฟ้าสุทัศนราชโอรสเปนพระมหาอุปราช |
”
|
๒๕๖ | |
พระมหาอุปราชเสวยยาพิศม์สิ้นพระชนม์ |
”
|
๒๕๗ | |
สมเด็จพระเอกาทศรฐสวรรคต |
”
|
๒๕๗ | |
แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๔ (เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์) จุลศักราช ๙๖๓–๙๖๔ | |||
พระศรีศิลป์เปนขบถ จับพระเจ้าแผ่นดินปลงพระชนม์ |
น่า
|
๒๕๗ | |
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ ๑ (พระเจ้าทรงธรรม) จุลศักราช ๙๖๔–๙๘๙ | |||
ตั้งจมื่นศรีสรรักษ์เปนพระมหาอุปราช |
น่า
|
๒๕๘ | |
พระมหาอุปราชสิ้นพระชนม์ |
”
|
๒๕๘ | |
ยี่ปุ่นเปนขบถ |
”
|
๒๕๘ | |
ตั้งพระมหาอำมาตย์ที่ปราบยี่ปุ่นขบถเปนเจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์ |
”
|
๒๕๙ | |
ชักพระมงคลบพิตรจากฝ่ายตวันออกพระราชวังมาทำมณฑปไว้ฝ่ายตวันตก |
”
|
๒๕๙ | |
เสียเมืองตะนาวศรีแก่มอญ |
”
|
๒๕๙ | |
พูนดินน่าวิหารแกลบเปนที่ทำการพระเมรุ |
”
|
๒๕๙ | |
พบรอยพระพุทธบาท |
น่า
|
๒๕๙ | |
สร้างบริเวณวัดพระพุทธบาท |
”
|
๒๖๐ | |
ตัดทางหลวงแต่ท่าเรือไปพระพุทธบาท |
”
|
๒๖๐ | |
สร้างตำหนักท่าเจ้าสนุก |
”
|
๒๖๐ | |
แปลงปัถวีเรือไชยเปนเรือกิ่ง |
”
|
๒๖๐ | |
ฉลองวัดพระพุทธบาท |
”
|
๒๖๐ | |
พระปรางค์วัดมหาธาตุพัง |
”
|
๒๖๑ | |
แต่งหนังสือมหาชาติคำหลวง |
”
|
๒๖๑ | |
สร้างพระไตรปิฎกจบบริบูรณ์ |
”
|
๒๖๑ | |
สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมสวรรคต |
”
|
๒๖๑ | |
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ (พระเชษฐาธิราช) จุลศักราช ๙๘๙–๙๙๑ | |||
พระศรีศิลป์ราชอนุชาเปนขบถ จับได้ |
น่า
|
๒๖๑ | |
เจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์ทำศพ เกิดสงไสยว่า จะเปนขบถ |
”
|
๒๖๒ | |
เจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์เปนขบถ จับพระเจ้าแผ่นดินปลงพระชนม์ |
”
|
๒๖๒ | |
แผ่นดินสมเด็จพระอาทิตยวงษ์ ๖ เดือน | |||
ขุนนางถวายราชสมบัติแก่เจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์ |
น่า
|
๒๖๕ |
งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
- ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
- แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก