กฎหมายไทยฯ/เล่ม 5
งานนี้ยังไม่เสร็จ สามารถดูและร่วมพัฒนาได้ที่ดัชนีนี้: 1 |
กฎหมายไทย คือ
พระราชบัญญัติและประกาศ
ซึ่งตั้งขึ้นในรัชกาลของ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผู้ทรงพระคุณธรรมอันประเสริฐ
เล่ม ๕
หลวงรัตนาญัปติ (เปล่ง)
อธิบดีกรมอัยการในกระทรวงยุติธรรม
เปนผู้รวบรวมเอามาลงพิมพ์
ไว้เปนสมุดเล่มเดียวกันเพื่อให้เปน
ประโยชน์แก่การพิจารณาพิพากษาคะดีทั้งปวง
ตีพิมพ์ที่โรงพิมพ์วิชากร บ้านหม้อ
ถนนเฟื่องนคร กรุงเทพฯ
ราคาเล่มละ ๘ บาท
รัตนโกสินทรศก ๑๑๔
สารบานน่า
๓๐๕ | พระราชบัญญัติเครื่องราชอิศิริยาภรณ์อันมีเกียรติยศมงกุฎสยาม รวม ๓๒ มาตรา รัตนโกสินทรศก ๑๑๒ | น่า | ๑๖๐๒ | |||
๓๐๖ | พระราชบัญญัติเครื่องราชอิศิริยาภรณ์อันเปนโบราณราชมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ รวม ๒๕ มาตรา รัตนโกสินทรศก ๑๑๒ | น่า | ๑๖๑๙ | |||
๓๐๗ | พระราชบัญญัติตั้งศาลรับสั่งเปนศาลพิเศศครั้งหนึ่งสำหรับคนในบังคับสยามที่ต้องหาว่ากระทำความร้ายผิดกฎหมายที่ทุ่งเชียงคำ และที่แก่งเจ็ก เมืองคำมวน รวม ๒๙ ข้อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๒ | น่า | ๑๖๓๗ | |||
๓๐๘ | ประกาศ ว่าด้วยไม่ให้กักขังคนที่จะกลับไปบ้านเมืองของคนในฝั่งซ้ายฟากตวันออกแม่น้ำโขง รัตนโกสินทรศก ๑๑๒ | น่า | ๑๖๕๐ | |||
๓๐๙ | ประกาศศาลโบริสภา ว่าด้วยน่าที่พลตระเวรรักษาท้องถนน รวม ๑๑ ข้อ จุลศักราช ๑๒๔๙ | น่า | ๑๖๕๓ | |||
๓๑๐ | ประกาศกระทรวงพระนครบาล ว่าด้วยห้ามมิให้ถือไม้พลองกระบองสั้นในท้องถนน รวม ๒ ข้อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๖๖๐ | |||
๓๑๑ | ประกาศแจ้งความ เรื่อง ชำระความพระยอด รวม ๑๓ ข้อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๖๖๒ | |||
๓๑๒ | พระราชบัญญัติสำหรับเครื่องราชอิศิริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงษ์ รวม ๒๖ มาตรา รัตนโกสินทรศก ๑๑๒ | น่า | ๑๖๗๑ | |||
๓๑๓ | ประกาศตั้งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๐๕ | |||
๓๑๔ | กฎเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยมิให้ศาลอุทธรณ์เรียกค่าธรรมเนียมความอุทธรณ์จากผู้พิพากษาศาลที่ต้องอุทธรณ์ รวม ๒ ข้อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๐๖ | |||
๓๑๕ | ประกาศเปลี่ยนตำแหน่งเสนาบดี รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๑๐ | |||
๓๑๖ | ประกาศจัดปันน่าที่กระทรวงกระลาโหมมหาดไทย รวม ๕ ข้อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๑๑ | |||
๓๑๗ | ประกาศตั้งศาลโบริสภาเปนศาลกองตระเวรสำหรับกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นอีกสามศาล รวม ๖ ข้อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๑๔ | |||
๓๑๘ | ประกาศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสวรรคต รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๒๑ | |||
๓๑๙ | พระราชบัญญัติรัฐมนตรี รวม ๑๒ มาตรา รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๒๒ | |||
๓๒๐ | ประกาศสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๓๐ | |||
๓๒๑ | ประกาศตราสำหรับตำแหน่ง รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๗๓๔ | |||
๓๒๒ | พระราชบัญญัติลักษณพยาน รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ คือ | |||||
พระราชปรารภ | ||||||
หมวดที่๑ว่าด้วยชื่อพระราชบัญญัติ แลอธิบาย และยกกฎหมายเดิม | ||||||
หมวดที่๒ว่าด้วยคนจำพวกใดควรอ้างเปนพยานได้ | ||||||
หมวดที่๓ว่าด้วยวิธีสืบพยาน ๓ ประการ | ||||||
หมวดที่๔ว่าด้วยลักษณอ้างสรรพหนังสือต่าง ๆ เปนพยาน | ||||||
หมวดที่๕ว่าด้วยลักษณกะประเด็นข้อสืบสักขีพยานมาประกอบเอาความจริงลงในคำชี้สองสฐาน | ||||||
หมวดที่๖ว่าด้วยสืบพยานนอกกรุงเทพฯ และศาลหัวเมืองสืบพยานในกรุงเทพฯ | ||||||
หมวดที่๗ว่าด้วยโทษละเมิดอำนาจเจ้าพนักงาน | ||||||
หมวดที่๘ว่าด้วยโทษที่เกี่ยวข้องกับการสืบพยาน | ||||||
หมวดที่๙ว่าด้วยกฎหมายเดิมซึ่งยังคงให้ใช้ต่อไป ยกเอามารวมไว้ในพระราชบัญญัตินี้ด้วย | ||||||
ตาตะรางหมายเลข๑ | ||||||
ตาตะรางหมายเลข๒ | ||||||
ตาตะรางหมายเลข๓ | ||||||
รวม ๖๔ มาตรา | น่า | ๑๗๓๖ | ||||
๓๒๓ | ประกาศว่าด้วยแบ่งแขวงของศาลโปริสภาทั้ง ๔ ศาลในกรุงเทพฯ รวม ๔ ข้อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๘๑๑ | |||
๓๒๔ | ประกาศเลิกอากรกอไม้ไผ่สีสุก รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | น่า | ๑๘๑๔ | |||
๓๒๕ | ประกาศห้ามตั้งร้านขายห่วงโยนห่วงฬ่อลวงเปนการพนัน จุลศักราช ๑๒๔๕ | น่า | ๑๘๑๖ | |||
๓๒๖ | พระราชบัญญัติสำหรับเครื่องราชอิศิริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรกรีบรมราชวงษ์ แก้ไขใหม่ ร,ศ, ๑๑๔ | น่า | ๑๘๑๗ | |||
๓๒๗ | พระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม รัตนโกสินทรศก ๑๑๐ คือ | |||||
ข้อ๑ธงบรมราชวัชมหาสยามินทร์สำหรับแผ่นดินกรุงสยาม | ||||||
ข้อ๒ธงจุฑาธิปไตย คือ ราชธวัชสำหรับแผ่นดินกรุงสยาม | ||||||
ข้อ๓ธงเยาวราชธวัชสำหรับราชตระกูล | ||||||
ข้อ๔ธงไชยเฉลิมพลสำหรับกองทหาร | ||||||
ข้อ๕ธงช้างเผือกทรงเครื่องยืนแทนสำหรับผู้แทนพระองค์พระเจ้าแผ่นดินฤๅผู้แทนเคาเวินเมนต์ | ||||||
ข้อ๖ธงช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นสำหรับกงสุลประจำราชการต่างประเทศ | ||||||
ข้อ๗ธงช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นสำหรับผู้ซึ่งไปราชการและผู้ว่าราชการเมือง | ||||||
ข้อ๘ธงช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นสำหรับเรือพระที่นั่งแลเรือรบหลวง | ||||||
ข้อ๙ธงเกตุสำหรับยศทัพเรือ | ||||||
ข้อ๑๐ธงหางแซงแซวสำหรับหมายตำแหน่งยศนายพลเรือ | ||||||
ข้อ๑๑ธงหางจรเข้สำหรับใช้ในเรือรบต่าง ๆ เปนที่หมายยศตำแหน่งผู้บังคับการ | ||||||
ข้อ๑๒ธงช้างนำร่องสำหรับที่หมายชักขึ้นเมื่อใด นำร่องอยู่ที่นั้น | ||||||
ข้อ๑๓ธงช้างชาติสยามสำหรับใช้ในเรือไปรเวศได้ทั่วไป รวม ๑๓ ข้อ | น่า | ๑๘๑๙ | ||||
๓๒๘ | ข้อบังคับสำหรับรัฐมนตรีสภาซึ่งที่ชุมนุมปฤกษาเรียบเรียงไว้ รัตนโกสินทรศก ๑๑๓ | |||||
ข้อ๑การนัดชุมนุม | ||||||
ข้อ๒รัฐมนตรีต้องมาชุมนุมตามกำหนดนัด | ||||||
ข้อ๓รัฐมนตรละไปเสียจากที่ชุมนุม | ||||||
ข้อ๔รัฐมนตรีละการชุมนุมโดยความจำเปน | ||||||
ข้อ๕รัฐมนตรีขาดชุมนุม | ||||||
ข้อ๖น่าที่ผู้เปนประธาน | ||||||
ข้อ๗น่าที่อุปนายก | ||||||
ข้อ๘น่าที่สภาเลขานุการ | ||||||
ข้อ๙ผู้ช่วยสภาเลขานุการ | ||||||
ข้อ๑๐การชุมนุมสองอย่าง | ||||||
ข้อ๑๑๑ระเบียบการชุมนุม | ||||||
ข้อ๑๒อ่านสอบทานรายวัน | ||||||
ข้อ๑๓ระเบียบรายงาน | ||||||
ข้อ๑๔อำนาจแลน่าที่รัฐมนตรีในที่ชุมนุม | ||||||
ข้อ๑๕กิริยาของรัฐมนตรี | ||||||
ข้อ๑๖อำนาจกล่าวข้อความ | ||||||
ข้อ๑๗เคารพต่อผู้เปนประธาน | ||||||
ข้อ๑๘การบอกล่วงน่าก่อนปฤกษาแลถาม | ||||||
ข้อ๑๙คำซึ่งไม่ต้องบอกล่วงน่า | ||||||
ข้อ๒๐ห้ามปฤกษาในคำถามที่มีตอบ | ||||||
ข้อ๒๑ชี้ข้อความ | ||||||
ข้อ๒๒ชี้แจงคำปฤกษา | ||||||
ข้อ๒๓เขียนนำคำปฤกษา | ||||||
ข้อ๒๔ระงับข้อความเวลาหนึ่ง | ||||||
ข้อ๒๕ถามข้อความต่อที่ชุมนุม | ||||||
ข้อ๒๖ถือเอาข้อความขึ้นอิก | ||||||
ข้อ๒๗ข้อความวิเศศสำคัญ | ||||||
ข้อ๒๘อ่านหนังสือ | ||||||
ข้อ๒๙ระเรียบส่งกรรมการ | ||||||
ข้อ๓๐ระเบียบคำต่าง ๆ | ||||||
ข้อ๓๑ตั้งกรรมการวิเศศ กรรมการประจำ | ||||||
ข้อ๓๒ผู้สมควรเปนกรรมการ | ||||||
ข้อ๓๓เรียกประชุมกรรมการ | ||||||
ข้อ๓๔รายงานกรรมการ | ||||||
ข้อ๓๕รับรายงาน | ||||||
ข้อ๓๖รายงานต้องเขียน | ||||||
ข้อ๓๗คำสั่งถึงกรรมการ | ||||||
ข้อ๓๘ที่ชุมนุมแห่งกรรมการ | ||||||
ข้อ๓๙ผู้ชุมนุมนอกกรรมการ | ||||||
ข้อ๔๐เติมข้อความ | ||||||
ข้อ๔๑แบ่งข้อความเปนส่วน | ||||||
ข้อ๔๒ผู้ใดควรจะกล่าวก่อน | ||||||
ข้อ๔๓ตกลงกันโดยดุษณีภาพ | ||||||
ข้อ๔๔ลักษณชี้ขาด | ||||||
ข้อ๔๕ความสำเร็จการชี้ขาด | ||||||
ข้อ๔๖ชี้ขาดแทนกัน | ||||||
ข้อ๔๗รัฐมนตรีมาถึงเวลาชี้ขาดกัน | ||||||
ข้อ๔๘ในการชุมนุมปฤกษาด้วยการทำกฎหมายนั้น ดังนี้ ฎีกาหมายแจกที่ชุม⟨นุม⟩ | ||||||
ข้อ๔๙ส่งฎีกาไปยังกรรมการหนึ่ง | ||||||
ข้อ๕๐ฎีกากฎหมายล่วงแล้วไป | ||||||
ข้อ๕๑คนนอกชุมนุม | ||||||
ข้อ๕๒ต้องฟังคำเรื่องราวร้องขอ | ||||||
ข้อ๕๓ถามคำพยาน | ||||||
ข้อ๕๔การรบกวนผู้กล่าวข้อความ | ||||||
ข้อ๕๕การรักษาความสามัคคีต่อที่ชุมนุม | ||||||
ข้อ๕๖เรียกที่ชุมนุมกลับเข้าระเบียบ | ||||||
ข้อ๕๗ผู้เปนประธานขอให้ชุมนุมตัดสินผู้ทำผิด | ||||||
ข้อ๕๘ปฤกษาโทษผู้ทำผิด | ||||||
ข้อ๕๙ลงโทษผู้ทำผิด | ||||||
ข้อ๖๐การเลิกชุมนุมตามปรกติ | ||||||
ข้อ๖๑การเลิกชุมนุมด้วยความจำเปน | ||||||
ข้อ๖๒อำนาจแลน่าที่ผู้แทนสภานายก | ||||||
ข้อ๖๓การงดข้อบังคับ | ||||||
รวม ๖๓ ข้อ | น่า | ๑๘๒๖ | ||||
๓๒๙ | ประกาศในการเฉลิมพระชนม์พรรษา รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๖๕ | |||
๓๓๐ | ประกาศเลิกศาลโบริสภาที่ ๔ รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๖๗ | |||
๓๓๑ | ประกาศออกพระนามพระชนนีแห่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๖๙ | |||
๓๓๒ | ประกาศตั้งกรรมการตรวจตัดสีนการนา รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๖๙ | |||
๓๓๓ | ประกาศเครื่องราชอิศิริยาภรณ์สำหรับตระกูลจุลจอมเกล้า ฝ่ายใน รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๖๙ | |||
๓๓๔ | ประกาศไม่ให้อุทธรณ์ความในระหว่างพิจารณายังไม่ได้ตัดสิน รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๖๙ | |||
๓๓๕ | พระราชบัญญัติรัฐมนตรี เพิ่มเติม รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ รวม ๔ มาตรา | น่า | ๑๘๖๙ | |||
๓๓๖ | พระธรรมนูญศาลหัวเมือง รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | |||||
มาตรา๑นามพระราชบัญญัติ | ||||||
มาตรา๒กำหนดให้ใช้ | ||||||
มาตรา๓เลิกกฎหมายเก่า | ||||||
มาตรา๔ชนิดศาลหัวเมือง | ||||||
มาตรา๕การตั้งศาลประจำ | ||||||
มาตรา๖การตั้งศาลพิเศศ | ||||||
มาตรา๗จำนวนผู้พิพากษาประจำศาล | ||||||
มาตรา๘กำหนดจังหวัดที่ซึ่งอยู่ในบังคับศาล | ||||||
มาตรา๙ย้ายศาลไปชำระความตามท้องที่ | ||||||
มาตรา๑๐ชั้นผู้พิพากษา | ||||||
มาตรา๑๑การตั้งและเปลี่ยนผู้พิพากษา | ||||||
มาตรา๑๒อำนาจผู้พิพากษา ชั้นที่ ๓ | ||||||
มาตรา๑๓อำนาจผู้พิพากษา ชั้นที่ ๒ | ||||||
มาตรา๑๔อำนาจผู้พิพากษา ชั้นที่ ๑ | ||||||
มาตรา๑๕ผู้พิพากษามีอำนาจแต่เมื่อมีตำแหน่ง | ||||||
มาตรา๑๖อำนาจศาลแขวง | ||||||
มาตรา๑๗อำนาจศาลเมือง | ||||||
มาตรา๑๘อำนาจศาลมณฑล | ||||||
มาตรา๑๙คำพิพากษาโทษประหารชีวิตรและริบทรัพย์สมบัติ ต้องฃอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาต | ||||||
มาตรา๒๐อุทธรณ์ | ||||||
มาตรา๒๑ผู้พิพากษาใหญ่รับผิดชอบอำนาจเหนือพนักงานในศาล | ||||||
มาตรา๒๒น่าที่เฉพาะอธิบดีผู้พิพากษาศาลมณฑล | ||||||
มาตรา๒๓ตั้งผู้แทนผู้พิพากษา | ||||||
มาตรา๒๔ลงอาญาผู้แพ้คะดี | ||||||
มาตรา๒๕ตั้งพนักงานอัยการ | ||||||
มาตรา๒๖ตั้งผู้แทนพนักงานอัยการ | ||||||
มาตรา๒๗อำนาจที่กำนันจะเปรียบเทียบความ | ||||||
มาตรา๒๘อำนาจนายแขวงที่จะเปรียบเทียบความ | ||||||
มาตรา๒๙คู่ความยอมตามเปรียบเทียบและมิยอม | ||||||
มาตรา๓๐คู่ความยอมตามเปรียบเทียบแล้วไม่ทำตาม | ||||||
มาตรา๓๑อำนาจศาลหัวเมืองที่จะเปรียบเทียบความ | ||||||
มาตรา๓๒พนักงานจัดการรักษาพระราชบัญญัติ | ||||||
รวม ๓๒ มาตรา | น่า | ๑๘๗๗ | ||||
๓๓๗ | ประกาศบอกศาลราชทัณฑ์พิเฉทมารวมอยู่ในศาลพระราชอาญา และรวมศาลแพ่งเกษม ศาลแพ่งไกสี เปนศาลแพ่ง รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๙๑ | |||
๓๓๘ | ประกาศให้ลงโทษจำขังแทนโทษทวน รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๙๓ | |||
๓๓๙ | ประกาศพระราชบัญญัติอากรการพนัน แก้ไขเพิ่มเติม รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๙๔ | |||
๓๔๐ | กฎ เปนข้อบังคับอากรฝิ่น ตั้งโดยเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาติ รวม ๖ ข้อ รัตนโกสินทรศก ๑๑๔ | น่า | ๑๘๙๖ | |||
๓๔๐ | พระราชบัญญัติโรงจำนำ รัตนโกสินศก ๑๑๔ | |||||
พระราชดำริห์ | ||||||
มาตรา๑นามพระราชบัญญัติ | ||||||
มาตรา๒กำหนดให้ใช้ | ||||||
มาตรา๓คนชนิดใดเปนผู้ตั้งโรงรับจำนำ | ||||||
มาตรา๔ห้ามไม่ให้ตั้งโรงจำนำ เว้นไว้แต่ได้รับใบอนุญาตเสียก่อน กับกำหนดเจ้าพนักงานผู้ออกผู้คืนใบอนุญาต | ||||||
มาตรา๕คาใบอนุญาตให้ใช้ล่วงน่าทุกเดือน | ||||||
มาตรา๖ใบอนุญาตกำหนดใช้ได้เพียงสิ้นปี | ||||||
มาตรา๗ห้ามผู้รับจำนำไม่ให้ทำมาหากินอย่างอื่น | ||||||
มาตรา๘กำหนดเวลาจำนำแลไถ่ | ||||||
มาตรา๙กระดานป้ายติดน่าโรงจำนำ | ||||||
มาตรา๑๐การจดบาญชีของรับจำนำ | ||||||
มาตรา๑๑ตั๋วรับจำนำ | ||||||
มาตรา๑๒ไม่ให้รับจำนำเด็กแลภิกษุสามเณร | ||||||
มาตรา๑๓อัตราดอกเบี้ย | ||||||
มาตรา๑๔เขียนอัตราดอกเบี้ยปิดไว้ | ||||||
มาตรา๑๕กำหนดให้ไถ่ทรัพย์คืนไป | ||||||
มาตรา๑๖ผู้ใดนำต้วจำนำมาขอไถ่ ต้องถือว่าผู้นั้นเปนเจ้าของ | ||||||
มาตรา๑๗ทรัพยจำนำไว้ที่ไม่มีกำหนดไถ่ พ้นกำหนด ๓ เดือนไปแล้ว หลุดเปนสิทธิ และให้จำหน่ายทรัพยนั้นต่อเมื่อยื่นบาญชีแล้ว ๑๕ วัน | ||||||
มาตรา๑๘ผู้รับจำนำต้องใช้เงินราคาทรัพยที่หายฤๅชำรุดเสียไป | ||||||
มาตรา๑๙เมื่อใบอนุญาตครบกำหนดฤๅต้องคืนแล้ว เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตตั้งเจ้าพนักงานไปรักษาทรัพยที่จำนำไว้ได้ | ||||||
มาตรา๒๐น่าที่ของผู้รับจำนำจะต้องจับตัวคนผู้มาขอจำนำโดยมีกิริยาอันควรสงไสย | ||||||
มาตรา๒๑ห้ามไม่ให้รับจำนำของหลวง | ||||||
มาตรา๒๒เมื่อทรัพยสิ่งใดหายไป ให้พนักงานผู้รักษาท้องที่แจ้งความให้ผู้รับจำนำรู้ทั่วกัน ถ้าได้รับจำนำไว้ ต้องแจ้งให้ทราบ | ||||||
มาตรา๒๓พลตระเวนเข้าค้นโรงจำนำตรวจของและบาญชีได้ | ||||||
มาตรา๒๔พลตระเวนตับตัวคนผู้มีอาการกิริยาอันน่าสงไสยมาได้ | ||||||
มาตรา๒๕ผู้รับจำนำเปน⟨คน⟩ในบังคับต่างประเทศมีหนังสือสัญญา ต้องให้ได้รับอำนาจของกงสุลประเทศนั้น | ||||||
มาตรา๒๖พิกัดโทษปรับไหมและจำไถ่โทษ | ||||||
มาตรา๒๗ฟ้องในกำหนด ๓ เดือน | ||||||
มาตรา๒๘โรงจำนำเก่าให้มารับใบอนุญาติพายใน ๒ เดือน | ||||||
มาตรา๒๙พระราชกำหนดเดิมที่ไม่ใช้ในการรับจำนำตามพระราชบัญญัตินี้ | ||||||
อัตราที่๑ | ||||||
อัตราที่๒ | ||||||
รวม ๒๙ มาตรา | น่า | ๑๙๐๐ | ||||
๓๔๒ | พระราชกำหนดตั้งศาลรับสั่งพิเศษสำหรับชำระสะสางคะดีความที่มีโทษหลวงชั้นเก่าซึ่งค้างอยู่ณะศาลพระราชอาญาในกรุงเทพฯ ทั้งปวง รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๔ | น่า | ๑๙๒๓ |
งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
- ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
- เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
- ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
- ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
- แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก